ดร.พะนารถ ตามประทีป รองประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ ออกโรงตรวจสอบการเลือกตั้งนายกลอนเทนนิสฯ หลังมีการอ้างคำสั่งศาลให้ กิตตน์สมบัติ เอื้อมมงคล ลาออก ซึ่งไม่มีระบุในเอกสาร
หลังจากสมาคมกีฬาเทนนิส ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ได้ทำการเลือกตั้งใหม่เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2559 ปรากฏว่า นายกิตตน์สมบัติ เอื้อมมงคล ถูกเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งเพียงคนเดียว และได้รับคะแนนเสียงโหวตจากสโมสรสมาชิก 51 จากทั้งหมด 58 เสียง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตประธานที่ปรึกษาลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ได้เดินทางมาที่การกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อยื่นหนังสือให้ผู้ว่าการ กกท. ตรวจสอบการเลือกตั้งดังกล่าว “ในที่ประชุม นายไทยทนุ วรรณสุข เลขาธิการสมาคมฯ ได้อ้างว่าพูดคุยกับผู้ว่าการการการกีฬาฯ ว่า จะส่งผู้แทนมาสังเกตการณ์เลือกตั้งหรือไม่ก็ได้ ซึ่งสมาคมฯ มีเรื่องฟ้องร้องค้างอยู่ในศาล จึงเชื่อว่าผู้ว่าการจะไม่ยอมเมินเฉยปล่อยให้เลือกตั้งกันเอง เพราะตาม พ.ร.บ. กีฬา มาตรา 83 ระบุว่า เมื่อสมาคมฯมีเหตุไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก่อนจัดประชุมทุกครั้งต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน และนายทะเบียนมีอำนาจเข้าไปฟังการประชุมได้”
"ทั้งนี้ วาระการประชุมที่ 3 และ 4 เป็นเรื่องการถอดถอนนายก แต่กลับมีหนังสือลาออกมาแสดง และนายไททนุ ข้ามวาระดังกล่าวไป และดึงดันจะทำการเลือกตั้งต่อทันที โดยไม่รอนายทะเบียน รวมทั้งยังอ้างคำสั่งผู้ว่าการ กกท. ว่า สามารถดำเนินการเลือกตั้งได้ ทั้งนี้ เมื่อยื่นเรื่องเสร็จสิ้นแล้วตนจะส่งเรื่องนี้ให้ศาลแพ่ง จังหวัดนนทบุรี เพื่อดำเนินความผิดทางอาญาต่อไป”
นอกจากนี้ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ยังได้เชิญ ดร.พะนารถ ตามประทีป รองประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ (ภตช.) เข้ามาตรวจสอบการดำเนินงานของสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ เนื่องจากไม่พบคำสั่งศาลสั่งให้นายกิตตน์สมบัติลาออก และดึง นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินของสมาคมฯ เนื่องจากใช้เงินอุดหนุนจากรัฐบาล
ด้าน “บิ๊กเสือ” สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว โดยจะเร่งตรวจสอบโดยเร็ว “ตอนนี้ยังไม่ได้ดูรายละเอียด แต่ยืนยันว่า การส่งเจ้าหน้าที่ไปดูการประชุมนั้นเป็นไปตามความเหมาะสม เนื่องจากสมาคมสามารถดำเนินการประชุมและเรียกประชุมเองได้ นายทะเบียนเป็นด่านสุดท้ายในการรับรองผล อย่างไรก็ตาม จะดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ทันภายใน 30 วัน”