นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี ประธานสโมสรของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทีมเศรษฐีแห่งศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส และพวกพ้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีที่เจ้าตัวอาจมีส่วนพัวพันเกี่ยวกับการทำธุรกิจเรื่องขอลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก ที่จะมีขึ้นอีก 4 ครั้งถัดไป
เคไลฟี นอกจากเป็นบอสใหญ่ของ เปแอสเช ยังนั่งตำแหน่งผู้บริหารของ บีอิน มีเดีย กรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาระดับโลกมากมาย ทว่า ปัจจุบันถูกสำนักงานอัยการประจำสวิตเซอร์แลนด์ (OAG) สงสัยว่า ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด เวิลด์ คัพ ที่ได้มานั้น มีพิรุจบางอย่าง
การดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2016 ขณะที่ เฌอโรม วัลเก้ อดีตเลขาธิการของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยด้วยว่าอาจมีส่วนร่วมช่วยเหลือให้ เคไลฟี และ บีอิน ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดแบบไม่ชอบพากล
รายงานจากตัวแทนของ OAG ร่ายว่า “การสอบสวนคดีครั้งนี้ตั้งอยู่บนความผิดจำนวน 4 กระทง โดย มร.วัลเก้ มีความผิดจาการใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการหาประโยชน์จากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ ปี 2018, 2022, 2026 และ 2030 ขณะที่ มร.อัล-เคไลฟี คือปี 2026 กับ 2030”
ทั้งนี้ หากผลการสอบสวนออกมา พบว่า ทั้งสองเป็นผู้มีความผิดจริง ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก ที่บีอิน ครอบครองอยู่ก็จะหลุดและเปิดโอกาสให้บริษัทอื่นสามารถยื่นเสนอตัวเข้ามารับไม้ต่อได้
