มาร์ค บรีส์ ผู้จัดการทีมคนใหม่ของโอเอช ลูเวิน เผยเฝ้ารอคอยเกมเพลย์ออฟนัดที่ 2 ตั้งเป้าเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด เพื่อสร้างประวัติศาสตร์
โดย บรีส์ ผ่านงานการคุมทีมที่เควี มิเชเลน และ แซงต์ ทรุยด็อง ก่อนเตรียมพาทีมลงเล่นนัดสำคัญ ในเกมเพลย์ออฟชิงสิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นสู่ จูปิแลร์ โปรลีก วันที่ 2 สิงหาคม 2563
พร้อมกันนี้สโมสรโอเอช ลูเวิน ได้ยุติการทำงานร่วมกับฮานส์ วิสเซอร์ , โฌเซ่ เฌินช็องส์ และ เจอร์รี่ ออสเต้ และแต่งตั้ง อิสซาเม่ ชาไร , บาร์ท ฟาน ลังค์เกอร์ และ บราม แฟร์บิสต์ เป็นทีมงานชุดใหม่ของ บรีส์ ด้าน โจอาคิม มูนังก้า ยังคงได้ทำงานร่วมกับทีมในฐานะหนึ่งในทีมงานผู้ฝึกสอนต่อไป
ซึ่ง บรีส์ วัย 58 ปี ที่ตอบรับงานคุมทัพ 2 ฤดูกาล เผยถึงการตัดสินใจคุมทัพ โอเอช ลูเวิน ว่า “ก่อนจะรับงาน คุณจำเป็นต้องชั่งน้ำหนัก ข้อดีและข้อเสีย ซึ่งผมตัดสินใจจากเป้าหมาย และศักยภาพของสโมสร ก่อนตัดสินใจ”
“ปัจจัยที่ทำให้คุณสามารถทำงานร่วมกับผู้ช่วยที่คุณเตรียมมาได้ นั่นเป็นเรื่องสำคัญมาก ผมค่อนข้างจะมีความเฉพาะเจาะจงกับรายละเอียดทุกอย่าง ทั้งสนามซ้อม , อุปกรณ์ต่างๆ , การใช้วิดิโอในการวิเคราะห์เกม , การเก็บข้อมูล”
“คุณลองคิดดูนะครับ สิ่งเหล่านี้ คุณจะสามารถหาได้โดยง่ายในเบลเยี่ยมหรือไม่ เจ้าของสโมสรชาวไทย ได้ลงทุนไปกับหลายๆ สิ่ง เชื่อผมเถอะ คุณจะหาเจ้าของสโมสรชั้นนำแบบนี้ได้ยาก และเรื่องราวของเขาก็สวยงามสอดคล้องกันไปด้วย ผมยินดีกับความสำเร็จก่อนหน้านี้ของเขา”
“ผมได้พูดคุยกับคุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรโอเอช ลูเวิน ด้วยตัวเอง และสัมผัสได้ว่าคุณอัยยวัฒน์ มีความรักและศรัทธาในกีฬาฟุตบอล ยิ่งไปกว่านั้น เขารักในสโมสรแห่งนี้ แม้เขาจะมีภารกิจมากมาย เขายังหาเวลามาพูดคุยกับผม และทำให้ผมรู้สึกท้าทาย นั่นทำให้ผมรู้สึกชื่นชอบในตัวเขา”
“ขณะเดียวกัน วิม เดอ คอร์เต้ ผู้อำนวยการเทคนิคของโอเอช ลูเวิน ยังเป็นคนที่ฉลาด ที่สามารถสร้างทีมขึ้นมาได้ ด้วยองค์ประกอบต่างๆ ทำให้ทีมชุดนี้ดูสวยงามอย่างที่มันควรจะเป็น”
“สำหรับ ชาไร , แฟร์บิสต์ และ ฟาน ลังค์เกอร์ เป็นสามทีมงานโค้ชที่โดดเด่นคนละด้าน แต่พวกเขาถ่ายทอดปรัชญาของผมให้กับเด็กๆ ในการฝึกซ้อม เมื่อพวกเขาพูดคุยกับเด็กๆ มันเหมือนกับผมได้ยินเสียงตัวเอง พวกเขามีตัวตนที่สอดคล้องกันกับผม เรายังเคยทำการทดสอบด้านจิตวิทยาด้วยกัน และมันเป็นไปได้ด้วยดี นั่นหมายถึงความเชื่อมั่นในทีมโค้ชของเรา ทำให้คุณมีทีมงานที่แข็งแกร่ง”
“ส่วนแนวทางการทำทีมของผม ผมชอบฟุตบอลเชิงบวก มีระบบการเล่นที่ชัดเจน เปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้เร็ว คุณต้องแสดงให้เห็นถึงความตื่นตัว ทั้งในขณะที่ได้บอลและไม่ได้บอล เช่นเดียวกัน ผมต้องการเห็นความมุ่งมั่นในสนาม ทุกการฝึกซ้อม คือวันแข่งขัน นั่นคือคำขวัญที่ผมคิดว่ามันยอดเยี่ยมมากๆ”
สำหรับนัดเพลย์ออฟเลื่อนชั้น นัดที่ 2 ที่ต้องพบกับ เบียร์ช็อต วีเอ ในวันที่ 2 สิงหาคม นี้ บรีส์ เผยว่า “ผมเฝ้ารอเกมนั้นเลย มันยอดเยี่ยมใช่ไหมครับ กับการได้โอกาสลงเล่นเกมแบบนี้ มันทำให้หัวใจคุณเต้นเร็วขึ้น มันเป็นเกมแห่งประวัติศาสตร์ คุณต้องการลงเล่นเกมแบบนั้น ในฐานะนักกีฬา ผมต้องยกผลงานนี้ให้กับ แว็งซ็องต์ อูฟราด์ และทีมงานของเขา กับสเตจแรกที่เราคว้าแชมป์ได้ และพวกเราจะเขียนประวัติศาสตร์ร่วมกัน”
“เราต้องพร้อมสำหรับเกมนั้น แม้สภาพความฟิตเราเวลานี้ จะยังไม่ถึงขีดที่ผมตั้งเอาไว้ แต่เราจะต้องไม่กลัว ผู้เล่นที่ลงสนามในวันนั้น จะต้องพร้อมที่สุด และคุณคงไม่อาจมีเกมแห่งความทรงจำได้เช่นนั้นอีกในชีวิต” บรีส์ ทิ้งท้าย
