xs
xsm
sm
md
lg

“สมยศ” ยกนิ้ว “ราเยวัช” หวังยกระดับ “ช้างศึก” เทียบชั้นบิ๊กทีมเอเชีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กับ มิโลวาน ราเยวัช
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมลูกหนังไทย เผย ราเยวัช กุนซือทีมชาติสอบผ่าน หลังคุมทีม 2 นัด ผลงานน่าพอใจ และเชื่อว่า จะช่วยยกระดับทีมสู่หัวแถวเอเชีย อีกทั้งยังได้ผู้เล่นหน้าใหม่หลายราย จากการไปชมเกมไทยลีกถึงขอบสนาม

ภายหลังจาก มิโลวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซอร์เบีย ผ่านการคุมทีมชาติไทยลงสนาม 2 นัด ประกอบด้วยการอุ่นเครื่องแพ้ อุซเบกิสถาน 0-2 และ ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย นัดที่ 8 เสมอ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1-1 ซึ่งเมื่อวันพุธที่ 14 มิถุนายน 2560 ณ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคม พร้อมด้วยกุนซือวัย 63 ปี ร่วมแถลงสรุปผลงานของตน

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า “ก่อนการแถลงข่าวผมก็ได้คุยกับโค้ช เพื่อสรุปรายงานการแข่งขัน ปัญหาและอุปสรรค รวมถึงข้อบกพร่องต่างๆ สิ่งที่ผมถาม คือ มาตรฐานของนักฟุตบอลทีมชาติไทยนั้นสามารถพัฒนาขึ้นได้อีกหรือไม่ ซึ่งโค้ชและทีมงานก็บอกว่ามีโอกาสดี เพราะว่าโค้ชก็ไม่คาดคิดว่านักกีฬาจะมีมาตรฐานขนาดนี้ หากเตรียมทีมถูกวิธี และนำเทคนิคมาใช้ ทีมชาติไทยจะเล่นได้อย่างมีศักยภาพที่สูงกว่าที่ผ่านมา”

“ส่วนเรื่องปัญหาที่เขาบอกก็คือเรื่องเวลา เพราะเขาอยู่ที่นี่แค่หนึ่งเดือน และมีเวลาเก็บตัวเพียงหนึ่งสัปดาห์ และนักกีฬาเมืองทอง ยูไนเต็ด ก็มีโปรแกรมการแข่งขัน ทีมชาติไทยยังไม่สมบูรณ์ เพราะมีนักเตะที่ได้รับบาดเจ็บหลายราย ทั้ง ธีรศิลป์, ชนาธิป, ทริสตอง โด และ ธีราทร ถ้าเขามีเวลามากกว่านี้ และโอกาสที่มากกว่านี้ โค้ชมั่นใจว่าจะสร้างทีมชาติไทยที่ดีกว่าทีผ่่านมาได้แน่นอน นั่นคือ สิ่งที่โค้ชบอกกับผม”

“สิ่งที่โค้ชบอกว่าสำคัญมาก ก็คือ เขาต้องดูเกมการแข่งขันด้วยตาของเขาเอง ว่า นักเตะคนไหนมีศักยภาพและความสามารถพิเศษ และต่อยอดได้ และคิดว่า นักเตะคนไหนจะมาเติมเต็มให้ทีมชาติไทยแข็งแกร่งขึ้น และเหมือนเป็นการเปิดโอกาสให้กับนักเตะหน้าใหม่ เขาไม่ได้มองว่ารุ่นนี้หรือรุ่นเก่าไม่สำคัญ แต่เราต้องคิดถึงอนาคตด้วย ถ้าเกิดมีใครได้รับบาดเจ็บ หรือ เลิกเล่น เราก็มีตัวตายตัวแทน นั่นคือสิ่งที่โค้ชคิด พอโค้ชได้ลงไปดูที่สนามด้วยตัวเอง มันก็เกิดการแข่งขัน ทุกคนอยากติดทีมชาติ รับใช้ชาติ การแข่งขันในนักเตะนำไปสู่การพัฒนา เพื่อที่จะแข่งขันไปถึงจุดหมายปลายทางทั้งการเป็นตัวจริงในทีมสโมสร และได้เป็นตัวแทนของทีมชาติ”

“แฟนบอลและสื่อน่าจะเห็นว่าเกมกับยูเออี ได้เกิดนักเตะหน้าใหม่ๆ หลายคน และเป็นบททดสอบว่าบางตำแหน่งยังมีคนที่ทำหน้าที่ได้ดีกว่าที่ผ่านมา เป็นมุมมองของโค้ชแต่ละท่านที่แตกต่างกัน หากโค้ชได้มีเวลาไปดูการแข่งขันมากขึ้น ผมเชื่อว่า เขาจะสร้างทีมชาติไทย ที่แข็งแกร่ง และมีศักยภาพ นี่คือสิ่งที่เราพูดคุยกัน ทางสมาคมเมื่อมอบหมายให้เขาทำแล้ว เราให้เกียรติ เราจะให้การสนับสนุนเต็มที่ ทั้งเรื่องกิน อยู่ หลับ นอน ส่วนเรื่องในสนามเป็นของโค้ช เราไม่มีการก้าวก่ายกัน เราเชื่อมั่นว่าถ้าผม สภากรรมการ ช่วยกันวางกรอบการพัฒนาฟุตบอลของไทย เป็นไปตามทิศทางที่เราคิดและมันส่งผลดี ผมเชื่อว่า อนาคตทีมฟุตบอลทีมชาติไทยคงไม่เป็นรองใครในเอเชีย และมั่นใจว่า ในเวลาอันใกล้ขึ้น เราอาจจะไม่ต้องรอถึงปี 2026 เราอาจจะได้ไปฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายได้”

โดย “บิ๊กอ๊อด” ยอมรับว่า รู้สึกพอใจกับผลงานของ ราเยวัช เป็นอย่างมาก “ถ้าจะให้คะแนนกับโค้ช ผมบอกว่าผมพึงพอใจ แต่ต้องขอโทษแฟนบอลด้วย เราผิดหวัง เราไม่น่าเสมอ เราน่าจะชนะในเกมนี้ แต่นี่คือบทเรียน ซึ่งบอกว่าทีมชาติไทยจะต้องพัฒนาอีก หลุดจากอดีตที่แพ้มาเสมอ มันก็ถือว่าชนะแล้ว เพราะฉะนั้นมันเป็นเครื่องบอกเหตุว่าทีมชาติไทยสามารถพัฒนาได้ จากทีมที่เคยแพ้ มาเป็นผลเสมอ ถ้าเรามุ่งมั่น ตั้งใจ ร่วมใจกัน มันไม่เกินฝันที่เราจะทำได้ จากเสมอวันนี้เราอาจจะชนะได้ในอนาคต ผลเสมอนัดนี้บอกโค้ชและนักกีฬาว่า ทีมชาติไทยยังต้องพัฒนาขึ้นไปอีกเพื่อชัยชนะ เราต้องดูกันต่อไป”

“จริงๆ แล้วโค้ชพูดตลอดเวลา นักเตะทุกคนต้องรักษามาตรฐานไว้ การเล่นกีฬาไม่ใช่เล่นไปเรื่อยๆต้องมีมาตรฐาน กีฬาไม่ใช่ว่าจะเล่นดีตลอด ทุกคนก็มีความหวัง คุณมีโอกาสเป็นทีมชาติ คุณอาจจะต้องถูกดร็อปถ้ารักษามาตรฐานไม่ได้ ต่อไปนี้ทุกคนต้องแข่งขัน แข่งขันกับตัวเอง ให้สุขภาพแข็งแรง ทุกวันนี้โอกาสเปิดกว้าง โค้ชไปดูที่สนามด้วยตัวเอง ใครทำดีโค้ชก็เห็น วันนี้ติดวันหน้าอาจจะไม่ติด วันนี้ไม่ติดวันหน้าอาจจะติดก็เป็นได้” นายกสมาคมฟุตบอลฯ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น