"บิ๊กเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการทำทีม "กิเลนผยอง" ที่หลายคนมองว่าเริ่มอยู่ในขาลง เพราะปล่อยตัวหลักออกจากทีมไปเยอะ และเวลานี้มีแต่ดาวรุ่งเต็มทีม โดยเจ้าตัวมองว่าฟุตบอลต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และ "กิเลนผยอง" ก็พร้อมที่จะสร้างแนวทางใหม่ๆ เพื่อให้ฟุตบอลไทยพัฒนาไปในทิศทางที่ดี
"ผมเริ่มต้นกับที่นี่มาตั้งแต่ยังไม่มีอะไร ตอนนี้ผมไม่ได้หวั่นเกรงกับสถานการณ์ตามข่าวลือต่างๆที่ได้แพร่ออกไป ผมว่าการพูดจากภายนอกอาจจะไม่ได้เข้าใจภายใน ผมเชื่อมั่นในการทำงานของสโมสร ทีมของเราเป็นทีมที่มีโครงสร้างที่แข็งแรงมาก มีกำลังสนับสนุนที่พร้อมทั้งผู้สนับสนุนและเจ้าของสโมสร แต่ในรูปแบบของฟุตบอลที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด"
"ยกตัวอย่างคือถ้าเราไม่ปล่อยนักเตะไปค้าแข้งที่ญี่ปุ่น เราก็คงมีลุ้นแชมป์ทุกๆปี แต่อย่างที่บอกว่าฟุตบอลต้องยกระดับให้สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะตัวนักเตะ การปล่อยตัวนักเตะในทุกๆครั้งก็เพื่ออนาคตของตัวนักเตะเอง แต่พวกเขากับทีมของเราก็มีโอกาสที่จะกลับมาอยู่ด้วยกันได้เสมอ ผมเชื่อว่าเรากำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง และผมก็ต้องขอบคุณอเล็กซานเดร กาม่า ที่เข้าใจในแนวทางของสโมสร"
"ส่วนเรื่องของ 2 นักเตะที่ปล่อยยืมไปให้การท่าเรือ เอฟซี ต้องยอมรับว่าสถานการณ์โควิด-19 มันส่งผลกระทบต่อระบบฟุตบอลในประเทศเรา และทั่วโลก โดยเฉพาะสโมสรเอสซีจี เมืองทองฯ ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย จริงๆแล้วสัญญาของเฮแบร์ตี้ เฟร์นันเดส และอดิศักดิ์ ไกรษร กับทีมการท่าเรือ เอฟซี มีถึงสิ้นปี แต่ฟุตบอลลีกมันถูกยืดออกไป ซึ่งเราก็ได้มีการคุยกันเบื้องต้นแล้ว และยืนยันว่าจะไม่มีการดึงตัวทั้ง 2 คนกลับมาสู่สโมสร ก็คงปล่อยให้การท่าเรือ เอฟซี ยืมไปจนจบฤดูกาล"
"เป้าหมายในการเสริมตัวทีมของเราไม่เคยกำหนดกฎเกณฑ์ว่าเราจะหยุดการเสริมทัพเมื่อไหร่ มันมีโอกาสเสริมทีมได้อยู่เสมอ เราต้องการเสริมทีมให้แข็งแกร่ง และเป็นไปตามเป้าหมายของโค้ช เราคงไม่บอกว่าเราจะหยุดเสริมทัพหรือเปล่า ผู้เล่นคนไหนที่อยู่ในสายตาของเราและพร้อมที่จะย้ายสโมสรหรือย้ายมาที่นี่ ข่าวก็มีทั้งจริงและไม่จริง ก็ขึ้นอยู่กับระหว่างสองสโมสรที่ตัดสินใจร่วมกัน หลังจากนี้จะมีเซอร์ไพรส์อีกไหม เราก็พยายามหานักเตะฝีเท้าดีมาร่วมทีมแน่นอน"