จากกระแสข่าว "บังยี" วรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เตรียมคัมแบ็คลงชิงตำแหน่งเก้าอี้นายกฯ อีกครั้ง หลัง หลังห่างหายไปจากวงการฟุตบอลไทยนานหลายปี
โดยก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยกฎระเบียบสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ระบุเอาไว้ชัดเจนในหมวดที่ 3 ว่า "ผู้สมัครรับเลือกตั้งในตำแหน่ง นายกสมาคม อุปนายกและกรรมการกลาง ข้อ 5.12 ต้องไม่เคยถูกสมาคมฟ้องร้อง ไม่ว่าในฐานความผิดใดและไม่ว่าศาลจะได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วหรือไม่ก็ตาม และข้อ 5.13 ต้องไม่เคยถูกคำสั่งลงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการกีฬาฟุตบอลจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียหรือสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน"
จากกฎดังกล่าวอาจส่งผลให้ วรวีร์ มะกูดี อาจหมดสิทธิ์ในการลงสมัครเลือกตั้งชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯ อีกครั้ง แต่เจ้าตัวพร้อมเดินเรื่องให้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยช่วยดูแลว่าสามารถอาศัยช่องว่างทางใดที่จะเข้ามาสมัครลงชิงตำแหน่งได้บ้าง
โดย "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวว่า "ระเบียบดังกล่าวร่างขึ้นมาเพื่อปิดกั้นผม ถือเป็นการละเมิดสิทธิ และขัดกับกฎหมายหลัก พรบ.กีฬา มาตรา 71(4) ที่ระบุว่า ผู้ไม่มีสิทธิจะต้องได้รับพิพากษาโทษถึงที่สุดแล้ว แต่ระเบียบสมาคมฯระบุไว้แค่ฟ้องร้อง ไม่ว่าศาลจะได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วหรือไม่ก็ตาม เพราะฉะนั้น ถ้าไม่อยากให้ใครลง ก็หาเรื่องไปฟ้องร้อง ซึ่งเรื่องนี้ผมคงต้องไปขอความเป็นธรรมกับผู้ว่าการ กกท. ว่าเป็นการละเมิดสิทธิหรือไม่"
"ผมมีแค่ข้อเท็จจริง ผลงานจับต้องได้ ถ้าสโมสรสมาชิกเห็นว่าตอนนี้มันดีอยู่แล้ว ก็คงไม่มาลงคะแนนให้ผม แต่ถ้าเขาคิดว่าร่อแร่ จะไปไม่รอด มีแต่ตกต่ำลง สโมสรสมาชิกก็จะตัดสินใจเอง ถ้าเขาอยากจะเป็นอย่างนั้นต่อไป ก็ห้ามไม่ได้ แต่ถ้าผมชนะ ผมจะดูแลสโมสรสมาชิกอย่างดี รวมถึงเรื่องสิทธิประโยชน์ต้องแบ่งสรรให้ยุติธรรมที่สุด"
"ผมยินดีที่จะพูดคุยกับผู้บริหารปัจจุบัน รวมถึงแฟนบอลจริงๆ ที่วิพากษ์วิจารณ์ มาเจอกันได้เลย ผมยินดีที่จะคุย แต่ต้องไม่ใช่แฟนบอลจัดตั้ง เพราะเราทำดีแค่ไหน ก็โจมตี สมัยก่อนผมทำทีมได้รับรางวัลในอาเซียนทุกรางวัล ผมก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์"
ทั้งนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดรับสมัครผู้ที่จะลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯ ระหว่างวันที่ 7-10 มกราคมนี้ ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก่อนจะมีการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563
การเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ จะมีสโมสรสมาชิกที่สามารถลงคะแนนได้ทั้งหมด 69 เสียง ประกอบด้วย สโมสรไทยลีก 1 จำนวน 16 ทีม, สโมสรไทยลีก 2 จำนวน 18 ทีม, อันดับ 1-7 จากไทยลีก3 โซนเหนือและโซนใต้ รวม 14 ทีม, อันดับ 1-3 จากการแข่งขันไทยลีก4 ทั้ง 6 โซน รวมเป็น 18 ทีม, แชมป์อเมเจอร์ลีก (ไทยลีก5) 1 ทีม, แชมป์กับรองแชมป์ฟุตบอลลีกหญิง 2 ทีม