xs
xsm
sm
md
lg

“The Last Dance 2020” / MVP

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP

สถานการณ์ โควิด-19 ของบ้านเรา คลี่คลายลงเยอะ แต่ทุกท่านก็อย่าเพิ่งหลงระเริงว่า เราสามารถใช้ชีวิตตามปกติ ตราบใดที่โลกยังไม่มี ยารักษา หรือ วัคซีน เพราะการระบาดรอบ 2 อาจส่งผลกระทบรุนแรงยิ่งกว่ารอบแรก ดังที่เราเห็นตัวอย่างจากหลายๆ ประเทศ หากออกนอกบ้าน อย่าลืมรักษาระยะห่าง , สวมหน้ากากอนามัย , ล้างมือบ่อยๆ และท่องไว้ในใจว่า “การ์ดอย่าตกเป็นอันขาด”

ช่วงล็อกดาวน์ประเทศไทย ราว 2 เดือน หลายๆ ท่านคงจะมี “เน็ตฟลิกซ์” เสมือนเพื่อนแก้เหงา นอกเหนือจากเต้นและลิปซิงค์บนTik Tok หรือท่อนฮุกหลอนหูของ เกิร์ล กรุ๊ป ลูกทุ่ง สำหรับแฟนๆ กีฬา คงจะได้ยินหรือติดตามซีรีส์ “The Last Dance” เกี่ยวกับ ไมเคิล จอร์แดน และ ชิคาโก บูลล์ส ยุคแชมป์ บาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) 6 สมัย ความยาว 10 ตอน

ถึงกระผมจะไม่มีโอกาสรับชม ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น ยกเลิกสมาชิกไปนานแล้ว และยังนิยมซื้อแผ่น DVD มากกว่า เพราะมันคือสิ่งที่สามารถสะสมได้ แต่พอเห็นกระแสทาง โซเชียล มีเดีย ระหว่าง “The Last Dance” กำลังออกอากาศ ทั้งการเปรียบเทียบ จอร์แดน กับ เลอบรอน เจมส์ บ้าง สุดท้ายกลับมานั่งคิด เราคงห้ามอะไรไม่ได้ ก็เข้าพวกมันเสียเลยดีกว่า

เทียบกับ 5 ตัวจริง “กระทิงเปลี่ยว” ชุดเกรียงไกร ตำแหน่งแม่ทัพของ “เอ็มเจ” คงเป็นใครเสียมิได้ นอกจาก “คิงเจมส์” ทั้งคือ ซูเปอร์สตาร์อันดับ 1 ต่างยุคของลีก เลอบรอน อาจด้อยกว่าด้านการทำสกอร์ แต่ก็สามารถเล่นได้หลากหลาย ช่วยรีบาวน์ด , แอสซิสต์ และความดุดัน ยามตะลุยเข้าหาห่วง ถึงแม้บางเสียงอาจบอกว่า เจมส์ ฮาร์เดน เหมาะสมกว่า แต่อย่าลืมว่า จอร์แดน เคยคว้ารางวัลเกมรับยอดเยี่ยม ปี 1988 ซึ่งการป้องกันของ เลอบรอน ก็ไม่ยิ่งหย่อนกว่าเกมรุกเช่นกัน

ขยับมาตำแหน่งคู่หู สกอตตี พิพเพน ต้องทดแทนด้วย พอล จอร์จ แห่ง แอลเอ คลิปเปอร์ส รับหน้าที่ได้ทั้งผู้เล่นเกมป้องกัน และมือปิดสกอร์วินาทีสำคัญ ตามฝีไม้ลายมือของทั้งคู่ น่าจะถูกยกอยู่ระดับซูเปอร์สตาร์ ทว่าชะตาถูกลิขิตมาเพื่อเป็นพระรอง “PG-13” ตั้งแต่สมัยร่วมงาน รัสเซลล์ เวสต์บรูก ที่โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ และปัจจุบันจับมือ คาไว เลียวนาร์ด ซึ่งถูกมองว่า ใกล้เคียง พิพเพน-จอร์แดน มากสุด

จอร์จ ฮิลล์ การ์ดจ่ายจอมเก๋า มิลวอคกี บัคส์ รับตำแหน่งของ สตีฟ เคอร์ ส่วนสูง 6 ฟุต 3 นิ้ว เท่ากัน ทั้งคู่โดดเด่นด้านการยิง 3 คะแนน ฮิลล์ วัย 33 ปี ซึ่งแก่กว่า เฮดโค้ช โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส เล็กน้อย ตอนคว้าแชมป์ฤดูกาล 1997-98 รั้งอันดับ 1 ยิงระยะไกลเข้าเป้ามากสุด 45 เปอร์เซ็นต์ และเป็นทีเด็ดที่สามารถลงมาพลิกเกมยามคับขันได้เสมอ

ส่วน เดนนิส ร็อดแมน ยุค 5G ไม่น่าจะมีใครเหมาะเกินกว่า เดรย์มอนด์ กรีน ของ วอร์ริเออร์ส เรื่องรีบาวน์ด คงต้องยกให้ “เดอะ เวิร์ม” ที่เหนือกว่าชัดเจน 13.1 ครั้งต่อเกม ตลอดอาชีพ รวมถึงการสร้างสีสันทั้งในและนอกสนาม แต่จุดเด่นที่คล้ายกัน คือ การป้องกันพื้นที่ใต้แป้น และข้อด้อยด้านการประกบผู้เล่นที่สูงกว่า กับ หยุดยั้งการเล่นโพสต์ตัวต่อตัว

ปิดท้ายด้วย อังเดร อิกัวดาลา รับบท รอน ฮาร์เปอร์ หากย้อนอดีตของ ฮาร์เปอร์ เคยปิดสกอร์เฉลี่ยหลัก 20 แต้มต่อเกม ก่อนย้ายมา ชิคาโก ปี 1994 พลิกบทบาทเป็นผู้เล่นเกมรับ และคุมบอล เมื่อวัยย่างเข้า 30 แทนที่จะคอยเลี้ยงเจาะใต้แป้น ขณะที่ อิกัวดาลา เคยถูกส่งลงมาเพื่อจับตาย เลอบรอน จนคว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) รอบชิงชนะเลิศ ปี 2015 และทำหน้าที่จอมทัพของเหล่าขุนพลสำรอง วอร์ริเออร์ส แถมทั้งคู่เคยมีปัญหาเจ็บหัวเข่าเหมือนกันอีกด้วย

สรุปไลน์อัพของทีม “Last Dance” ยุค 2020 ได้แก่ เลอบรอน เจมส์ (ไมเคิล จอร์แดน) , พอล จอร์จ (สกอตตี พิพเพน) , จอร์จ ฮิลล์ (สตีฟ เคอร์) , เดรย์มอนด์ กรีน (เดนนิส ร็อดแมน) และ อังเดร อิกัวดาลา (รอน ฮาร์เปอร์) ส่วนใครจะเห็นเป็นอย่างอื่น ก็แล้วแต่ท่าน เพราะความคิดของใครของมัน ไม่มีถูกหรือผิดอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น