“ผีแดง” อย่าชะล่าใจ!! เหตุผลชี้จะไร้แชมป์ลีก นานเท่า “หงส์แดง”

เอเยนซี - ย้อนไปปี 1990 ที่ เคนนี ดัลกลิช พา ลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 18 เชื่อได้เลยไม่มีใครคิดหรอกว่าจากตอนนั้นจนถึงตอนนี้ “หงส์แดง” จะห่างแชมป์ลีกนานถึง 26 ปี

ดังนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างชะล่าใจอย่างเด็ดขาดภายใต้สถานการณ์เวลานี้ที่เป็นข่าวขึ้นหน้า 1 ไม่เว้นแต่ละวัน จะไม่ให้เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร เพราะล่าสุดเล่นในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทำได้แค่เสมอ เบิร์นลีย์ 0-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา จนตามจ่าฝูง 8 แต้ม เมื่อพ้นโปรแกรม 10 นัด

แม้ว่ากุนซือจะเป็น โชเซ มูรินโญ ก็ตาม แต่ตอนนี้ แมนฯยู ไร้ชัยในลีก 4 นัดติด ดังนั้น “เดอะ ซัน” แท็บลอยด์หัวดังของอังกฤษ จึงสรรหาเหตุผลที่ว่าทีมจะไร้แชมป์ลีกเช่นลิเวอร์พูล มาฝากกัน

1. ที่ผ่านมาความสำเร็จผูกขาดคนเดียว

2 - 3 ปีที่ผ่านมา แมนฯยู กระเสือกกระสนอย่างหนัก หลังจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่คุมทัพมาอย่างยาวนาน 26 ปี ตัดสินใจวางมือ เบื้องต้นเราคิดว่านายใหญ่ชาวสกอตวางรากฐานเอาไว้อย่างดีแล้ว รวมถึงได้หาทายาทอย่าง เดวิด มอยส์ เรื่อยมาเป็น หลุยส์ ฟาน กัล จนถึง โชเซ มูรินโญ แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่

แม้ว่า ฟาน กัล กับ มูรินโญ ถือเป็นกุนซือระดับโลกที่ฝากผลงาน และฝีไม้ลายมือเอาไว้มากมายกับสโมสรชั้นนำในลีกดังของยุโรป แต่ช่วงเปลี่ยนถ่ายเช่นนี้ จำต้องอาศัยระยะเวลานานพอสมควร อีกทั้งต้องให้เวลาทุกคนที่เข้ามา เพราะแรกเริ่มเดิมที เฟอร์กี ก็ดิ้นรนไม่น้อยเหมือนกัน

2. พรีเมียร์ ลีก แข็งแกร่งขึ้น

ลีกอังกฤษถือว่าขับเคี่ยวกันอย่างหนักแบบนี้มาหลายปีแล้ว เพื่อแย่งพื้นที่ท็อปโฟร์หมายถึงตั๋ว ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ซึ่งแน่นอนว่า ดุเดือดกว่าหลายลีกของยุโรปมากนัก เมื่อก่อน แมนฯยู ในยุค เฟอร์กี สามารถที่จะไล่ต้อน ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ได้แบบสบายไม่ว่าจะตกเป็นรองกี่ลูก แต่ตอนนี้ภายใต้การคุมทัพของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ไม่ใช่ เพราะ ณ เวลานี้ “ไก่เดือยทอง” เป็นทีมเดียวที่ไม่แพ้ใครในลีกเมื่อพ้นโปรแกรม 10 นัด

ส่วน อาร์เซนอล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ นั้น ก็เป็นขาประจำไปเล่น แชมเปียนส์ ลีก อยู่แล้ว ปีนี้ยังมี ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เกน คล็อปป์ ที่เน้นการสร้างทีมแนวทางเดียวกับที่ประสบความสำเร็จกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อีกทั้ง แมนฯซิตี กับ เชลซี ที่เสริมทัพกันแบบหนักหน่วง เพื่อทวงความสำเร็จกลับมา

3. โปรเจกต์ “กาแลคติกอส” ไม่พอ

หลังจาก 3 ปี ภายใต้การคุมทัพของ มอยส์ กับ ฟาน กัล ที่ไม่ประสบความสำเร็จ บอร์ดบริหาร แมนฯยู ไฟเขียวให้คว้าซุปตาร์อย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวยิงที่ตอนนี้วัย 35 ปี กับ พอล ป็อกบา มิดฟิลด์ที่ค่าตัวแพงเป็นสถิติโลกใหม่ แสดงถึงเจตนาชัดเจนที่ต้องการทวงความยิ่งใหญ่บนเกาะอังกฤษคืนมา

เช่นเดียวกับที่ รีล มาดริด เคยทำมาแล้วกว้านซื้อซุปตาร์ทีมต่าง ๆ ไม่เว้นแม้แต่จาก บาร์เซโลนา ทว่าแค่ 2 รายของ แมนฯยู นั้นไม่พอ เพราะที่ผ่านมา เฟอร์กี ไม่ได้เน้นสร้างทีมโดยอาศัยแข้งดัง ซึ่งหาก “ผีแดง” ต้องการทวงบัลลังก์กลับคืนมาคงจะต้องทุ่มมากกว่านี้ ซึ่งก็มีแนวโน้ม เพราะรายได้ของทีมนั้นไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

4. มิลาน ยังไปไม่รอด

เอซี มิลาน ทำอย่างไรกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้? เพราะทีมแทบจะถูกลืมไปแล้ว หลังจากไม่ได้ไปเล่น ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก หลายต่อหลายปี ดังนั้น แมนฯยู ก็กำลังจะเป็นเช่นนั้น

ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถเกิดขึ้นกับ แมนฯยู ที่มีฐานแฟนบอลมากที่สุดในโลก เพราะ มิลาน ก็มีดีกรีไม่ธรรมดาเป็นสโมสรที่เป็นแชมป์ แชมเปียนส์ ลีก ถึง 7 สมัย ซึ่งตอนนี้ยังเห็นแฟนบอลใส่เสื้อ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มากกว่า “ปีศาจแดงดำ” เสียอีก ทั้งที่ทีมฝรั่งเศสไม่เคยเป็นแชมป์ยุโรป

ดังนั้น แมนฯยู อย่าชะล่าใจเกินไป อีกทั้งตอนนี้จากการสำรวจเสื้อของ เชลซี ขายได้ทั่วโลกมากกว่าทุกทีมในอังกฤษ ซึ่งถ้าไม่รีบได้แชมป์ หรือกลับไปเล่นถ้วยยุโรป แฟนบอลก็จะลืมไปเองบรรดานักเตะแนวหน้าก็จะไม่อยากย้ายมาเล่นให้เช่นกัน
มูรินโญ อย่าให้ “ผี” ร้างแชมป์นาน