"กิเลนผยอง" ยอดทีมแห่งศึกโตโยต้า ไทยลีก เอาจริง จัดการตั้งทนายความยื่นฟ้องแกนนำกลุ่ม N-ZONE 4 คน โทษฐานก่อเรื่องให้ทีมได้รับความเสียหาย มูลค่ากว่า 2 ล้าน
เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา แกนนำเชียร์กลุ่ม N-ZONE ของทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปากเกร็ด หลังก่อเรื่องในเกมโตโยต้า ไทยลีก วันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ทีม "กิเลนผยอง" เปิดบ้านเสมอ บุรีรัมย์ 1-1 ด้วยการที่เขียนข้อความไม่เหมาะสมบนป้ายผ้า จนทีมโดนแบนห้ามใช้รังเหย้า พร้อมปรับเงิน 80,000 บาท
ล่าสุด ฝ่ายบริหารของสโมสรเอสซีจี เมืองทองฯ จัดการตั้งทนายฟ้องร้องทางแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายกับการกระทำดังกล่าวแก่ทั้ง 4 คน อย่าง นายณภัทร โพธิ์ทองนาค อายุ 43 ปี , นายนคร ชื่นคำ อายุ 34 ปี , นายธวัชชัย ตาปนานนท์ อายุ 24 ปี ส่วนอีก 1 คน ไม่ประสงค์ออกนาม โดยมี 5 ข้อ ที่จะทำการฟ้องร้อง มูลค่ารวม 2 ล้านบาท
1.ค่าปรับที่เสียให้กับฝ่ายจัดการแข่งขัน 80,000 บาท
การทำผิดจากข้อความนัดดังกล่าว ส่งผลให้คณะกรรมพิจารณาวินัยและข้อประท้วงสั่งปรับเงินสโมสร 80,000 บาท
2.ค่าเช่าสนามราชมังคลากีฬาสถาน 200,000 บาท
นอกจากโดนปรับเงิน 80,000 บาทแล้ว ยังโดนห้ามเล่นในบ้าน 1 นัด คือ เกมล่าสุดที่ ชนะ ซูปเปอร์เพาเวอร์ 9-1 ซึ่งต้องไปเช่าราชมังคลากีฬาสถาน เป็นรังเหย้าชั่วคราว
3.ค่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัย 300,000 บาท
การที่ย้ายไปเล่นที่ราชมังคลาสถาน แน่นอนว่าต้องมีค่าใช้จ่ายในการจ้างเจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความปลอดภัยในเขตพื้นที่นั้น ซึ่งจากการที่สร้างเรื่องไว้ ต้องตรวจกันด้วยความเข้มงวด เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงในพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งสโมสรก็ต้องยอมรับกับมาตรฐานที่เกิดขึ้น
4.ค่าขายของที่ระลึกหายไป 1,000,000 บาท
เกมที่ย้ายไปเล่นที่ราชมังคลาสถาน สโมสรไม่สามารถที่จะนำของที่ระลึกไปขายได้ ซึ่งปกติแต่ละนัดที่เล่นในบ้าน จะมีมูลค่าในการจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 1,000,000 บาท ตรงนี้สโมสรเสียหายเต็มๆ
5.ค่าบัตรเข้าชมที่ขายได้ หายไป 500,000 บาท
เกมที่พบ ซูปเปอร์เพาเวอร์ มีแฟนบอลเข้าชมแค่ 3,700 คนเท่านั้น ซึ่งแต่ละนัดหากเล่นที่ SCG สเตเดี้ยม มีไม่น้อยกว่า 8,000 คน