"บิ๊กรัง" รังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ได้รับคะแนนเสียงโหวตจากสมาชิกอย่างท่วมท้นให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ ต่ออีกสมัย เป็นสมัยที่ 7 (วาระ 2563-2567) ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ณ โพธาลัย เลเชอร์ปาร์ค เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมประกาศพัฒนาวงการกอล์ฟไทย หลังที่ผ่านมาได้สร้างรากฐานความมั่นคงให้กับวงการกอล์ฟเยาวชนมาอย่างยาวนาน
สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย ได้จัดงานประชุมใหญ่ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 58 แห่ง พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 และข้อบังคับสมาคมกีฬากอล์ฟฯ ฉบับแก้ไข พ.ศ.2558 โดยมี นส.กมลวรรณ สุทธิบุตร หัวหน้างานทะเบียนกลางสมาคมกีฬา และ นางสุทิน ทองประไพ ผช.ปฏิบัติงานทะเบียนกลางสมาคมกีฬา กององค์กรและพัฒนากีฬาเป็นเลิศ เป็นผู้แทนการกีฬาแห่งประเทศไทยเข้าร่วมสังเกตการณ์ในการประชุม
โดยในที่ประชุมเริ่มด้วยการแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา และรายงานงบดุลสมาคมฯ จากนั้นเข้าสู่วาระเลือกตั้งนายกสมาคมฯ เนื่องจากหมดวาระ 4 ปี ซึ่งสมาคมมีสมาชิกที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงทั้งสิ้น 180 ราย โดยเข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 104 ราย แบ่งเป็นสมาชิกสามัญ 10 รายการ และวิสามัญ 94 ราย ถือว่าครบองค์ประชุม ซึ่งในที่ประชุมได้เสนอให้ คุณภานุ อนามบุตร จากชมรมกอล์ฟสิงห์ขอนแก่น เป็นประธานชั่วคราว จากนั้น สมชาย แพรุ่งโรจน์ทวี ผู้แทนจากชมรมกอล์ฟสิงห์นนทบุรี ได้เสนอชื่อ นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมคนเก่าเข้ารับตำแหน่งอีกวาระ และมีมติเป็นเอกฉันท์โดยที่ไม่มีคู่แข่ง ซึ่งการดำรงตำแหน่งในครั้งนี้ มีวาระ 4 ปี ระหว่าง 2563-2567
นายรังสฤษดิ์ เผยหลังได้รับเลือกตั้งว่า "สมัยต่อไปก็เป็นสมัยที่ 7 สำหรับ 13 ปีที่ผ่านมา เราทำมา 420 กว่ารางวัล อีก 4 ปีข้างหน้าเราตั้งเป้าที่จะก้าวไปสู่ระดับโลกให้ได้ โดยเฉพาะกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ที่เราจะต้องก้าวข้ามต่อไปให้ได้ อีกทั้งเราเตรียมจะสร้างแมตช์แข่งขันขึ้นอีกรายการด้วย และเรายังจะส่งนักกอล์ฟของเราไปแข่งยังต่างประเทศให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์"
"กับสถานการณ์โควิด-19 ถือว่าเป็นช่วงลำบากเหมือนกัน เพราะคงจะมีการแข่งขันน้อยลง แต่เราก็ยังคงให้นักกอล์ฟของเราซ้อมกันอย่างเต็มที่ ส่วนกีฬาโอลิมปิกและเอเชียนเกมส์ ยังไม่ทราบว่าจะมีการแข่งขันหรือไม่ อย่างไรเราก็พร้อมและมีตัวแทนอยู่แล้ว จึงอยากจะฝากถึงภาครัฐในการสนับสนุน รวมถึงภาคเอกชนที่อยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาวงการ เรายังคงเปิดกว้าง เพราะกีฬากอล์ฟเป็นกีฬาที่ต้นทุนสูง และต้องซ้อมตลอดทั้งปี" นายรังสฤษดิ์ ทิ้งท้าย
ทั้งนี้ข้อกำหนดเดิมของการกีฬาแห่งประเทศไทยนายกสมาคมกีฬาต่างๆ สามารถอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 สมัย โดยนายรังสฤษดิ์ลักษิตานนท์ เข้าเป็นสมาชิก และคณะกรรมการของสมาพันธ์กอล์ฟแห่งเอเชีย-แปซิฟิก (APGC) ตั้งแต่ปี 2553 ที่ผ่านมา ทำให้ได้รับข้อยกเว้นของการกีฬาแห่งประเทศไทยในฐานะเป็นสมาชิกขององค์กรกีฬาในระดับนานาชาติ จึงสามารถรับตำแหน่งนายกสมาคมฯ ได้ต่อเนื่องถึง6 สมัย โดยครั้งนี้ซึ่งมีวาระ 4 ปี พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย 2558 ไม่มีข้อกำหนดดังกล่าว
สำหรับ นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯมาตั้งแต่ปี 2550 สร้างผลงานมาแล้วมากมายอาทิการสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญรางวัลได้เป็นครั้งแรกของประเทศไทยในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์จากผลงาน 1 เหรียญทอง 1 เหรียญทอง 1เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง ที่อินชอนประเทศเกาหลีใต้ เมื่อปี 2557, เหรียญทอง กีฬามหาวิทยาลัยโลกครั้งที่ 24 ปี 2550, แชมป์โนมูระ คัพเป็นครั้งแรกของทีมไทย เมื่อปี 2560 ซึ่งเป็นการแข่งขันกอล์ฟสมัครเล่นทีมชายที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจัดขึ้น 2 ปีครั้ง, เหรียญทองทีมผสมในการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิก ครั้งที่ 3 ประเทศอาร์เจนตินาในปี 2561 รวมถึงการครองเจ้าเหรียญทองในกีฬากอล์ฟการแข่งขันซีเกมส์หลายสมัยเป็นต้น