คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
ขุนพลไม่ยอมรบพุ่ง มุ่งแต่ขึ้นนั่งครองเมือง ตอนแรกก็ดูดีดับไฟสงครามกลางเมือง แต่ดันเผยซุ่มวางแผนขึ้นครองอำนาจมาตั้ง 3 ปี ใครอย่าหาญสู้ เขียนกติกากันท่าคนอื่น แถมตีความเข้าทางพวกตน สรรพสิ่งทุกอย่างเป็นใจ ขาดก็แต่ความรู้ ความสามารถในการบริหาร ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจพังยับ ประชาชนบักโกรก ยังดื้อต้องการอยู่ต่อไม่ยอมให้ผู้อื่นเข้ามาแก้ไข
ไม่กี่วันก่อน มีคนถาม มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ในงานเลี้ยงว่า ได้ข่าวว่าเธอจะลงสมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ แข่งกับผู้นำคนปัจจุบันหรือไร และทันทีที่ได้รับคำตอบว่า “ มีแนวโน้ม ” เสียงตะโกนจากปากใครโพล่งให้ทุกคนได้ยินว่า “ ถ้าแข่งกับพี่อ๊อด ก็เท่ากับแข่งกับผมด้วยนะ ! ” หลายคนไม่คิดว่าเป็นการหยอกล้อ แม้พวกกันเองแท้ๆยังสะอึก ถึงกับพึมพำ “ ข่มขู่กันอย่างนี้เลยเหรอวะ ”
สมาคมบอลก็เหมือนกับทางการเมืองที่กลุ่มอำนาจเก่าบริหารไม่ค่อยกระจ่างใส ยิ่งไปกว่านั้น ผลงานทีมชาติชะงักงันมานานปี คณะกรรมการบริหารชุดปัจจุบันที่เกิดจากการรวบรวมหลายกลุ่มจึงกลายเป็นความหวัง เรื่องเงินทองได้จากสป็อนเซ่อร์เครือข่ายพรรคพวกพร้อมมูล แต่ผมก็ยังเห็นว่า มันก็มีบริษัทเข้ามารับหน้าที่ผ่องถ่ายไม่ผิดเพี้ยนของเดิม แถมการตัดสินแต่ละเกมฟุตบอลยังถูกมองว่าเข้าทางทีมอิทธิพลอย่างขัดสายตาเหมือนมีใบสั่ง ไปๆมาๆหลายสโมสรขอยุบตัวเองไม่เอาไม่คุ้มเงินและเวลาที่ลงไป สำคัญที่สุดก็คือผลงานทีมชาติย่อยยับทุกชุด
การบริหารยุคใหม่ไม่ว่า บ้านเมือง หรือ เรื่องบอล เขาดูทรงกันแปล๊บเดียวก็รู้แล้ว แม้ใครจะคอยขย่มให้ดูกันยาวๆ มันก็แค่ตายช้า แต่ตายอยู่ดี ไม่มีอนาคต ใครยังยึดคติ “ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ” นั่นมันโบราณไปแล้ว เดี๋ยวนี้มันต้อง “ ปลาเร็วกินปลาช้า ” ดังนั้น คนเราเมื่อได้โอกาสแสดงฝีมือแล้ว แต่ถ้าขาดปัญญา ความรู้ ความสามารถ เลือกเฟ้นคนทำงานไม่เป็นและหนทางเดินไม่ถูกต้อง ก็ไม่อาจนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ ควรถอยออกไปให้คนอื่นเข้ามาดำเนินการแทนบ้าง
หลายชื่อถูกผู้คนวางลงในความคิดเผื่อจะเป็นตัวเลือกเข้ามากุมบังเหียนสมาคมฯ ชุดใหม่ ปี 2020 ทั้ง บิ๊กอ๊อด พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯคนปัจจุบัน ที่มีพวกพ้อง มาพร้อมอำนาจและเครือข่ายธุรกิจมากมาย แสดงฝีมือมาแล้ว 4 ปี ดูเสมือนว่ามีความโปร่งใสมากมาย โครงการก็เยอะไปหมด ขาดแต่ความสำเร็จ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซ่ำ ที่มีเงินทอง ทุ่มเทกับกีฬามาตั้งแต่กีฬาคนพิการ ฟุตบอลหญิงก็ได้ไป ฟุตบอลโลก มาแล้ว 2 สมัย บวกกับความสำเร็จพร้อม การท่าเรือ แช้มพ์เอ๊ฟเอ คัพ ปีล่าสุด ผมว่าในความจริงนั้น เธอมีความแรง เด็ดขาด ดุดันอย่างที่สุด แต่อาจไม่มีใครเคยได้เห็น บุคลิกภายนอกจึงไม่มีการด่ากราด ตวาดใส่แบบผู้นำเผด็จการที่กำลังถูกไล่
นอกจากนั้นก็มี บังยี วรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฯ ที่คุยได้ว่านำสป็อนเซ่อร์มหาศาลมาเปิดศักราชฟุตบอลอาชีพของไทย แต่ยังติดเงื่อนที่คนเขียนกติกากีดกันให้ไม่อาจเสนอตัวกลับมา นี่ยังดิ้นรนกับการกีฬาแห่งประเทศไทยเผื่อจะได้กฎที่ปรับแก้ให้หนทางสว่าง ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และ ตุ๊ก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ยังเป็นอีก 2 สุดยอดนักเตะในตำนานของไทยที่แฟนบอลไม่น้อยยังชื่นชอบและเชื่อในฝีมือโค้ชชิ่ง
จะอย่างไรก็ตาม ผมว่า บังยี ได้กระแส ชี้ให้เห็นความล้มเหลวของผู้บริหารชุดปัจจุบัน ในขณะที่ 2 อดีตนักเตะจะมีก็แต่คะแนนมหาชน แต่ในการเลือกตั้งนายกสมาคมฯนั้น ต้องอาศัยคะแนนจากสโมสรสมาชิก ซึ่งความจริงในเวลานี้ก็ค่อนข้างแตกกันเป็นเสี่ยงๆหลังจากพยายามอยู่ร่วมกันและรู้เช่นเห็นชาติกันมาตลอด 4 ปีเต็ม ดังนั้น คนเดียวที่น่าจะเป็นคู่แข่งกับ บิ๊กอ๊อด และกลุ่มคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังก็น่าจะเป็นคนแบบฉบับที่ทำสโมสรฟุตบอลได้ประสบความสำเร็จ มีความทุ่มเท มีบุคลิกภาพ มีบารมี มีเงินทอง และสโมสรสมาชิกอื่นๆที่เอือมระอาต่อกลุ่มก๊วนปัจจุบันพร้อมที่จะให้ความร่วมมือนั่นคือ มาดามแป้ง ถึงต้องโดนข่มขู่ไงครับ
วันนี้ ประชาชนเจ้าของประเทศ 69 ล้านคน ต้องเลือกได้ อย่าให้เสียงของตนไร้ความหมาย ไปตกอยู่ในมือของคนกลุ่มเดียว ใครไม่ชอบลุงก็เอานกหวีดที่เคยพ่นลมใส่ทำชาติพังไปแลก แล้วไป วิ่ง ไล่ ลุง ในวันที่ 12 มกราคมนี้ ส่วนใครไม่โอเคกับผลงานความตกต่ำของฟุตบอลไทยก็ช่วยกันไล่ลุงได้เช่นกัน กดดันสโมสรของตนในการเลือกตั้งกรรมการบริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 12 กุมภาพันธ์นี้ครับ