เอสซีจี พร้อมด้วย สองพี่น้อง “โปรโม-เม” โมรียา-เอรียา จุฑานุกาล เริ่มภารกิจในฐานะทูตผู้พิทักษ์ทะเล (The Sea Saver) ของเอสซีจี ส่งมอบ “นวัตกรรมทุ่นกักขยะลอยน้ำ” เนื่องในวันทะเลโลก โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับมอบ ณ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม พร้อมเชิญชวนให้ช่วยกันลดขยะและคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง
นายเจริญชัย ประเทืองสุขศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ระยองวิศวกรรมและซ่อมบำรุง จำกัด (REPCO) ในธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี กล่าวว่า “ข้อมูลจากกรมทรัพยากรทะเลและชายฝั่งระบุว่าประเทศไทยติดอันดับต้น ๆ ของโลกที่ปล่อยขยะลงสู่ทะเล เอสซีจี จึงดำเนินกิจกรรมฟื้นฟูทรัพยากรทะเลชายฝั่งผ่านโครงการต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีด้านวัสดุพลาสติก สร้างสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยปกป้องและฟื้นฟูท้องทะเล โดยตั้งแต่ปี 2562 ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ได้ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) พัฒนาทุ่นกักขยะลอยน้ำ และนำไปติดตั้งบริเวณปากแม่น้ำและลำคลองสาขาที่เชื่อมต่อกับทะเลแล้วกว่า 24 ชุด ในพี้นที่ 13 จังหวัด เพื่อป้องกันขยะรั่วไหลจากแม่น้ำสู่ทะเล และสามารถกักขยะได้กว่า 40 ตัน กระทั่งถึงวันทะเลโลกปี 2563 นี้ เอสซีจีจึงพัฒนาวัสดุลอยน้ำ HDPE-Bone จากเม็ดพลาสติกพอลิเอทิลีนที่มีสารกันรังสียูวี ทำให้ทุ่นกักขยะลอยน้ำ จาก HDPE-Bone ที่มีความแข็งแรง ทนทาน มีอายุการใช้งานกว่า 25 ปี ง่ายต่อการประกอบและติดตั้ง นำมามอบให้กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยให้การจัดเก็บขยะในแม่น้ำลำคลองมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีโปรโมและโปรเม สองโปรกอล์ฟหญิงระดับโลก ในฐานะทูตพิทักษ์ทะเลของโครงการ The Sea Saver มาร่วมชวนคนไทยให้เป็นผู้พิทักษ์ทะเล ตามแนวทาง SCG Circular way ในงานนี้ด้วย”
ด้าน โปรเม-เอรียา กล่าวว่า “ในระหว่างที่ต้องหยุดเชื้อเพื่อชาติอยู่ที่บ้าน แม้จะด้วยความจำเป็นแต่ก็ทำให้เห็นว่าในแต่ละวันเราผลิตขยะจำนวนมาก เมเชื่อว่าการจัดการขยะอย่างเหมาะสมตั้งแต่ต้นทาง จะช่วยป้องกันขยะไหลลงสู่ท้องทะเล ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลเท่านั้น แต่ยังกระทบไปถึงวิถีชีวิตของชุมชนริมชายฝั่ง ดังนั้น การจัดการขยะที่ดี จึงช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ด้วย เมจึงอยากชวนทุกคนมาเป็น ผู้พิทักษ์ทะเล - The Sea Saver ด้วยกัน เพื่อช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขยะให้ได้รับการฟื้นฟูดูแลอย่างจริงจัง”
ด้าน โปรโม-โมรียา กล่าวเสริมว่า “ที่ผ่านมาในช่วงที่ทุกคนไม่ได้ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านหรือท่องเที่ยว เราจะเห็นว่าธรรมชาติต่าง ๆ ฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดภายในระยะเวลาไม่นานนัก จึงทำให้โมกลับมาฉุกคิดได้ว่า กิจกรรมทุกอย่างเริ่มต้นที่ตัวเราแต่กลับส่งผลกระทบอย่างยิ่งใหญ่ต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณขยะจากการบริโภคของมนุษย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้จะด้วยความจำเป็น จึงอยากเชิญชวนให้คนไทยและแฟนกอล์ฟทั่วโลกได้ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติที่กำลังเกิดขึ้น โดยเฉพาะทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขยะ และการขาดการฟื้นฟูดูแลอย่างจริงจัง โมเชื่อว่า ถ้าเราทุกคนร่วมกันทำ ก็จะสามารถช่วยทำให้ท้องทะเลไทยกลับมาสวยงามและอุดมสมบูรณ์ได้อย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้การแข่งขันหลายรายการต้องระงับชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สองพี่น้องได้กลับมาฝึกซ้อมและทบทวนผลงานที่ผ่านมา และพร้อมเต็มที่สำหรับรายการแข่งขันที่กำลังจะมาถึงเมื่อสถานการณ์คลี่คลายและสามารถกลับไปแข่งขันได้