โชเซ มูรินโญ กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับมิอาจกวด แมนเชสเตอร์ ซิตี อริร่วมเมือง ตามหลักปฏิบัติ หลังเอาชนะ สวอนซี ซิตี แบบไร้ปัญหา 2-0 ศึก พรีเมียร์ ลีก ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด คืนวันเสาร์ที่ 31 มีนาคม ตอบโต้เสียงวิจารณ์ สโมสรมีพัฒนาการดีขึ้นกว่าฤดูกาลที่แล้ว
ซิตี เพิ่งเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ขาดลอย 3-1 วันเดียวกัน (31 มี.ค.) เท่ากับว่า และจะการันตี โทรฟีลีกสูงสุด ครั้งแรก นับตั้งแต่ฤดูกาล 2013-14 หากเก็บ 3 คะแนนเต็ม เกม “แมนเชสเตอร์ ดาร์บี” ที่สนาม เอติฮัด สเตเดียม สัปดาห์หน้า (7 เม.ย.)
ขณะที่ ยูไนเต็ด ขยับเป็น 68 แต้ม จาก 31 นัด ทว่า ก็ยังตาม "เรือใบสีฟ้า" อยู่ 16 แต้ม ผิดกับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งไล่ เชลซี แชมป์เก่า แค่ 7 แต้ม
อย่างไรก็ตาม “เรด เดวิลส์” มีสิทธิ์จบด้วยอันดับดีสุด หลังจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมระดับตำนาน รีไทร์ เมื่อปี 2013 หลังทำได้เพียงอันดับ 7, 4, 5 และ 6 ตลอด 4 ซีซันล่าสุด
แต่กรณี แมนฯ ยูไนเต็ด ตกรอบ 16 ทีม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เป็นเหตุให้ เจ้าของสมญา “เดอะ สเปเชียล วัน” ถูกโจมตีว่า ทำทีมเล่นแบบน่าเบื่อ ทว่ายังเปรียบเทียบความแตกต่างเกมลีก ช่วง 2 ซีซันที่ผ่านมา รวมถึงทะลุถึงรอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ พบ สเปอร์ส บ่งชี้ว่าทีมมีแนวโน้มดีขึ้น
บิ๊กบอสชาวโปรตุกีส กล่าว “ฤดูกาลนี้เราต้องการอันดับ 2 เราเก็บคะแนนมากกว่าฤดูกาลที่แล้ว 10 แต้ม ยิงประตูมากขึ้น และเสียประตูน้อยลง แต่เรามี แมนฯ ซิตี ที่เก็บแต้มมากมายเหลือเกินจนยากจะตามทัน”
“พิจารณาคะแนนที่เรามีอยู่ตอนนี้ หากเทียบกับฤดูกาลอื่นๆ เราน่าจะลุ้นแชมป์ แต่เรายังเหลือโอกาส เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ซึ่งเรารู้ว่าจะต้องสู้กับหนึ่งในทีมที่ดีสุด (สเปอร์ส) ในบ้านของพวกเขา (เวมบลีย์) แต่เราจะสู้เพื่อเข้ารอบชิงชนะเลิศ”