เมื่อวันที่ 29 พ.ย.62 “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย นำคณะนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ทั้งประเภทต่อสู้ และพุมเซ่ ชุดร่วมซึกซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ รวมทั้งสิ้น 19 คน พร้อมด้วยทีมงานผูฝึกสอนทั้งประเภทต่อสู้และท่ารำ (พุ่มเซ่) เดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ด้วยฤกษ์งามยามดี เวลา 09.09 น. เริ่มที่แรก บริเวณศาลท้าวมหาพรหม ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ต่อด้วย ศาลหลักเมือง และวัดพระแก้ว เพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองบ้านเมืองเอาฤกษ์เอาชัยก่อนไปแข่งขันซีเกมส์
โดยการไปสักการะศาลหลักเมือง ได้มีพล.ท.อภิวัฒน์ ทองอยู่ ที่ปรึกษาผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พร้อมด้วย พล.ท.สยาม จันทรวิโรจน์ นายทหารประสานงาน ร่วมมอบธงชัยหลักเมืองกรุงเทพมหานครฯ ให้กับ ผศ.พิมล นายกฯเทควันโดเป็นตัวแทนรับมอบเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ทีมเทควันโดไทย
“บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ เปิดเผยว่า ถือเป็นประเพณีของสมาคมฯ ที่ก่อนไปแข่งขันมหกรรมกีฬาใหญ่ๆ อย่างซีเกมส์ ครั้งนี้ เราจะต้องนำนักกีฬาเดินทางการมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งนอกจากความพร้อมทางด้านร่างกาย ที่ฟิตสมบูรณ์แล้ว เรื่องของจิตใจและกำลังใจ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ทำให้นักกีฬาเกิดมีความมั่นใจ มีความฮึกเหิมพร้อมที่นำความสำเร็จกลับมาฝากแฟนกีฬาชาวไทย มาถึงตอนนี้แล้ว ต้องบอกว่าทีมเทควันโดไทยทั้งประเภทต่อสู้และท่ารำ มีความพร้อมอย่างมาก ที่ผ่านมา เราเป็นเจ้าเหรียญทองเทควันโดมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งครั้งนี้ตนก็ยังคิดว่าเราน่าจะได้ครองเจ้าทองอีกครั้ง แต่ก็เป็นห่วงประเภทพุมเซ่ เพราะการตัดสินด้วยสายตา และในระดับซีเกมส์ จะไม่ได้มาตราฐานที่ทีมไทยเคยไปแข่งขันระดัยเอเชีย และระดับโลก แต่เราก็ได้กำชับเด็กทุกคนทำให้เต็มที่ พยายามผิดพลาดให้น้อยที่สุด
ขณะที่ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะหมายเลข 1 ของโลก ในรุ่น 49 กก.หญิง กล่าวว่า ได้มาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ถือเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง ซึ่งครั้งนี้ตนไม่ได้บนอะไรเป็นพิเศษ เพียงแค่ขอพรให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน
ด้าน "น้องออมสิน” วอรนวีย์ ศรีสหกิจ เจ้าของเหรียญทองพุมเซ่ เอเชี่ยนเกมส์ เปิดเผยว่า เมื่อตอนไปแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ตนได้บนบานศาลพระพหรมของให้ได้เหรียญทอง และจะกลับมาถวายของแก้บน ซึ่งก็สามารถคว้าเหรียญทองมาได้ และครั้งนี้ก็ได้บนอีกครั้งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการแข่งขัน
สำหรับทีมเทควันโดไทย ทั้ง 19 คน ประกอบ ประเภทต่อสู้ รุ่น 46 กก.หญิง รุ่จุฬานันท์ ขันตินกุลานนท์, 49 กก.หญิง “เทนนิส”จ่าอากาศตรีหญิงพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ, รุ่น 53 กก.หญิง “นก” พรรณนภา หาญสุจินต์, รุ่น 57 กก.หญิง “ฟ้า”วิภาวรรณ ศิริพรเพิ่มศักดิ์, รุ่น 62 กก.หญิง ธัญนิตย์ ภูธนัตถ์วฤนร์ รุ่น 58 กก.ชาย “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารีย์, รุ่น 63 กก.ชาย นฤพงษ์ เทพเสน, รุ่น 68 กก.ชาย หลักชัย ห้วยหงส์ทอง, รุ่น 74 กก.ชาย ณัฐวีร์ กล่อมพงษ์ และรุ่นน้ำหนัก 80 กก.ชาย ขึ้นไป “ร็อค” ณัฐภัทร ตันตรามาตย์ ส่วนประเภทท่ารำ อรนวีย์ ศรีสหกิจ , กชวรรณ ชมชื่น, ศกุนา เหล่าสูงเนิน,ธัญสินี มุขตา, ภัทรพงศ์ เซ่งเมือง, ธนภัทร บำเพ็ญธรรมนำสุข และชวลิต โขพนะ
