คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
อีกไม่นานการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ก็จะระเบิดศึกขึ้น ซึ่งทั้งทีมชาย และทีมหญิงของไทย ต่างก็มีเป้าหมายเดียวคือ "เหรียญทอง" โดยเฉพาะทีมหญิงที่เมื่อ 2 ปีก่อน โดนโปรแกรมแข่งทำพิษ คว้ามาได้เพียงเหรียญเงิน ปล่อยตำแหน่งแชมป์หลุดมือให้ เวียดนาม ที่ชนะเราเพียงแค่ลูกได้เสีย คราวนี้ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองกันใหม่ ภายใต้การนำของ แม่ทัพคนใหม่ "มาดามเจี๊ยบ" ศิริมา พานิชชีวะ ในตำแหน่งผู้อำนวยการทีม
ขณะที่ฟุตบอลชายนั้นก็ได้รับการจับตามาโดยตลอด เนื่องจากชาติของเราเป็นทีมมหาอำนาจในฟุตบอลรายการนี้จริงๆ ด้วยผลงานคว้าแชมป์ซีเกมส์สูงสุด 16 สมัย ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง มาเลเซีย ที่ทำได้เพียง 6 สมัย, อันดับ 3 เมียนมา ทำได้ 5 สมัย, อันดับ 4 อินโดนีเซีย 3 สมัย และ อันดับ 5 เวียดนาม ที่เป็นแชมป์ได้แค่สมัยแรก และสมัยเดียว ซึ่งตอนนั้นเป็นปี ค.ศ.1959 ดังนั้นพลพรรค "ดาวทอง" จึงหมายมั่นปั้นมือกับภารกิจทวงแชมป์ซีเกมส์คืนความสุขแฟนบอลตัวเอง
โดย ดวน วาน เฮา ฟูลแบ็กซ้ายทีมชาติเวียดนาม วัย 20 ปี ที่เดินทางไปค้าแข้งกับ สโมสร ฮีเรนวีน ในลีกเนเธอร์แลนด์ ถึงกับบอกว่านอกจากเป้าหมายในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่ต้องเอาชนะคู่แข่งอย่าง ยูเออี กับ ไทย ให้ได้แล้ว การคว้าแชมป์ซีเกมส์ 2019 ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เขาและทีมต้องการ เพราะห่างหายจากแชมป์รายการนี้มานานมาก (ไม่นานได้ยังไง เขารอมานานตั้ง 60 ปีแล้ว)
ไม่ใช่แค่ เวียดนาม ที่จัดเต็ม ตอนนี้ได้ข่าวว่า อินโดนีเซีย ที่ผลงานของทีมชาติชุดใหญ่ชัดเจนว่าหมดลุ้นศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ไปแล้ว จัดการพักผู้เล่นอย่าง เบโต้ กอนซาเวซ หัวหอกชาวบราซิลโอนสัญชาติ วัย 38 ปี ที่ยิงประตูให้ทีมชาติอินโดนีเซียมาแล้ว 10 ประตู อีกรายคือ อีวาน ดิมัส กองกลาง วัย 24 ปี จากทีมชุดใหญ่ โดยจะใส่ชื่อทั้งคู่ในโควต้าอายุเกิน 23 ปี อีกคนที่ต้องจับตาคือ เอกี้ เมาลาน่า หัวหอกวัย 19 ปี ผู้เล่นจากสโมสรเลเซียร์ ลีกโปแลนด์ ก็อยู่ในชุดซีเกมส์ แล้วนัดแรกที่ลงสนามในซีเกมส์ คือการดวลกับทีมชาติไทย วันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ด้วย นอกจากนี้ผลงานการอุ่นเครื่องล่าสุดของ อินโดนีเซีย ยู 23 ยังเปิดบ้านเสมอ อิหร่าน รุ่นวัยเดียวกันได้อีก
หันไปมองทีม สิงคโปร์ ยู 23 ที่เปิดศึกอุ่นเครื่องกับ เพิร์ธ กลอรี่ สโมสรชั้นนำของ เอลีก ออสเตรเลีย ที่ส่งทีมยู 20 มาลับแข้ง ก็โดนทัพ "ลอดช่อง" ถลุงไป 4-1 ซึ่งก่อนนี้ทีม สิงคโปร์ ชุดดังกล่าวไปเก็บตัวบ่มเพาะประสบการณ์ที่ประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว โดยทีมทั้งหมดที่กล่าวมาอยู่ร่วมสายบี กับทีมชาติไทย แล้วยังมี ลาว กับ บรูไน ที่หากว่ากันตามตรง ลาว นี่ถ้าพลาดท่าเราเสียประตูไปก่อนนี้อาจพังพาบเอาได้เหมือนกัน
กลับมาดูที่ทีมชาติไทย ผู้เล่นก็ดีกรีไทยลีก ทั้งนั้น ซึ่งอุ่นเครื่อง 2 นัด แพ้ จีน ยู 23 1-2 และ ชนะ เมียนมา วัยเดียวกัน 3-2 โดยรวมก็ดูยังไม่ค่อยกลมกล่อมเท่าไหร่นัก ข่าวดีนิดนึงคือ จะได้ 4 ผู้เล่นจากทีมชุดใหญ่ 4 คน อาทิ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, สุภโชค สารชาติ, ศุภชัย ใจเด็ด และ เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่ทั้งหมดล้วนแต่เป็นแนวรุกทั้งสิ้น ก็มีสื่อบางสำนักเสนอว่าเราไม่เอานักเตะโควต้าอายุเกิน 23 ปี ไปหรือ? แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ ยิ่งดูจากนัดชนะ เมียนมา ยิ่งหวั่นใจ เหมือนว่าผู้เล่นหลายคนยังไม่นิ่งดีนัก หวังว่าระยะเวลาอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ที่จะลงสนามนัดแรก คงจะทำความเข้าใจกันได้ดีกว่านี้
สถิติอีกอย่างที่น่ากังวลคือ โค้ชต่างชาติ มักไม่ประสบความสำเร็จในซีเกมส์ ซึ่งคนต่างชาติคนสุดท้ายที่นำทีมชาติไทยเป็นแชมป์ซีเกมส์ได้คือ คาร์ลอส โรแบร์โต้ คาร์วัลโญ่ กุนซือชาวบราซิลที่นำทีมลุย ซีเกมส์ 2003 ที่ประเทศเวียดนาม ก็ต้องมาดูว่า อากิระ นิชิโนะ จะพาทีม "ช้างศึก" ไปถึงเป้าหมายได้หรือไม่?
