เอเยนซี - ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงเข้มข้นส่งท้ายปี แต่ก่อนหน้านั้น มีโปรแกรมกลางสัปดาห์ระหว่างวันที่ 13 - 14 ธันวาคมนี้ จ่าฝูง เชลซี ที่ชนะมา 9 นัดติดต่อกันจะไปเยือนบ๊วย ซันเดอร์แลนด์ ขณะที่ อาร์เซนอล เตะก่อนหนึ่งวันเพื่อโยนความกดดันโดยจะบุกถิ่น เอฟเวอร์ตัน
เชลซี เพิ่งเปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ เฉือน เวสต์ บรอมวิช อัลเบียน 1-0 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา ส่งให้นำเป็นจ่าฝูงต่อไปอย่างเหนียวแน่นด้วยการมี 37 แต้ม จาก 15 นัดทิ้ง อาร์เซนอล 3 แต้ม พร้อมทำสถิติชนะ 9 นัดติดต่อกัน โดยตอนนี้กำลังไล่ล่าตัวเลขสูงสุดของ “ปืนโต” ที่ทำไว้ 14 นัดติดต่อกันเมื่อปี 2002
ดูแล้วถือว่ามีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่จะทำได้สำเร็จ เพราะ 5 นัดจากนี้ของ “สิงโตแห่งลอนดอน” ประกอบไปด้วย ซันเดอร์แลนด์, คริสตัล พาเลซ, บอร์นมัธ, สโต๊ก ซิตี และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
เกมต่อไปที่จะเยือน ซันเดอร์แลนด์ เตะวันที่ 14 ธันวาคมนี้ อันโตนิโอ คอนเต กุนซือ เชลซี ไร้ปัญหาในการจัดทัพ นำโดย ดิเอโก กอสตา หอกทีมชาติสเปน ที่นำดาวซัลโว ณ ขณะนี้ หลังจากซัดตุงที่ 12 ในเกมชนะ เวสต์ บรอมวิช ก่อนเกมแข้งวัย 28 ปี ได้รับคำชมจากเจ้านายว่า “ผมปลื้มไม่น้อย เพราะว่าเขาแสดงให้เห็นถึงแรงกระตุ้นและความมุ่งมั่นในทุกๆ เกมที่ได้ลงสนามและทำงานหนักเพื่อทีม”
ส่วนเจ้าถิ่น ซันเดอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมาบุก ไปถูก สวอนซี ซิตี ยำใหญ่ 0-3 แต่ผลงาน 5 นัดหลังสุดในลีกกระเตื้อง คือ ชนะถึง 3 นัด แม้จะยังรั้งบ๊วยแต่มี 11 แต้ม ห่างจากโซนปลอดภัยเพียงแค่ 2 แต้ม
ถือว่า เดวิด มอยส์ นายใหญ่ ซันเดอร์แลนด์ ชะตายังไม่ขาด เพราะนำทีมออกสตาร์ทไม่สู้ดีนัก อีกทั้งสถิติ 3 นัดหลังสุดรวมทุกรายการที่เปิดรัง สเตเดียม ออฟ ไลท์ ต้อนรับ เชลซี ไม่มีคำว่าแพ้เสียด้วย
ทางด้าน อาร์เซนอล จะเตะก่อน คือ วันที่ 13 ธันวาคม โดยเกมก่อนหน้านี้ คือ เปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดียม ชนะ สโต๊ก ซิตี 3-1 ทำให้ 14 นัดติดต่อกันแล้วที่แพ้ไม่เป็นนับตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาลที่เสียท่าแก่ ลิเวอร์พูล
ก่อนเกมไปเยือน เอฟเวอร์ตัน อาร์แซน เวนเกอร์กุนซือ “ปืนโต” กล่าวถึงเส้นทางล่าแชมป์ลีกครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2004 ว่า “ณ จุดนี้ถือว่าแต่ละทีมยังไม่แตกต่างกันมากนัก เพียงแต่ อาร์เซนอล อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่พร้อมสู้เพื่อแชมป์ ปีที่แล้วเราทำได้ไม่ดีนัก แต่ผมว่าตอนนี้พัฒนาขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของความเชื่อมั่น”
อย่างไรก็ตาม เกมนี้ อาร์เซนอล จะไม่มี ชโคดราน มุสตาฟี กองหลังทีมชาติเยอรมัน ที่เจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังต้องพักราว 3 สัปดาห์ จากเกมชนะ สโต๊ก ซึ่งถือเป็นปัญหาไม่น้อย เพราะก่อนหน้านี้แข้งทั้งแนวรุกและแนวรับก็เดี้ยงไปหลายราย
ส่วน โรนัลด์ คูมัน เจ้านายใหญ่ เอฟเวอร์ตัน ผลงานยังไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร โดยนัดล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา บุกพ่าย วัตฟอร์ด 2-3 ทำให้สถานการณ์คือชนะแค่นัดเดียวเท่านั้นจาก 10 เกมหลังสุดมี 20 แต้มเกาะอยู่กลางตาราง
ทางด้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา เปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด ชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ไปแบบหืดจับ 1-0 ถือเป็นการคว้าชัยนัดแรกนับเฉพาะเล่นในบ้านรอบ 5 นัดในลีก โดยจะต้องไปเยือน คริสตัล พาเลซ เตะวันที่ 14 ธ.ค.
โปรแกรม 4 นัดส่งท้ายปี 2016 ของ แมนฯยู นั้นไม่หนักต่อจากไปเยือน พาเลซ ก็บุกถิ่น เวสต์ บรอมวิช ก่อนจะได้เล่นในบ้าน 2 นัด รับมือ ซันเดอร์แลนด์ กับ มิดเดิลสโบรช์ ดังนั้น โชเซ มูรินโญ นายใหญ่ “ผีแดง” หวังว่าจะไม่ทำแต้มหลุดมือเพื่อจี้อันดับ 4 แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่ตอนนี้ตามหลังอยู่ 6 แต้ม
กุนซือที่เรียกตัวเองว่า “สเปเชียล วัน” กล่าวว่า “เราสามารถเก็บชัยชนะทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การไปเยือน พาเลซ ก็ไม่เคยง่าย ส่วน มิดเดิลสโบรช์ กับ ซันเดอร์แลนด์ ก็ต้องสู้เพื่อหนีจากโซนตกชั้น ดังนั้นเรามีโอกาสที่จะเสียแต้มได้เช่นกัน”
ส่วนอีก 2 ทีมที่ผลงานน่าเป็นห่วง แมนฯซิตี ที่บุกไปโดนแชมป์เก่า เลสเตอร์ ซิตี ยำใหญ่ 2-4 จึงแพ้มา 2 นัดติดต่อกันจนตกมารั้งที่ 4 ตามจ่าฝูง 7 แต้มจะได้เล่นในบ้านรับมือ วัตฟอร์ด และ ลิเวอร์พูล ที่เล่นในบ้านเสมอ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด 2-2 ทำให้ 2 นัดติดแล้วที่ไม่ชนะจะไปเยือน มิดเดิลสโบรช์ โดยจะเตะวันเดียวกันคือ 14 ธันวาคม
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *