xs
xsm
sm
md
lg

"เลอ ตูร เดอ ฟร้องซ์" จักรยานคันละ 5 แสนกว่าบาท / กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

เลอ ตูร เดอ ฟร้องซ์ (Le Tour de France) การแข่งขันจักรยานทางไกลที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เริ่มจัดขึ้นครั้งแรกในปี 1903 และจัดต่อเนื่องมาทุกปี มีว่างเว้นก็ในช่วงสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง ในปีนี้นับเป็นหนที่ 104 แล้ว เริ่มจาก ดุ๊สเซ็ลด๊อร์ฟ (Düsseldorf) ใน เจอรมานี ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เข้าสู่ เบลเจี้ยม และ ลุกซ็องบูรก์ ก่อนที่จะเข้าสู่ ฝรั่งเศส ผ่าน 34 เมือง ไปจบลงที่ ถนนช็อง เซลีเซ่ (Avenue des Champs-Élysées) ใน กรุงปารี ในวันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคมนี้

นักปั่นต้องฟันฝ่าทั้งสิ้น 21 ช่วง รวมระยะทาง 3,521 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการแข่งขันบนพื้นที่ราบ 11 ช่วง ในจำนวนนี้ 2 ช่วงเป็นการแข่งแบบ ทายม์ทรายอัล มีผ่านที่ราบสูง 5 ช่วง และปั่นขึ้นเขาอีก 5 ช่วง พัก 1 วันหลังจากจบช่วงที่ 9 นั่งเครื่องบินจากฝั่งตะวันออกข้ามไปเริ่มช่วงที่ 10 ทางตะวันตก และพักอีก 1 วันหลังจากจบช่วงที่ 15 เมื่อจบช่วงที่ 20 ที่ มารแซ็ย (Marseille) ทางใต้ของ ฝรั่งเศส ทุกคนนั่งเครื่องบินเข้าสู่ กรุงปารี เพื่อแข่งช่วงสุดท้าย

ในปี 1903, 1905 และ 1936 การแข่งขันยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากมาย มีนักปั่นเข้าร่วมการแข่งขันน้อยที่สุดเพียง 60 คน มาถึงปี 1986 เป็นยุครุ่งเรืองสุดๆ สุดยอดนักปั่นจากทั่วโลกให้ความสนใจเข้าร่วมแข่งถึง 210 คน ทำให้ในปี 2010 ต้องเริ่มกำหนดจำนวนทีมเข้าร่วมแข่งขันเพียง 22 ทีม โดยมาจาก 18 ทีมที่อยู่ในดิวิเชิ่น 1 ของ สหภาพจักรยานนานาชาติ (Union Cycliste Internationale – UCI) ได้สิทธิ์อัตโนมัติ กับอีก 4 ทีมจากดิวิเชิ่น 2 ที่ผู้จัดเชิญเข้าร่วมการแข่งขัน แต่ละทีมมีนักปั่น 9 คน จึงรวมเป็นนักปั่นทั้งสิ้น 198 คน

ผู้คนเรียงรายอยู่ริมทางเพื่อใกล้ชิดเกาะติดนักปั่น ยิ่งยุคปัจจุบันคนยิ่งมาก เขาบอกว่าปีนี้มีจำนวนรวมกันถึง 12 ล้านคนเชียว รายได้มาจากการขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดโทรทัศน์ อันนี้ก็ร่วมครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดแล้ว นอกจากนั้น ยังมีขบวนคาราวานที่มีโฆษณาอยู่ด้วยถึง 49 รายการ นั่นอีก 40 เพอร์เซ็นท์ ส่วนอีก 10 เพอร์เซ็นท์ที่เหลือเป็นรายได้จากเมืองที่เข้าร่วมการแข่งขัน

เงินรางวัลทั้งสิ้นรวม 2,280,950 เออโร หรือประมาณเกือบ 90 ล้าน บาท มอบให้ผู้ชนะที่ทำเวลารวมน้อยที่สุดที่ได้สวมเสื้อเหลือง เรียกว่า ไมโย โชน (maillot jaune) 5 แสน เออโร หรือเกือบ 20 ล้าน บาท อันดับ 2 ได้รับ 2 แสน เออโร อันดับ 3 ได้รับ 1 แสน เออโร และลดหลั่นลงไปจนถึงอันดับ 19 ส่วนนักปั่นที่เข้าป้ายอันดับ 20 - 160 จะได้เงินรางวัลคนละ 1 พัน เออโร เท่ากัน นักปั่นที่ชนะคะแนนรวมได้สวมเสื้อเขียวรับเงินรางวัล 25,000 เออโร เท่ากับนักปั่นที่ชนะคะแนนรวมปั่นขึ้นเขาที่ได้สวมเสื้อลายจุดแดง ในขณะที่ผู้ชนะคะแนนรวมอายุไม่ถึง 26 ปีได้สวมเสื้อขาวได้รับ 20,000 เออโร และทีมชนะเลิศได้รับ 50,000 เออโร นอกจากนั้น ยังมีเงินรางวัลให้ในแต่ละวันสำหรับผู้นำเวลารวม 500 เออโร ผู้นำคะแนนรวม 300 เออโร เท่ากับผู้นำคะแนนรวมปั่นขึ้นเขาและผู้นำคะแนนรวมอายุไม่ถึง 26 ปี

นับตั้งแต่ปี 1985 ที่ แบรนาร อีโน (Bernard Hinault) นักปั่นชาวฝรั่งเศสคว้าแช้มพ์เป็นสมัยที่ 5 ก็ยังไม่มีนักปั่นชาวฝรั่งเศนสามารถคว้าแช้มพ์รายการนี้ได้อีกเลย จนถึงวันนี้ก็ร่วม 32 ปีแล้ว ความจริงพวกที่คว้าแช้มพ์ได้มากที่สุด 5 สมัยนั้นยังมีอีก 3 คนคือ ชัก อ็องเกอติล (Jacques Anquetil) นักปั่นชาวฝรั่งเศส ยุคปี 50-60 เอ๊ดดี้ แม้ร์กซ (Eddy Merckx) นักปั่นชาวเบลเจี้ยม ยุคปี 60-70 และ มีเกล อินดูราอิน (Miguel Indurain) นักปั่นชาวสเปน ยุคปี 90 ส่วน แล้นซ์ อาร์มสตรอง (Lance Armstrong) นักปั่นชาวอเมริกาที่คว้าแช้มพ์ยิงยาวตั้งแต่ปี 1999 ยันปี 2005 รวม 7 สมัยนั้น ถูกถอดออกจากตำแหน่งไปนานแล้วด้วยข้อหาใช้สารกระตุ้น

นักปั่นแต่ละคนจะมีจักรยานคู่ชีพ 3-4 คัน ซึ่งอย่างน้อย 2 คันสำหรับแข่งบนถนน และอีก 1 หรือ 2 คัน สำหรับปั่นในช่วงทายม์ทรายอัล ซึ่งในสมัยก่อน เขาอาจไม่ได้คำนึงถึงน้ำหนักของจักรยานสักเท่าไร และวัสดุที่นำมาผลิตก็ไม่ได้ล้ำหน้าเหมือนในปัจจุบัน แต่ละคันมันจึงมีน้ำหนักร่วม 20 กิโลกรัม มาถึงยุคปี 70 เริ่มใช้จักรยานที่มีน้ำหนักเบา เช่น จักรยานของ เอ๊ดดี้ แม้ร์กซ มีน้ำหนักเพียง 9.7 กิโลกรัม เท่านั้น และในปี 2017 นี้ เพื่อไม่ให้เรื่องน้ำหนักของจักรยานจะไปมีส่วนทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกัน เขาจึงกำหนดให้จักรยานที่เข้าร่วมการแข่งขันต้องมีน้ำหนักอย่างน้อย 6.8 กิโลกรัม สำหรับจักรยานแข่งขันในรายการนี้ จากการสำรวจปรากฏว่า แบบที่ราคาถูกที่สุดก็ปาเข้าไป 9 พัน เออโรแล้ว ส่วนที่แพงที่สุดคือ 14,000 เออโร หรือประมาณ 5 แสนกว่าบาทครับ

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น