คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
การแข่งขันมหกรรมกีฬาแห่งภูมิภาคอาเซียน ครั้งที่ 30 หลังจากพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 มาจนถึงวันที่กำลังเขียนคอลัมน์นี้ ทัพนักกีฬาจากฟิลิปปินส์ ต่างก็สนุกสนานกับการโกยเหรียญทองกันจนนำโด่งไปเกินครึ่งร้อยเสียแล้ว ซึ่งกว่าจะถึงพิธีปิดการแข่งขันในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ ก็คงถึงเป้าหมาย 200 เหรียญทองได้อย่างไม่ยาก จากการชิงเหรียญทองกันมากถึง 529 เหรียญ จากอีเวนต์กีฬาที่บรรจุเข้าไปถึง 56 ชนิดกีฬา
ทีนี้ก็มีคำถามว่าแล้ว ฟิลิปปินส์ เจ้าภาพ เขาไปเอาเหรียญมาจากกีฬาชนิดไหนหนักหนา เมื่อไปตามดูมาจำนวนเหรียญทองที่เขากวาดไปมาจากการแข่งขันต่อสู้ประจำชาติอย่าง “อาร์นิส” และ “แดนซ์สปอร์ต”
โดยเฉพาะกีฬา อาร์นิส นั้นชิงชัยกัน 20 เหรียญทอง เจ้าภาพชาติเดียวซัดไป 14 เหรียญทอง ที่เหลือเป็น เวียดนาม 4 ทอง, เมียมา 1 ทอง และ กัมพูชา 1 ทอง ส่วน แดนซ์สปอร์ต ชิงกัน 13 เหรียญทอง ซึ่ง ฟิลิปปินส์ หยิบไป 10 เหรียญทอง เหลือให เวียดนาม 2 เหรียญทอง และ มาเลเซีย อีก 1 เหรียญทอง เป็นอันว่าหายสงสัยกันแล้วนะครับ
ส่วนการแข่งขันที่เราได้เห็นความไม่พร้อม และไม่เรียบร้อยในหลายๆ ด้านออกมาช่วงแรกๆ แล้วระยะหลังนั้นข่าวคราวเงียบหายไป ไม่ใช่ว่าดีขึ้นหรืออย่างไร เพียงแต่สื่อทั้งหลาย รวมถึงนักกีฬาเองต่างก็รู้สึกชินชากันไปเอง จนแทบจะทำให้ซีเกมส์ ครั้งนี้เป็นครั้งที่เลวร้ายที่สุดสำหรับนักกีฬาหลายๆ ชาติ
แต่เหรียญยังมี 2 ด้าน การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ก็ยังมีแง่มุมที่ดีให้เราเลือกมอง เลือกพิจารณาอยู่บ้างเหมือนกัน เริ่มจากการแจ้งเกิดของนักกีฬาปันจักสีลัตดาวรุ่งอย่าง “มั่ง” นิตินัย ถ้ำแก้ว วัย 19 ปี ที่นัดชิงชนะเลิศสามารถเอาชนะตัวเต็งจากอินโดนีเซีย 4-1 คว้าเหรียญทองในรุ่นน้ำหนัก 45-50 กิโลกรัม
ซึ่งเมื่อได้แชมป์ซีเกมส์ ที่เปรียบไปก็เหมือนๆ แชมป์โลกนั่นแหละ เพราะกีฬาชนิดนี้เขาจัดกันเฉพาะที่อาเซียนนี่แหละ ตัว "น้องมั่ง" ยังงงๆ กับชัยชนะ เนื่องจากตัวเองไม่ใช่ตัวเต็ง อีกทั้งนักกีฬาไทยคนอื่นๆ ที่มีดีกรีแชมป์โลกต่างก็ตกรอบกันไปหมดแล้ว เหลือแต่เจ้าหนุ่มน้อยรายนี้ และเมื่อทำได้ก็เป็นนักกีฬาปันจักสีลัตไทยเพียงคนเดียวที่ได้เหรียญทองซีเกมส์ครั้งนี้อีกด้วย
หรือแม้แต่การแข่งขันกีฬาฟุตบอลชาย ระหว่างทีมชาติไทย กับ เวียดนาม ที่ทั้งสองทีมต่างก็ต้องขับเคี่ยวเข้ารอบรองชนะเลิศ ซึ่งแฟนบอลทั้งสองชาติที่ดูเหมือนว่าน่าจะไม่ถูกกันอย่างรุนแรง ปรากฎว่าเราได้เห็นน้ำใจของแฟนบอลเวียดนามที่พยายามหาตั๋วให้แฟนบอลไทยได้เข้าสนาม แม้เป็นแง่มุมเล็กๆ แต่ก็นับว่างดงาม และน่าจะบรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดซีเกมส์ได้เป็นอย่างดี
อีกเรื่องการพัฒนากีฬาของภูมิภาค เมื่อเราได้เห็นทีมฟุตบอลชายของ เมียนมา และ กัมพูชา ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ทั้งที่มีทั้งเจ้าภาพ และ มาเลเซีย ที่น่าจะเหนือชั้นกว่า โดย เมียนมา นั้นรอบแรกเป็นทีมไร้พ่ายเลยด้วยซ้ำ ขณะที่ กัมพูชา นั้นยิ่งกว่าเซอร์ไพรส์ เนื่องจาก 60 ปีที่ผ่านมาในซีเกมส์ไม่เคยเข้ารอบรองฯ ได้เลย ถือว่ามีพัฒนาการที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง...