มาร์โก ทรันเจลลิตี นักเทนนิสหนุ่มวัย 28 ปี กลายเป็นที่จดจำของสื่อและผู้ชมในการแข่งขัน แกรนด์ สแลม เฟรนช์ โอเพน ปีนี้ เมื่อเรื่องราวการเดินทางอันแสนทรหดของเขาและครอบครัวเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันด้วยรถเพียง 1 คัน ถูกตีแผ่ออกสื่อในวงกว้าง แถมยังเก็บชัยชนะได้ด้วยร่างกายที่อ่อนล้า
นักเทนนิสมือ 190 ของโลกชาวอาร์เจนไตน์ เดินทางกลับไปที่ บาร์เซโลนา หลังไม่ผ่านการควอลิฟายที่ โรลังด์ การ์รอส และเตรียมพาครอบครัวไปขับรถเล่นกินลมชมวิวในเมือง กระทั่งโค้ชของเขาแจ้งข่าวได้สิทธิ์ลงแข่งรอบแรกของเมนดรอว์ในฐานะ ลัคกี ลูซเซอร์ เจ้าตัวจึงรู้ว่าวันหยุดพักร้อนจบลงแล้ว
"คุณย่าของผมกำลังอาบน้ำอยู่ตอนนั้น และผมก็บอกเธอว่า เรากำลังจะไปปารีส กระนั้นสายการบินที่จะเดินทางไป ปารีส ถูกยกเลิกหมดเลย แทบไม่อยากเชื่อว่ามันเกิดขึ้น ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดที่มีอยู่คือขับรถไป และเมื่อคิดว่ามันไม่ไกลมาก ก็ตัดสินใจลุยทันที" ทรันเจลลิตี เล่าถึงการตัดสินใจแบบเร่งด่วน
ตลอดระยะทาง 650 ไมล์ (ราว 1,000 กม.) จาก บาร์เซโลนา ถึงกรุงปารีส ทรันเจลลิตี ใช้วิธีขับรถไปแข่งโดยสลับกับน้องชาย อังเดร รวมเป็นเวลา 10 ชั่วโมง โดยมีคุณแม่กับคุณย่านั่งมาด้วย พวกเขามาถึงที่หมายก่อนเที่ยงคืนวันที่ 27 พฤษภาคม ซึ่งเจ้าตัวจะลงแข่งในวันต่อมา และการเดินทางครั้งนี้ก็ไม่สูญเปล่าเมื่อเขาเอาชนะ เบอร์นาร์ด โทมิค จากออสเตรเลีย 3-1 เซต 6-4, 5-7, 6-4, 6-4 เข้ารอบสองไปแล้ว
ทรันเจลลิตี รับเงินรางวัลสำหรับผ่านรอบแรกไปแล้วที่ 69,000 ปอนด์ (ประมาณ 2.9 ล้านบาท) หากเข้ารอบได้เรื่อยๆก็จะได้เงินเพิ่มขึ้น โดยผลงานในแกรนด์ สแลม ที่ผ่านมาเคยไปไกลสุดถึงรอบสองของ เฟรนช์ โอเพน ใน 2 ครั้งหลังสุด ซึ่งเจ้าตัวเผยภายหลังว่าเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่ายิ่ง เพราะ ลัคกี ลูซเซอร์ คนก่อนหน้านี้หลายรายเดินทางกลับไปหมดแล้ว เหลือเพียงตนที่อยู่ไม่ไกลและพอเดินทางไปได้
"ผมคิดว่าอย่างน้อยสภาพจิตใจก็พร้อมที่จะลงแข่งขัน แต่ก่อนหน้านั้นผมนึกไม่ออกเลยว่าจะเล่นอย่างไร ผมตกรอบเมื่อวันพฤหัสบดี วันศุกร์ไม่ได้แข่ง วันเสาร์ไม่ได้ซ้อม วันอาทิตย์ก็ต้องขับรถมาเลย เพิ่งจะได้วอร์มอัพในวันแข่งจริงแล้วก็ลงคอร์ตไปเลย กระนั้นเองมันก็คือช่วงเวลาที่สวยงามน่าจดจำทีเดียว" หวดหนุ่มชาวอาร์เจนไตน์ ทิ้งท้าย
