คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ยังอุตลุดกันอยู่สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า “โควิด-19” ซึ่งในวงการ “ไฟต์คลับ” ก็มีประเด็นเรื่องการเลื่อนศึกใหญ่ๆ หลายรายการ ทั้งมวยโอลิมปิก มวยโลก MMA มีผลกระทบไปหมดอย่างที่เราคุยกันมาในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตอนนี้ล่าสุดในวงการมวยโลกรุ่นยักษ์ การแพร่ระบาดของโรค “โควิด-19” ก็ทำให้สถานการณ์พลิกผันในศึก “บิ๊กไฟต์” ที่ยอดมวยยักษ์ชาวอังกฤษ “ยิปซี คิง” ไทสัน ฟิวรี่ ตกลงรับคำท้าของ “ไอ้ลูกระเบิดบรอนซ์” ดีออนเตย์ ไวล์เดอร์ ที่จะเปิดศึก “ภาคสาม” ให้หายสงสัยเด็ดขาดกันไปหลังจากไฟต์แรกออกเสมอ ส่วนไฟต์สองเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้เองยักษ์อังกฤษต่อยราชาน็อกเอ๊าท์ชาวอเมริกันร่วงเอาๆ จนพี่เลี้ยงต้องโยนผ้ายอมแพ้ ซึ่งนักชกอเมริกันก็ใช้ออปชั่นที่เซ็นกันไว้ผลักดันให้เกิดไฟต์ล้างตาอีกทีทันที
“ภาคสาม” ของคู่นี้เดิมกำหนดไว้ว่าจะเจอกันในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้เลย แต่ด้วยสถานการณ์ของโรค “โควิด-19” ทางโปรโมเตอร์ บ็อบ อารัม ก็ประกาศว่าศึกนี้อาจต้องเลื่อนไปปลายปี หรือยังกำหนดไม่ได้ด้วยซ้ำ และตอนนี้ทาง “ไอ้ลูกระเบิดบรอนซ์” ก็เข้ารับการผ่าตัดกล้ามเนื้อไบเซ็ปที่แขนขวา คงต้องพักรักษาตัวก่อน พอเป็นแบบนี้ เลยเปิดช่องให้ เอ๊ดดี้ เฮิร์น โปรโมเตอร์ของยักษ์อังกฤษอีกราย “เอเจ” แอนโธนี่ โจชัว ที่ทวงเข็มขัดแชมป์โลกของ WBA กลับมาคาดที่เอวได้ ลองโยนหินถามทางทันที ด้วยการออกข่าวว่าจะเปิดศึก “รวบแชมป์” ในรุ่นเฮฟวี่เวท ให้แอนโธนี่ โจชัว ขึ้นพบกับไทสัน ฟิวรี่ ซะก่อน โดยยินดีจ่ายเงินก้อนใหญ่เป็นการชดเชยให้กับดีออนเตย์ ไวล์เดอร์ แถมเตรียมให้ค่าตัว “ยิปซี คิง” มหาศาลเช่นกัน
ข่าวนี้สร้างความฮือฮาไม่เบาเพราะมวยโลกรุ่นยักษ์นั้นนับตั้งแต่เล็นน็อกซ์ ลูอิส ครอบครองเข็มขัดโลกสถาบันหลักครบทุกเส้นคนเดียวในช่วงปลายปี 1999 หรือร่วม 20 ปีมาแล้ว จากการล้มอีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ได้ หลังจากนั้นพอลูอิสถูก WBA ริบแชมป์ไปเนื่องจากไม่ยอมขึ้นป้องกันตำแหน่งกับรองแชมป์อันดับ 1 จอห์น รุยซ์ ในตอนนั้น เข็มขัดแชมป์โลกของสถาบันหลักก็กระจัดกระจาย จนแม้แต่ตอนนี้แชมป์ของ WBA ก็อยู่กับ “เอเจ” ส่วนไทสัน ฟิวรี่ ครอบครองเข็มขัดของ WBC, IBF และ WBO รวมทั้งแชมป์ “สายตรง” ของเดอะ ริงด้วย ถ้ามีไฟต์ “ล้มแชมป์” ระเบิดขึ้นจริงๆ แฟนๆ ก็น่าจะสนใจ ยิ่งเป็น “ศึกสายเลือด” ของนักชกอังกฤษด้วยกัน ก็ยิ่งน่าสนใจเข้าไปอีก
และว่าจริงๆ สองไฟต์ 19 ยกที่ไทสัน ฟิวรี่ กับดีออนเตย์ ไวล์เดอร์ ซัดกันมา ทางยักษ์อังกฤษก็ไล่ยำนักชกอเมริกันเป็นส่วนใหญ่ แม้จะโดนต่อยร่วงไป 2 นับในไฟต์แรก แต่อีก 17 ยก “ยิปซี คิง” ไล่ยำเอาฝ่ายเดียว แถม “เอาคืน” จ้วงไวล์เดอร์ร่วง 2 นับเหมือนกันในไฟต์ที่ 2 ความน่าสนใจของไฟต์นี้ก็ต้องยอมรับว่าน้อยลงไปนิดนึงแม้ว่าพลังหมัด ชื่อชั้น และความดุของไวล์เดอร์จะยังขายได้ก็ตาม แต่ไฟต์ “ฟิวรี่-โจชัว” ก็ยังมีปัญหาเยอะอยู่ดี เพราะถ้าไฟต์ “ฟิวรี่-ไวล์เดอร์” ชกไม่ได้ด้วยสถานการณ์โรคระบาด ไฟต์ “ล้มแชมป์” ของยักษ์อังกฤษทั้งคู่จะชกกันได้ยังไง มีการพูดถึงการไปชกกันที่ซาอุดิอาระเบีย แต่สถานการณ์โรคระบาดในซาอุดิอาระเบียก็ยังสาหัสอยู่ งานนี้น่าจะเป็นการโยนหินถามทางเฉยๆ แม้จะน่าสนใจจริง แต่ต้องตามดูกันยาวๆ