"โปรเอ็กซ์" เมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกอล์ฟอาชีพไทยต่ออีกสมัย จากการลงคะแนนเสียงชนะคู่แข่ง 198-109 คะแนน ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 เมื่อวันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมแผนพัฒนาวงการกอล์ฟต่อเนื่องแบบมั่นคงและยั่งยืน
สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทยจัดการประชุมสามัญประจำปี 2562 และจัดการเลือกตั้งนายกสมาคม ตามข้อบังคับของสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2561 ณ คลับเฮาส์ สนามวอเตอร์มิลล์ กอล์ฟ คลับ แอนด์ รีสอร์ท เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา มีสมาชิกเข้ามาร่วมการประชุมทั้งสิ้น 324 คน โดยมี นายยุทธนา จีนหีต ผู้อำนวยการกององค์และพัฒนากีฬาเป็นเลิศ และ นางสาวรุ้งรัชฎา ขาวคม พนักงานบริหารงานทั่วไป 6 งานทะเบียนกลางสมาคมกีฬากององค์กรและพัฒนากีฬาเป็นเลิศ ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ โดยในที่ประชุมเริ่มต้นจาก ประธานแจ้งให้ที่ประชุมได้ทราบ ก่อนที่จะมีการขอมติที่ประชุมรับรองรายงานการประชุมใหญ่ประจำปี 2561 เมื่อครั้งที่ผ่านมา พร้อมแถลงกิจกรรมในรอบปีที่ผ่านมาของสมาคม ตามด้วยการแถลงบัญชีรายรับ-รายจ่าย และบัญชีงบดุลของปี 2562 ให้ที่ประชุมใหญ่อนุมัติ
โดยในระเบียบวาระที่ 5 เลือกตั้งนายกสมาคม เนื่องจากครบกำหนดวาระ 4 ปี มีโปรบุญชู เรืองกิจ ตำนานนักกอล์ฟอาชีพของไทยเสนอชื่อให้ "โปรเอ็กซ์" เมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา เป็นนายกสมาคมต่ออีกสมัย โดยมี "โปรเต่า" สิทธิชัย นิ่มนวล ที่เสนอตัวเข้ามาชิงเก้าอี้ ทั้งนี้ที่ประชุมได้เปิดให้ทั้งคู่แสดงวิสัยทัศน์เป็นเวลา 5 นาที ก่อนที่จะมีการลงคะแนนลับ ซึ่งมีสมาชิกมาเซ็นชื่อเพื่อลงคะแนนเสียงทั้งสิ้น 319 คน ผลปรากฏว่า "โปรเอ็กซ์" เมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมได้รับคะแนนเสียงให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมต่ออีก 4 ปี ด้วยคะแนนเสียง 198 - 109 คะแนน โดยที่มีบัตรเสียทั้งสิ้น 7 ใบ และมีผู้ไม่ออกเสียง 5 ใบ
นายเมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา เผยหลังได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมเป็นสมัยที่สองว่า "ถือว่า 4 ปีที่ผ่านมาได้รับประสบการณ์มามาก การเข้ามารับหน้าที่นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพฯ ต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้สิน, ระบบภาษี, การจัดการแข่งขัน และบุคคลากร โดยเฉพาะเรื่องเงินที่สมาคมมีหนี้สินค้างชำระเป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท ถึงปี 2562 สมาคมมีเงินได้สะสมกว่า 21.9 ล้านบาท นอกจากนี้เราได้จัดตั้งทัวร์แข่งขันถึง 3 ทัวร์คือ ไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์, ไทยแลนด์ ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์ และ ไทยแลนด์ แชมเปียนส์ ทัวร์ ที่แข็งแกร่ง เพื่อเป็นฐานให้กับนักกอล์ฟได้เติบโต”
"4 ปีที่ผ่านมา มีโอกาสได้พบกับเพื่อนใหม่ในวงการกอล์ฟระดับโลก ทำให้เกิดมุมมองที่อยากจะให้วงการกอล์ฟของเราเติบโตแบบเขาบ้าง แม้ว่าอาจจะต้องใช้ระยะเวลาก็ตาม ผมเชื่อว่านักกอล์ฟเรามีฝีมือไม่ได้ด้อยกว่าชาติอื่น แต่หากมีการสนับสนุนมากกว่านี้ ผมเชื่อว่านักกอล์ฟเรามีโอกาสที่ดีที่จะก้าวสู่เวทีระดับโลก และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยมากขึ้น ขอบคุณสมาชิกทุกคนที่ให้ความไว้วางใจ และเลือกผมรับหน้าที่นายกสมาคมต่อ สุดท้ายพวกเราก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน" นายเมธี กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับนโยบายหลังจากนี้ สมาคมฯ ยังจัดการแข่งขันตามเดิม โดยแบ่งเป็น 3 ทัวร์ ได้แก่ ไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์ ที่สนับสนุนหลักโดย สิงห์ คอร์เปอเรชั่น และการกีฬาแห่งประเทศไทย จำนวน 8 รายการ, ไทยแลนด์ เดเวลอปเมนท์ ทัวร์ 8 รายการ และ ซีเนียร์ แชมเปียนส์ ทัวร์ อีก 6 รายการ เงินรางวัลรวมทั้งหมด 31.6 ล้านบาท ทั้งนี้ยังเน้นไปถึงการพัฒนานักกอล์ฟอาชีพให้มีความมั่นคงมากขึ้น