"ซิโก้" ยันเล่นเพื่อพ่อ "ออสซี่" ลั่นปิดประตูบุกช้างศึก

"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทยมั่นใจทำผลงานออกมาดีเพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้าน แองเจลอส พอสเตคูกลู กุนซือออสเตรเลีย ลั่นทำลายเกมบุกช้างศึกทุกทาง หาโอกาสคว้าชัย

ความเคลื่อนไหวของทัพ "ช้างศึก" ฟุตบอลทีมชาติไทย ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย นัดที่ 5 จะพบกับ ทีมชาติออสเตรเลีย ในวันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2559 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19:00 น.

ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ณ โรงแรม ดิ เอ็มเมอรัล ได้มีการแถลงความพร้อมของทั้งสองทีม โดย แองเจลอส พอสเตคูกลู หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติออสเตรเลีย กล่าวว่า "ก่อนอื่นทีมชาติออสเตรเลีย ต้องขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของคนไทย ซึ่งเราได้เตรียมเครื่องแต่งกายสำหรับไว้อาลัย"

"ขณะที่ความพร้อมของทีมนั้น ได้มาเก็บตัวที่ไทยเป็นเวลา 1 สัปดาห์แล้ว ซึ่งปกติทีมไม่เคยเก็บตัวนานขนาดนี้ แต่เพราะมีการเปลี่ยนแปลงจากแผนเดิมที่ตั้งเป้าว่าจะอุ่นเครื่องหนึ่งนัด แต่เกิดข้อผิดพลาดทำให้ไม่ได้อุ่นเครื่อง จึงมีเวลาเก็บตัวนานขึ้น เรามีความพร้อมอย่างมากในการแข่งขันเพื่อเป้าหมายในการไปฟุตบอลโลก 2018"

นอกจากนี้ กุนซือจิ้งโจ้ ยังเผยถึงผลงานของตัวเองที่ผ่านมาว่า "ตั้งแต่ที่เข้ามาคุมทีม 3 ปี ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นของทีม สามารถข่มขวัญคู่ต่อสู้ได้ ข้อดีคือผู้เล่นหลายๆ คนในทีมอายุไม่มา สามารถอยู่เป็นกำลังช่วยทีมได้อีกนาน"

"ทั้งนี้ได้ติดตามผลงานของทีมชาติไทยมาอย่างใกล้ชิด ล่าสุดที่ไทยเคยเจอออสเตรเลียก็สามารถกดดันได้ดี ส่วนของทีมเราได้มีการเรียกผู้เล่นเข้ามาใหม่ แต่จะเน้นการเล่นเป็นระบบ กดดันให้คู่ต่อสู้มีโอกาสครองบอลน้อยที่สุด และชิงจังหวะทำประตูให้ได้" หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติออสเตรเลีย กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย กล่าวถึงความพร้อมของทีมว่า "ตอนนี้เราเก็บตัวกันมา 19 วัน มีความฟิตและความมั่นใจดีมาก ในอนาคตอยากผลักดันให้นักเตะไทยไปค้าแข้งต่างประเทศ เหมือนกับญี่ปุ่นที่มีนักเตะเล่นต่างแดน 80-90 คน ทำให้มีตัวเลือกในการเรียกติดทีมชาติค่อนข้างมาก แต่ของเราไม่มีเลย จึงคาดว่าควรมีการวางระบบกันใหม่"

ในส่วนของสภาพจิตใจนักเตะหลังจากเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนั้น อดีตศูนย์หน้าจอมตีลังกา กล่าวว่า "สภาพจิตใจของนักเตะกับการสูญเสียคงไม่กระทบมากนัก แต่อาจจะท้อแท้ที่ยังไม่มีแต้มมากกว่า ก็หวังว่านัดนี้เราจะทำได้ ทั้งนี้ทุกคนต้องการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี และต้องการนำรอยยิ้มกลับมาให้คนไทย แม้ว่าออสเตรเลียจะเป็นทีมที่แข็งแกร่ง แต่เชื่อว่าไม่เทียบเท่า บาเซโลนา หรือ ลิเวอร์พูล ที่เราเคยอุ่นเครื่องด้วย จึงเชื่อว่าเราจะสามารถคว้าแต้มแรกได้ในนัดนี้ และนัดต่อๆไป"

นอกจากนี้ "เสี่ยเหน่ง" ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ อุปนายกฝ่ายจัดการแข่งขัน ได้เปิดเผยว่าก่อนเกมการแข่งขันจะมีการจุดเทียนถวายความอาลัยหน้าสนาม เวลา 18.00 น. และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ส่วนแฟนบอลสามารถใส่เสื้อเข้ามาชมเหมในสนามได้ตามความเหมาะสม

"ในส่วนชุดการแข่งขันทีมชาติไทยจะสวมชุดสีน้ำเงิน ส่วนทีมชาติออสเตรเลียจะสวมชุดสีเหลือง กรรมการที่จะทำการตัดสินมากจากประเทศกานาร์ยกชุด นำโดย ฟาฮัด จาเบอร์ อัล มารี ส่วนผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 คือ ยูมา โมฮัมเหม็ด อัล เบอซาอิด ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 รัมซาน ซาอิก อัล นาเอมี และผู้ตัดสินที่ 4 คามิส โมฮัมเหม็ด อัล คูวารี"

ทั้งนี้ ฟาฮัด จาเบอร์ อัล มารี เคยเป่าให้ 2 จุดโทษ กับ ออสเตรเลีย มาแล้วในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก รอบสอง ที่ “ออสซี” ถล่ม ทาจิกิสถาน ไป 7-0 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา