สโลน สตีเฟ่น คว่ำ เมดิสัน คีย์ นักหวดเพื่อนร่วมชาติ 2 เกมรวด ผงาดคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น เป็นแกรนด์สแลมแรกในชีวิต เจ้าตัวสุดตื่นตันใจ ฝ่ามรสุม คัมแบ็กกลับมาประสบความสำเร็จ
การแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมรายการสุดท้ายแห่งปี “ยูเอส โอเพ่น 2017” ที่ยูเอสทีเอ บิลลี ยีนส์ คิง เนชั่นแนล เทนนิส เซ็นเตอร์ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2560 ตามเวลาท้องถิ่น เป็นการชิงชัยในรอบชิงชนะเลิศ ประเภทหญิงเดี่ยว
สโลน สตีเฟ่น นักหวดลูกสักหลาดมือวางอันดับ 83 ของโลก วัย 24 ปี ขวัญใจเจ้าถิ่น ที่เอาชนะ วีนัส วิลเลียมส์ มาในรอบ 4 คนสุดท้าย โคจรมาพบกับ เมดิสัน คีย์ นักหวดรุ่นน้องเพื่อนร่วมชาติ มือวางอันดับ 16 ของโลก
ปรากฏว่า สโลน สตีเฟ่น ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 1 นาที ไล่หวดเอาชนะ เมดิสัน คีย์ ที่วันนี้ตีเสียถึง 30 อันฟอร์ซเออเรอร์ ไป 2 เซตรวด ด้วยสกอร์ 6-3, 6-0 ผงาดคว้าแชมป์เทนนิสแกรนด์สแลมได้เป็นครั้งแรกในชีวิต
หลังคว้าแชมป์มาครอง นักหวดสาววัย 24 ปี กล่าวอย่างตื้นตันใจว่า รู้สึกแฮปปี้มากๆ กับการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมแรกในชีวิตมาครองได้สำเร็จ ตนมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ และปัญหาต่างๆ นานา ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
“แต่เวลานี้ ตนทำมันได้สำเร็จ คว้าแชมป์แกรนด์สแลมในบ้านเกิดของตัวเอง ต่อหน้าญาติๆ ของตัวเอง ต่อหน้าแฟนเทนนิสอเมริกัน มันรู้สึกเป็นปลื้มมากๆกับความสำเร็จในครั้งนี้” สโลน สตีเฟ่น กล่าว
การคว้าแชมป์ครั้งนี้ของ สโลน สตีเฟ่น ทำให้เธอทวงคืนความสำเร็จของนักเทนนิสอเมริกัน ในบ้านเกิดของตัวเองอีกครั้ง หลังจาก 2 ปีล่าสุด แชมป์ตกไปอยู่ในมือของนักหวดลูกสักหลาดชาติอื่น อย่าง ฟลาเวีย เพ็นเน็ตต้า ปี 2015 และ แองเจลิก เคเบอร์ ปี 2016 ซึ่งก่อนหน้านี้ เซเรน่า วิลเลียมส์ คว้าแชมป์รายการนี้ได้ 3 สมัยรวดในปี 2012-2014
นอกจากนี้ จะทำให้หวดสาวอเมริกันรายนี้ มีอันดับโลกขยับเข้าไปติด 1 ใน 10 ของโลกเป็นครั้งแรกในชีวิต หลังเธอเคยทำได้ดีที่สุดคือมือวางอันดับ 11 ของโลก เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2013 และยังทำให้เธอกลายเป็นนักเทนนิสคนที่ 5 ที่ไม่ได้ถูกจัดเป็นมือวางของรายการ แต่ก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้สำเร็จ