xs
xsm
sm
md
lg

เอาแล้ว! ปรับปรุงสนามศึก U 23 ชิงแชมป์เอเชีย ยังต้องลุ้น

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ภายหลังจากที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2020 ระหว่างวันที่ 8-26 มกราคม 2563 ซึ่งรายการนี้มี 16 ทีมเข้าร่วม คัด 3 ทีม (ไม่รวมญี่ปุ่น) ไปแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้วาง 4  สนาม เป็นสังเวียนจัดแข่งขัน คือ ราชมังคลากีฬาสถาน, บุรีรัมย์ สเตเดี้ยม, สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และ สนามติณสูลานนท์ จ.สงขลา ซึ่ง สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ "เอเอฟซี" ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจ 4 สนาม เมื่อปลายเดือน กันยายน 2562 แต่ละสนามได้ไปแก้ไขปรับปรุงให้ได้มาตรฐาน 

ซึ่งกำหนดการในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนส่งมอบสนามนั้น ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะส่งเจ้าหน้าที่นำโดย นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการ และรองโฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ไปตรวจรับงาน เพื่อส่งข้อมูลทั้งหมดรายงานให้ เอเอฟซี รับทราบ ดังนี้ วันที่ 17 ธันวาคม 2562 สนามติณสูลานนท์, วันที่ 18 ธันวาคม 2562 สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต กับ  ราชมังคลากีฬาสถาน ส่วน บุรีรัมย์ สเตเดี้ยม จะประชุมกับสโมสรในวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ที่ บริษัท ไทยลีก จำกัด จากนั้น เอเอฟซี จะเดินทางมารับมอบสนามอย่างเป็นทางการ วันที่ 3 มกราคมนี้

ส่วนความคืบหน้าการปรับปรุงสนามนั้น รายงานข่าวระบุว่า อัพเดตล่าสุด ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ติณสูลานนท์ โดยรวมคืบหน้า 85% อาทิ เก้าอี้ ติดตั้งตามแผนเสร็จสิ้น ภายในวันที่ 20 ธันวาคม
- บุรีรัมย์ สเตเดี้ยม คืบหน้า 90%  
- ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต คืบหน้า 90%
- ราชมังคลากีฬาสถานซึ่งเป็นสนามหลักของการแข่งขัน และเป็นสนามของกลุ่มทีมชาติไทย ทางเจ้าหน้าที่ก็กำลังเร่งมืออย่างเต็มที่

ทั้งนี้มีรายงานข่าวระบุด้วยว่า วันที่ 16 ธันวาคมนี้ เวลาประมาณ 12.30 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเดินทางไปตรวจความคืบหน้าการปรับสนามด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น