วอร์เรน บาร์กูล นักปั่นหนุ่มน้อยชาวฝรั่งเศส สร้างผลงานให้แฟนจักรยานเจ้าถิ่นได้ส่งเสียงเฮลั่นประเทศ เมื่อคว้าชัยชนะการแข่งขัน ตูร์ เดอ ฟรองซ์ สเตจที่ 13 ซึ่งตรงกับวันชาติของฝรั่งเศสแบบพอดิบพอดี ขณะที่ ฟาบิโอ อารู น่องเหล็กจาก อิตาลี เก็บเสื้อเหลืองไว้กับตัวได้แบบไม่ปล่อยให้ใคร
ศึกจักรยานทางไกล ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ปี 2017 ที่ ฝรั่งเศส วันที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เดินทางมาถึงการแข่งขันสเตจที่ 13 ยังคงอยู่บนเขาเช่นเคย เส้นทางจาก แซงต์-กิรงส์ ถึง ฟัวซ์ ระยะทางรวม 101 กิโลเมตร โดยบรรยากาศวันนี้คึกคักเป็นพิเศษเนื่องจากตรงกับวัน บาสตีล เดย์ (Bastille Day) หรือวันชาติพอดี
ความสนุกเกิดขึ้นช่วงกิโลเมตรสุดท้ายเมื่อ 4 นักปั่นกลุ่มหน้า สปรินท์เต็มที่เพื่อเข้าเส้นชัย กระทั่งเป็น วอร์เรน บาร์กูล นักปั่นเจ้าถิ่นของ ทีม ซันเว็บ ฉวยแซงจังหวะโค้งสุดท้ายและปั่นเข้าป้ายด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 36 นาที 29 วินาที ท่ามกลางเสียงเฮของคนดูเจ้าถิ่น และเป็นชาวฝรั่งเศสคนที่ 4 ที่ได้ชัยชนะในบ้านปีนี้
“เป็นฉากจบที่สวยงามจริงๆ สำหรับวันนี้ของผม” หนุ่มน้อยวัย 25 ปี กล่าวต่อ “อัลเบร์โต คอนทาดอร์ ไล่โจมจีขึ้นมา ผมฉีกออกด้านนอกของตัวเขาและเป็นจังหวะเดียวกับที่คิดได้ว่าผมสามารถเร็วกว่านี้ได้อีก ถึง คอนทาดอร์ จะเป็นต้นแบบในชีวิตของผม แต่ก็ไม่อยากเชื่อว่าจะทำแบบนี้ได้ในช่วง 2-3 ปีมานี้”
ด้านเวลารวม แม้ คริส ฟรูม จากทีมสกาย จะเข้าเส้นชัยอันดับ 8 เวลาไล่เลี่ยกับ ฟาบิโอ อารู จากทีม แอสตาน่า โปร ที่เข้าตามหลัง แต่เวลารวมก็ยังแซงนักปั่นจากอิตาลีไม่ได้ ทำให้ อารู ครองเสื้อเหลืองและเก้าอี้ผู้นำเวลารวมต่อไปเมื่อสะสมได้เพิ่มเป็น 55 ชั่วโมง 30 นาที 6 วินาที เหนือกว่าแค่ 6 วินาที
สำหรับการแข่งขัน ตูร์ เดอ ฟรองซ์ สเตจที่ 14 แข่งวันที่ 15 กรกฎาคม นี้ นักปั่นทุกคนจะต้องเจอกับอุปสรรคใหม่คือเส้นทางในรูปแบบเนินเขา มีลูกคลื่นเป็นระยะ เริ่มจาก บลานัค ถึง โรเดซ ระยะทางรวม 181.5 กิโลเมตร ด้วยกัน
