ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส คว้าแชมป์สาย เอ็นเอฟซี (NFC) เอาชนะ กรีน เบย์ แพ็คเกอร์ส ขาดลอย 37-20 ศึก อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เพลย์ออฟ ที่สนาม ลีวายส์ สเตเดียม วันจันทร์ที่ 20 มกราคม
ราฮีม มอสเติร์ต รันนิงแบ็ก วิ่ง 220 หลา 4 ทัชดาวน์ ปล่อยให้ จิมมี การ็อปโปโล ควอเตอร์แบ็ก ทำหน้าที่สังเกตการณ์บนสนาม และ นิค โบซา ดีเฟนซีฟ เอนด์ คอยราวี แอรอน ร็อดเจอร์ส จอมทัพ แพ็คเกอร์ส ตั้งแต่เริ่มเกม
มอสเติร์ต กลายเป็นผู้เล่นทำระยะมากสุดอันดับ 2 นับเฉพาะเพลย์ออฟ รองจาก เอริค ดิคเกอร์สัน อดีตรันนิงแบ็ก เซ็นต์ หลุยส์ แรมส์ ที่ทำไว้ 248 หลา วัรที่ 4 ม.ค. 1986 และคนแรกที่ผลงานอย่างน้อย 200 หลา 4 ทัชดาวน์
โฟร์ตีไนเนอร์ส เข้าสู่ ซูเปอร์โบว์ล ครั้งแรกรอบ 7 ปี ดวลกับ แคนซัส ซิตี ชีฟส์ แชมป์สาย เอเอฟซี (AFC) ซึ่งเอาชนะ เทนเนสซี ไตตันส์ 35-24 ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ ตามเวลาไทย ที่เมืองไมอามี
เกมนี้ ร็อดเจอร์ส โชว์ฟอร์มไม่ออกเช่นเดียวกับเกม เรกูลาร์ ซีซัน พ่าย ซาน ฟรานซิสโก ย่อยยับ 7-38 เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ปล่อยโอกาสทำคะแนนหลุดมือ เสียฟัมเบิลตรงเส้น 25 หลาแดนคู่ต่อสู้ และถูก เอ็มมานูเอล โมสลีย์ คอร์เนอร์แบ็ก อินเทอร์เซ็ปต์ ช่วงควอเตอร์ 2
ร็อดเจอร์ส วัย 36 ปี เปลี่ยนดาวน์ที่ 3 สำเร็จครั้งแรก ขว้าง 6 หลา ให้ แอรอน โจนส์ รันนิงแบ็ก ช่วงต้นควอเตอร์ 3 และปิดไดรฟ์การบุกชุดดังกล่าว ขว้างทัชดาวน์ ระยะ 9 หลา ให้ โจนส์ ตีตื้นเหลือ 7-27 ทว่าช่องว่างห่างเกินกว่าพลิกสถานการณ์
เจ้าของรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) 2 สมัย จบเกมด้วยผลงาน ขว้างคอมพลีต ระยะ 326 หลา 2 ทัชดาวน์ และ ยัดบอลให้ โจนส์ วิ่ง 56 หลา 1 ทัชดาวน์ ทว่าไม่เพียงพอรอดพ้นความปราชัยเกมชิงแชมป์สายครั้งที่ 3 นับตั้งแต่คว้าแชมป์ฤดูกาล 2010