เวย์น รูนีย์ หัวหอกจอมเก๋าสังกัด เอฟเวอร์ตัน สร้างเซอร์ไพรส์ ประกาศเส้นทางการรับใช้ ทีมชาติอังกฤษ อันยาวนาน 14 ปี เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันพุธที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ครองสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาล 53 ประตู
อดีตนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ติดธง "สิงโตคำราม" ครั้งแรก พบ ออสเตรเลีย เมื่อปี 2003 ด้วยวัยเพียง 17 ปี 111 วัน ถือว่าอายุน้อยสุด ณ เวลานั้น แถมยังเป็นผู้เล่น เอาท์ฟิลด์ (ไม่ใช่ผู้รักษาประตู) ที่ลงเล่นมากสุด 119 เกม
รูนีย์ วัย 31 ปี คลอดแถลงการทางเว็บไซต์ส่วนตัว (www.officialwaynerooney.com) "ผมบอก ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ (แกเร็ธ เซาธ์เกต) หลังไตร่ตรองอย่างรอบคอบว่า ตอนนี้ผมขอรีไทร์บนจุดสูงสุดของฟุตบอลระดับนานาชาติ มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากเหลือเกิน ผมปรึกษากับครอบครัว , ผู้จัดการทีม เอฟเวอร์ตัน และคนอื่นๆ ที่ใกล้ชิดกับผมมากสุด"
สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) เผยว่า ผลผลิตจากอะคาเดมี "ทอฟฟีสีน้ำเงิน" พูดคุยกับ เซาธ์เกต เกี่ยวกับการตัดสินใจหันหลังให้ทีมชาติ เมื่อวันอังคาร (22 ส.ค.) หลังได้รับข่าวอาจคืนสู่ทัพ "เดอะ ทรี ไลออนส์" ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนยุโรป พบ มอลตา และ สโลวาเกีย วันที่ 1 และ 4 กันยายน ตามลำดับ
ทั้งนี้ "รูน" ซึ่งคว้าหมวกทีมชาติครั้งสุดท้าย เกมถล่ม สกอตแลนด์ คู่ปรับตลอดกาล 3-0 ที่สนาม เวมบลีย์ กรุงลอนดอน เดือนพฤศจิกายน 2016 ยืนยันต้องการทุ่มเทแมตช์ระดับสโมสร หลังแยกทาง "ปิศาจแดง" กลับสู่ถิ่น กูดิสัน ปาร์ก ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และกลายเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ที่ทะลวงตาข่ายครบ 200 ประตู ยุค พรีเมียร์ ลีก เกมเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-1 คืนวันจันทร์ที่ 21 ส.ค. ต่อจาก อลัน เชียร์เรอร์
"การอำลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากเช่นกัน แต่ผมรู้ผมทำถูกแล้วที่กลับมาอยู่ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านของผม ตอนนี้ผมขอเอาจริงเอาจังกับการช่วยให้สโมสรประสบความสำเร็จ" รูนีย์ ทิ้งท้าย