เลอันโดร เบิกร่อง ธีราทร ซัดทีมเก่า "กิเลนผยอง" ทำได้ บุกอัด "ปราสาทสายฟ้า" ถึงถิ่น 2-0 ตบเท้าเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้าย ศึกโตโยต้า ลีกคัพ 2017 หยุดสถิติไร้พ่ายของบุรีรัมย์ไว้ที่ 21 นัด
การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ 2017 รอบ 8 ทีมสุดท้าย วันที่ 11 ตุลาคม 2560 บิ๊กแมตช์ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดไอโมบาย สเตเดียม รับการมาเยือนของ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
โบซิดาร์ บันโดวิช เฮดโค้ชเจ้าถิ่น ส่งพรรษา เหมวิบูล ที่ผ่านการทดสอบความฟิตหลังได้รับบาดเจ็บจากเกมทีมชาติไทยลงสนามเป็นตัวจริง ยืนแนวรับร่วมกับ อันเดรส ตูเนส ส่วนแนวรุกคงเป็น 2 คู่หูบราซิลเลียน อย่าง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต และ แจ็คสัน โคเอลโญ่
ส่วน "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน เทรนเนอร์กิเลนผยอง ส่ง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ลงเล่นตัวจริงอีกครั้งหลังได้รับบาดเจ็บหายหน้าหายตาไป 2 เดือน ส่วนแบ็คขวาใช้งาน อดิศร พรหมรักษ์ แทนที่ของทริสตอง โด ที่ได้รับบาดเจ็บ และยังส่ง สารัช อยู่เย็น มิดฟิลด์หน้าหล่อที่คัมแบ็กจากอาการบาดเจ็บกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ขณะที่ ธีรศิลป์ แดงดา ที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมที่ชาติมีชื่อเป็นเพียงตัวสำรอง
ก่อนเกมการแข่งขันเจ้าถิ่นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้อย่างสุดยอด ไม่แพ้ใครในทุกรายการมา 21 นัดติดต่อกัน โดยในรายการนี้รอบที่แล้วเอาชนะชลบุรี เอฟซี ในการดวลจุดโทษ ส่วนผู้มาเยือนฟอร์มกำลังดีเช่นเดียวกัน ไม่แพ้ใครในทุกรายการมา 18 นัดติดต่อกัน และเป็นการเอาชนะคู่แข่งมา 6 นัดรวด ใน 6 เกมหลังสุด
เริ่มเกมการแข่งขันเจ้าถิ่นเป็นฝ่ายทำได้ดีกว่ามีโอกาสลุ้นประตูหลายครั้ง แต่ยังจบสกอร์กันไม่คม ขณะที่ทีมเยือนอาศัยจังหวะโต้กลับเร็วและมีโอกาสลุ้นพอสมควร แต่ยังไม่มีใครทำอะไรกันได้ จบครึ่งแรกเสมอกันแบบไร้สกอร์ 0-0
ครึ่งหลังยังคงเป็น บุรีรัมย์ ที่เปิดเกมบุกเข้าใส่ เมืองทอง อย่างเต็มที่ แต่กลายเป็นทีมเยือนมาบุกมานำ 1-0 นาทีที่ 57 จากจังหวะที่ เฮแบร์ตี้ เฟร์นันเดซ จ่ายเข้ากลางให้ ชาริล ชาปุย ก่อนที่เจ้าตัวจะหันหลังจ่ายบอลอย่างเหนือชั้นให้ เลอันโดร อัสซัมเซา วิ่งเข้ามายิงเน้นๆผ่านมือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนินเข้าไป
ทีมเยือนยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง และมาได้ประตูหนีห่าง 2-0 ในนาทีที่ 69 จากจังหวะโต้กลับเร็ว เฮแบร์ตี้ เฟร์นันเดซ ได้บอลจากแดนตัวเองก่อนเลี้ยงลุยขึ้นมาจ่ายทะลุช่องให้ ธีราทร บุญมาทัน หลุดไปกระดกบอลข้ามตัว ศิวรักษ์ เข้าไป
หลังจากนั้นเจ้าถิ่นพยายามเร่งเครื่องเพื่อทวงประตูคืนแต่ไม่สามารถเจาะแนวรับที่แข็งแกร่งของทีมเยือนได้ หมดเวลา 90 นาที เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด บุกชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ นอกจากนี้ยังเป็นการหยุดสถิติไม่แพ้ใครของทีมปราสาทสายฟ้าเอาไว้ที่ 21 นัด ขณะที่ เอสซีจี เมืองทองฯ ไม่พ่ายแพ้ผู้ใดเป็นนัดที่ 19 ติดต่อกัน
รายชื่อ 11 ตัวจริงทั้งสองทีม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK), พรรษา เหมวิบูล, อันเดรส ตูเนส, ชิติพัทธ์ แทนกลาง, สุเชาว์ นุชนุ่ม, รัตนากร ใหม่คามิ, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, จักรพันธ์ แก้วพรม, โก ซุลกี, ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต, แจ็คสัน โคเอลโญ่
เอสซีจี เมืองทองฯ : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (GK), พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, นาโออากิ อาโอยาม่า, เซลิโอ ซานโตส, อดิศร พรหมรักษ์, ชาริล ชาปุย, สารัช อยู่เย็น, เลอันโดร อัสซัมเซา, เฮแบร์ตี้ เฟร์นันเดซ, ธีราทร บุญมาทัน, อดิศักดิ์ ไกรษร
ส่วนผลการแข่งขันอีกหนึ่งคู่ที่ลงสนามในเวลาเดียวกัน "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมบุกเอาชนะ แอร์ฟอร์ซ เอฟซี ถึงถิ่น 1-0 จากประตูชัยของ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ผ่านเข้าสู่ร่อบ 4 ทีมสุดท้ายเช่นเดียวกัน
