เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ยอมรับลูกทีมเก็บ 3 คะแนนเต็ม ด้วยรูปเกมน่าอัปลักษณ์ หลังเอาชนะ คริสตัล พาเลซ แบบหวุดหวิด 2-1 ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ที่สนาม เซลเฮิร์สท ปาร์ก วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แนวรุกชาวอียิปต์ พังประตูชัยนาที 84 ซึ่งนับเป็นลูกที่ 37 รวมทุกรายการ ปิดฉากการคัมแบ็ก หลัง ลูกา มิลิโวเยวิช มิดฟิลด์ชาวเซิร์บ สังหารจุดโทษ ตั้งแต่นาที 13 ก่อนหน้า ซาดิโอ มาเน กองหน้า เซเนกัล ตามตีเสมอ 1-1 ช่วงต้นครึ่งหลัง
ทำให้ “หงส์แดง” ขยับหนีอันดับ 5 เชลซี ซึ่งจะมีโปรแกรม “ลอนดอน ดาร์บี แมตช์” พบ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ รองแชมป์เก่า วันรุ่งขึ้น (1 เม.ย.) เป็น 10 แต้ม ก่อนฟาดแข้งเกม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ เลก 1 กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี คืนวันพุธที่ 4 เม.ย.
อดีตเทรนเนอร์ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กล่าว “ผมยินดีเหลือเกินที่เรากลับมาได้ ผมคิดว่าเราสมควรกับ 3 คะแนน จริงอยู่ ลอริส (คาริอุส) ต้องออกแรงเซฟ 2 - 3 ครั้ง แต่ผมก็คิดว่า คริสตัล พาเลซ มีจังหวะโชคช่วยอยู่บ้างที่ไม่เสียประตู”
“ผมคิดว่าตอนบอลทะลุกองหลัง แล้วคุณเห็น โม (ซาลาห์) อยู่ตรงนั้น มันเป็นความรู้สึกที่โล่งอก มันเป็นการจบสกอร์ที่เยือกเย็นมาก ผมพอใจกับปฏิกิริยาของลูกทีมหลังพักครึ่ง บางทีมันอาจเป็น 3 แต้มแบบน่าเกลียด แต่มันก็มีความหมายมาก”
ทั้งนี้ บิ๊กบอสชาวเยอรมัน ยังโดดป้อง มาเน กรณีพุ่งล้มหวังจุดโทษครึ่งแรก เป็นเหตุให้ได้รับใบเหลือง แถมยังโชคดีที่ไม่โดนไล่ออก ข้อหาเจตนาแฮนด์บอล
“ตามความเห็นของผม มันเป็นจุดโทษชัดเจน ยิ่งเห็นภาพรีเพลย์ก็ยิ่งมั่นใจ เขาทิ้งตัวช้าเกินไปหน่อย แต่ก็มีการสัมผัสเกิดขึ้น แต่ครึ่งหลัง ผมคิดว่า ซาดิโอ ถูกทำฟาวล์ แล้วเขาก็ใช้มือคว้าบอล มันเกิดความสับสนเล็กน้อย แน่นอนว่าเราโชคดีเหลือเกิน”