xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กอ๊อด” แจงเงิน 4,200 ล้าน ต้องเจียดใช้หนี้แทน “บังยี” และ กกท.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

บิ๊กอ๊อด แจงเส้นทางเงินสนับสนุนต่างๆ
“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ประมุขลูกหนังไทย แจงเส้นทางเงินสนับสนุนจากทรูวิชั่นส์ และผู้สนับสนุน 4 ปี ราวๆ 4,200 ล้านบาท ไม่ได้หายไปไหน แถมแบ่งไปใช้หนี้ที่สมาคมชุดเก่าสร้างไว้ และยังต้องหาเพิ่มปีละ 37 ล้านบาทแทนที่ กกท.เคยสนับสนุนไทยลีก 1 และ 2

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในยุคของ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้รับมรดกจากชุดเก่าเป็นมูลค่าถึง 4,200 ล้านบาท จากการเซ็นสัญญากับ “ทรูวิชั่นส์” และยังมีสัญญาต่อเนื่องที่เซ็นไว้เดิมกับผู้สนับสนุนนรายใหญ่ๆ เช่น ช้าง, โตโยต้า, เมืองไทยประกันภัย และแกรนด์สปอร์ต อีกเกือบ 200 ล้านบาท

รวมทั้งเงินสดที่จะต้องได้รับจากสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) จากการทำผลงานและความสำเร็จของทีมฟุตบอลชาติไทย ที่ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2018 รอบ 12 ทีมสุดท้ายโซนเอเชีย อีก 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 62 ล้านบาท 

และเงินที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ต้องจ่ายเงินรางวัลให้ทีมฟุตบอลหญิง ซึ่งสมาคมชุดเก่าได้สำรองจ่ายไปแล้ว 350,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 10,850,000 บาท) รวมทั้งเงินอุดหนุนที่ค้างรับจากฟีฟ่าอีก 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 15,500,000 บาท) นอกจากนี้ยังมีเงินสดในบัญชี รวมถึงเงินอุดหนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) อีกจำนวนหนึ่งด้วย

ล่าสุด “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ออกมาเผยถึงรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวว่า “สัญญากับทรูวิชั่นส์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด 4 ปี ปีแรก ทรูฯ จ่าย 650 ล้านบาท, ปีที่ 2 ให้ 900 ล้านบาท, ปีที่ 3 ให้ 1,050 บาท และปีที่ 4 ให้ 1,150 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 3,750 ล้านบาท ทว่าเมื่อรวมเงินกับผู้สนับสนุนแล้ว แน่นอนว่าน่าจะถึง 4,200 ล้านบาท ตามที่มีคนพูดมาอย่างแน่นอน”

“แต่เงินที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยได้ในแต่ละปีจากผู้สนับสนุนนั้น แบ่งจ่ายเป็น 3 งวด ไม่ได้มาก้อนใหญ่ก้อนเดียว บางรายก็ไม่ได้เงินอย่างเดียว เพราะยังมีสินค้าที่อยู่ในมูลค่าทางการเงินอีกเสียด้วย”

ขณะเดียวกัน บิ๊กอ๊อด ยังเผยถึงการเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในปีแรกก็ต้องเจอปัญหา เมื่อการกีฬาแห่งประเทศไทยยกเลิกเงินสนับสนุนในที 1-ที 2 รวมแล้ว 37 ล้านบาท ไปจนถึงเงินของผู้ตัดสินและทีมในระดับที 3-ที 4

“สมาคมฯ ต้องหาเงินมาจ่ายทั้งหมด 37 ล้านบาทแทนที่ กกท. รวมทั้งยังมอบเงินให้ทีมที 1 อีกทีมละ 5 ล้านบาท ในการพัฒนาสโมสร, ให้ทีมที 2 จำนวน 3+1 ล้านบาท, ให้ทีมที 3 จำนวน 1+1 ล้านบาท ทั้งหมดยังไม่รวมกับเงินภาษีที่สมาคมฯ ชุดเก่าทิ้งเอาไว้ 200 ล้านบาท โดยเราได้จ่ายงวดแรก 40 ล้านบาท ก่อนขอผ่อนส่งอีก 2 ปี”

“บิ๊กอ๊อด” ยังพูดต่อไปว่า “ในเรื่องของเบี้ยเลี้ยงผู้ตัดสินและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น หลังจากไม่ได้รับการสนับสนุนจาก กกท. แล้ว ผมเองก็ต้องไปยืมเงินจากลูกสาว และเบิกเงินล่วงหน้าจากแพลนบีมาใช้ก่อน เพื่อให้เงินออกตรงเวลา เพราะยุคผมไม่ต้องการให้มีการจ่ายเงินปลายปี รวมทั้งมีค่าเดินทางให้กับทีมที 3-ที 4 ขณะที่เรื่องเงินทีมชาติไทยที่ผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 นั้น ผมได้สอบถามไปยัง เอเอฟซี กับ ฟีฟ่า แล้ว ปรากฏว่าพวกเขาได้ส่งคนมาตรวจสอบเส้นทางการเงินชุดเก่าก่อนที่จะไม่มีการจ่าย จนผมเองต้องอาศัยความสนิทสนมกับประธานเอเอฟซี (ชีค ซัลมาน บิน อิบรอฮีม อัล คอลีฟะห์) และประธานฟีฟ่า (จานนี อินฟันติโน) ไปพูดคุย แม้ว่าเขาจะไม่มีการจ่ายเงินในการผ่านเข้า 12 ทีมเอเชีย ฟุตบอลโลกก่อนหน้านี้ ทว่าก็ยืนยันว่าจะจ่ายทุกทัวร์นาเมนต์ที่ทีมชาติไทยมีผลงานในยุคของผมบริหารงาน”


กำลังโหลดความคิดเห็น