สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ไม่อนุญาตให้ทาง “เดอะ พาวเวอร์” ซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ เอฟซี เปลี่ยนชื่อทีมลงปข่งขันในฤดูกาลหน้าตามกฎของเอเอฟซี
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เรียกตัวแทนของกลุ่มทุนสมุทรสาคร และ ตัวแทน ซุปเปอร์พาวเวอร์ สมุทรปราการ มาชี้แจงเกี่ยวกับระเบียบข้อบังคับของสหพันธ์ฟุตบอลเอเชียเรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสโมสร
การประชุมครั้งนี้ประกอบด้วย เบนจามิน ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายคลับ ไลเซนซิง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ออกมากล่าวโดยยกกฎระเบียบของเอเอฟซีข้อ 7.2 ระบุว่า สโมสรสมาชิกหลังจากได้รับใบอนุญาติแล้วจะต้องคงสถานะเป็นเวลาสองปี ซึ่งหมายความว่า ห้ามมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในโครงสร้างของสโมสร (รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงสำนักงานใหญ่, ชื่อสโมสร, สีประจำสโมสร หรือการโอนหุ้นที่ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเปลี่ยนไป) เพื่อคงไว้เพื่อคุณภาพของการแข่งขัน
“ในระเบียบหัวข้อ 7.2 ของเอเอฟซี ระบุว่า สโมสรที่ต้องการเปลี่ยนชื่อ, สี, โลโก้, ผู้ถือหุ้น เราไม่อนุญาตให้สมาชิกภาพของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ทำในเรื่องนี้ ซึ่งทีมที่ได้ใบอนุญาตคลับ ไลเซนซิงไปแล้ว เราจะอนุญาตถึงเรื่องนี้ก็ต่อเมื่อถือใบอนุญาตนานกว่า 2 ปีขึ้นไป” เบนจามิน ตัน กล่าวเริ่ม
“สาเหตุเป็นเพราะทุกสโมสรต่างอยู่ภายใต้การควบคุมของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และทุกทีมต้องใช้ชื่อตามเอกสารที่ส่งในคลับ ไลเซนซิง ซึ่งในเคสนี้ ทางสมาคมฯได้ออกคลับไลเซนซิงให้กับซุปเปอร์พาวเวอร์ ตามหลักฐานที่ส่งมาก่อนหน้านี้ และระยะเวลาการพิจารณาออก คลับไลเซนซิงได้หมดเขตไปแล้ว”
“แต่ถ้าพวกเขาต้องการเปลี่ยนแปลงก็ต้องให้ทางเอเอฟซี ซึ่งเป็นผู้ออกใบอนุญาต โดยสโมสรก็ต้องมีเหตุผลเพียงพอว่าทำไมถึงต้องมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯก็จะส่งเหตุผลเหล่านี้ไปให้เอเอฟซีเพื่อขออนุญาต”
“นั่นแปลว่า ชื่อสโมสร, โลโก้ สีประจำทีม ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ สนามสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าคุณต้องการใช้สนามที่ดีกว่าเดิม และทำให้มีแฟนบอลเยอะขึ้น หรือ มีการตลาดที่ดีขึ้น เราก็พร้อมสนับสนุน แต่โครงสร้างหลักไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ มิฉะนั้น จะเกิดปัญหาในเรื่องของ คลับ ไลเซนซิง ซึ่งจะเริ่มใช้ตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป หลักฐานทั้งหมดทางสมาคมฯได้ส่งให้เอเอฟซีไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา”
“ฤดูกาลหน้าจะยังต้องมีชื่อของซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ ลงเล่นต่อไป สาเหตุหลักที่ทางเอเอฟซี ออกกฎนี้ก็เพื่อป้องกัน การใช้ทางลัดของสโมสรที่ต้องการก้าวขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุด อย่างเช่นในเคสนี้ที่มันเหมือนกับสมุทรสาครได้กระโดดจากดิวิชั่น 2 ไปเล่นในลีกสูงสุดเป็นต้น มันไม่ยุติธรรม อีกสาเหตุก็คือ หากมีบางทีมไม่ได้รับ คลับ ไลเซนซิง ก็พยายามซื้อคลับ ไลเซนซิง จากสโมสรอื่น แต่กลับเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่ไม่ได้ระบุไว้ตามคลับ ไลเซนซิง เป็นต้น” ผู้อำนวยการฝ่ายคลับ ไลเซนซิง กล่าวทิ้งท้าย
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *