สองพี่น้อง "จุฑานุกาล" กับส่วนร่วมในการหมุนโลกให้สวยขึ้น

หลายคนรู้จักสองพี่น้องจุฑานุกาล “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล และ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล โลดแล่นอยู่ในสนามกอล์ฟ แต่ในอีกมุมหนึ่งทั้งคู่มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ผู้คน ซึ่งก็ได้เห็นมาแล้วจากหลายๆ โครงการที่ทั้งสองสาวได้ไปมีส่วนร่วม

ในเรื่องของเพื่อนมนุษย์ โปรเมได้บริจาค “ห้องตรวจหาเชื้อ” พัฒนาโดยเอสซีจี (Modular Swab Unit) ให้กับโรงพยาบาลชลบุรี หนึ่งในโรงพยาบาลที่มีอัตราการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 สูง ซึ่งสามารถใช้ตรวจผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อไปแล้วจำนวนมาก เป็นการป้องกันและเพิ่มความมั่นใจให้แพทย์ พยาบาล ทำงานกันอย่างปลอดภัยจากเชื้อโรคต่างๆ มากขึ้น


ส่วนโปรโมได้บริจาค แคปซูลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยความดันลบขนาดเล็กสำหรับเข้าเครื่อง CT Scan (Small Patient Isolation Capsule for CT Scan) ให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินีนาถ จังหวัดสงขลา เพื่อช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อระหว่างการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเข้าเครื่อง CT Scan และยังเล็งเห็นความจำเป็นของโรงพยาบาลในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ที่ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก จึงได้บริจาคห้องตรวจหาเชื้อความดันลบแบบเคลื่อนที่ (Negative Pressure Swab Unit) ให้โรงพยาบาลสุคิริน และ โรงพยาบาลแว้ง จังหวัดนราธิวาสด้วย


นอกจากนี้ สองโปรสาวไทยยังมอบเงินสนับสนุนโครงการ “ข้าวกล่อง เชฟฮัก” โดยสมาคมเชฟประเทศไทย ซึ่งโครงการนี้จะบริจาคข้าวกล่องที่ทำขึ้น เพื่อแบ่งปันให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 วันละ 4,000 กล่อง เป็นเวลา 10 วัน ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ให้กับ 50 ชุมชน ทั่วกรุงเทพมหานคร

โม-เมยังได้ร่วมกับเครือข่ายต้นไม้ในเมือง (Thailand Urban Tree Network) ในการชวนคนไทยช่วยกันแก้ปัญหา ป่าต้นน้ำน่าน ที่ถูกทำลายอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมีคลิปวิดีโอช่วยรณรงค์ให้ต่อต้านผู้ที่ทำลายป่า และช่วยกันปลูกป่ากันให้มากขึ้น


ขณะที่เรื่องของท้องทะเล โมรียาและเอรียาถูกมอบตำแหน่งผู้พิทักษ์ทะเล(The Sea Saver) ที่มีหน้าที่ในการช่วยกันรักษาระบบนิเวศทางทะเล เพราะในปัจจุบันมนุษย์ผลิตขยะมากมาย และถูกทิ้งลงสู่ทะเล จนกลายเป็นมลภาวะทางทะเล มีผลเสียต่อสัตว์ทะเลและธรรมชาติทั่วโลก ดังนั้นการสร้างขยะให้น้อยที่สุด นำกลับมาใช้ใหม่ จะส่งผลต่อทะเลน้อยที่สุดด้วย นอกจากนั้นยังได้ร่วมปลูกหญ้าทะเล ทำบ้านปลา เก็บขยะชายฝั่ง ปลูกป่าโกงกาง

ล่าสุด โมและเมได้ร่วมกิจกรรมในวันทะเลโลก บริจาคนวัตกรรมทุ่นกักขยะลอยน้ำ ซึ่งเป็นนวัตกรรมของ "เอสซีจี" ที่ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) พัฒนาทุ่นกักขยะลอยน้ำ และนำไปติดตั้งบริเวณปากแม่น้ำและลำคลองสาขาที่เชื่อมต่อกับทะเลแล้วกว่า 24 ชุด ในพี้นที่ 13 จังหวัด เพื่อป้องกันขยะรั่วไหลจากแม่น้ำสู่ทะเล และสามารถกักขยะได้กว่า 40 ตัน


โปรเมเปิดใจถึงเรื่องการช่วยเหลือสังคมว่า เมื่อมองดูไปรอบๆ ตัวจะเห็นว่ามีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย และมีผู้คนที่ขาดสิ่งจำเป็นอย่างไม่น่าเชื่อ ก็เลยถามตัวเองว่าเราสามารถช่วยอะไรสังคมได้บ้าง หลังจากนั้นอะไรที่คิดว่าจะยื่นมือไปช่วยได้ ก็จะเข้าไปตรงจุดนั้น ส่วนตัวแล้วชอบช่วยเหลือเด็กๆ เพราะเด็กจะต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต ถ้าช่วงชีวิตที่เป็นเด็กมีความพร้อมก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่มีประสิทธิภาพด้วย จึงได้มี "มูลนิธิโมรียา-เอรียา" ขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือสังคมในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส

“เมรู้สึกว่าตอนนี้เมดูแลที่คนเรารักได้ดีแล้ว ก็อยากจะไปช่วยเหลือคนที่ขาดแคลนบ้าง โดยเฉพาะเด็กๆ เพราะเด็กคืออนาคต ควรต้องได้รับการสนับสนุนที่ดี เพื่อเติบโตเป็นคนดีในอนาคต เมไม่ได้สนใจว่าการช่วยเหลือสังคมจะทำให้เรามีความโดดเด่นหรือสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเอง เพราะมันเป็นความรู้สึกอยากจะทำมันจริงๆ ไม่ได้หวังผลว่าจะได้อะไรตอบแทน แต่ทั้งก่อนและหลังทำ ให้ความรู้สึกอิ่มใจ สบายใจ”


ขณะที่โมรียาเล่าว่า ที่ผ่านมามูลนิธิของสองพี่น้องได้มีส่วนช่วยเหลือเด็กๆ มาพอสมควร ทั้งการสร้างบ้าน ให้การศึกษา พัฒนาโรงเรียน และยังจะทำต่อไปเท่าที่ทำได้ เพราะเป็นความตั้งใจของทั้งสองคนรวมทั้งครอบครัว คนรอบข้างที่เห็นว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ที่จะหยิบยื่นตอบแทนให้กับสังคมได้ เนื่องจากทั้งโมและเมก็ได้รับโอกาสที่ดีมาเหมือนกัน การได้เปลี่ยนเป็นผู้ให้จะทำให้การใช้ชีวิตมีคุณค่ามากขึ้น

ในช่วงเวลาที่กอล์ฟยังไม่สามารถแข่งขันได้ สองศรีพี่น้องได้เดินสายร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อสังคม ถือเป็นเวลาดีๆ ที่สร้างความสุขให้ทั้งผู้ให้และผู้รับในช่วงที่ทุกคนต่างเดือดร้อนกันแบบนี้


โมรียาเปิดใจว่า ตอนนี้อาจจะเป็นช่วงเวลาที่สาหัสสำหรับหลายคน แต่อยากให้มองว่าไม่ใช่แค่เราหรือคนใกล้ตัวเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ทุกคนบนโลกต่างได้รับเหมือนๆ กัน มากบ้าง น้อยบ้าง ดังนั้นจึงอยากให้ช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดี ให้กำลังใจซึ่งกันและกันในการเดินหน้าสู้ต่อ แล้วเมื่อวิกฤตินี้ผ่านไป จะได้มีพลังเริ่มต้นกู้และสร้างสิ่งที่เสียหายไปกลับมาใหม่

โมรียาและเอรียายังเดินหน้าสร้างแรงบันดาลใจ ช่วยเหลือสังคมในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลาย เพื่อให้เห็นว่าโลกอาจจะมีปัญหามากมาย แต่ถ้าทุกคนมีน้ำใจและมีความรับผิดชอบ โลกจะสวยงามขึ้นเรื่อยๆ