คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ข้อเขียนวันนี้เขียนด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง ซึ่งก็คงเหมือนกับผู้อ่านทุกท่านและคิดว่าในโอกาสนี้คงไม่มีอะไรดีกว่าการขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีต่อวงการมวยเสมอมา
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสนพระทัยในกีฬามวยมาตลอด แฟนๆ หลายท่านคงเคยได้ยินการกล่าวขานถึงไฟต์ประวัติศาสตร์เมื่อสุดยอดนักชกไทย “โผน กิ่งเพชร” ขึ้นทำศึกใหญ่ที่สุดในชีวิต ชิงตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นฟลายเวทพบกับแชมป์โลกจากอาร์เจนตินา “ยักษ์แคระ” ปาสกาล เปเรซ ที่เวทีมวยลุมพินี เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2503
ไฟต์นั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรถึงเวที สร้างกำลังใจล้นหลามให้กับ โผน กิ่งเพชร จนคว้าตำแหน่งมาได้ในที่สุด จากนั้น ในวันที่ 11 มกราคม 2506 ที่ยิมเนเซียม 1 สนามกีฬาแห่งชาติ หรืออาคารกีฬานิมิบุตรในปัจจุบัน โผน มีคิวขึ้นทวงเข็มขัดแชมป์โลกจากนักชกญี่ปุ่น ไฟติง ฮาราดา ที่ต่อย โผน น็อกแย่งตำแหน่งไปครองในการชกที่ประเทศญี่ปุ่นก่อนหน้านี้
ไฟต์นี้ โผน ที่อ่อนซ้อมโชว์ฟอร์มสวยดักต่อย ฮาราดา ได้ไม่กี่ยก ก็โดนแชมป์โลกชาวญี่ปุ่นเดินบดไม่ให้หายใจจนเริ่มหมดแรง ถึงตอนนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินมาถึงพอดี นายทองทศ อินทรทัต ผู้จัดการของ โผน หาจังหวะกระซิบบอกตอนพักยก ทำให้ โผน มีกำลังใจฮึดสู้ออกไปโชว์ฟอร์มเอาชนะคะแนนคว้าตำแหน่งกลับมาครองได้สำเร็จ
ชาติชาย เชี่ยวน้อย แชมป์โลกคนที่ 2 ของไทย ก็เคยมีโอกาสได้ขึ้นชกต่อหน้าพระพักตร์ ในการทำศึกกับ แอฟแฟรน ตอร์เรส นักชกชาวเม็กซิกัน ที่เป็นแชมป์โลกอยู่ในขณะนั้น ที่สนามกีฬากิติขจร หรืออินดอร์สเตเดียมหัวหมากในปัจจุบัน ในวันที่ 20 มีนาคม 2513 ซึ่งเป็นการชิงแชมป์โลกสมัยที่ 2 ของ ชาติชาย ซึ่งนักชกไทยก็โชว์ฟอร์มเอาชนะคะแนนไปได้งดงาม
มายุคหลังๆ ที่แฟนมวยจะจำได้ ก็คงเป็นตอนที่ “ฮีโร่โอลิมปิก” สมรักษ์ คำสิงห์ คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทย เมื่อชกจบ “ฮีโร่บาส” ก็มีโอกาสได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายเหรียญทอง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในปีกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้
นอกจากนั้นไฟต์การชกของนักมวยแชมป์โลกอีกหลายๆ คนของเรา แม้ว่าพระองค์จะไม่ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตร แต่ก็จะมีข่าวตามมาว่าพระองค์ทรงติดตามทอดพระเนตรการชกทางโทรทัศน์อยู่ตลอด และเมื่อการชกจบลง ก็จะมีพระราชกระแสรับสั่งแสดงความยินดีกับนักชกไทย สร้างความปลื้มปิติและเป็นกำลังใจแก่นักชกไทยที่ขึ้นสังเวียนเสมอมา
สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นความทรงจำของพวกเราชาว “ไฟต์คลับ” ที่จะน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ไปตลอด พระองค์จะทรงเป็นพระมหากษัตริย์ในดวงใจของคนไทยทุกคนตลอดไป
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ข้อเขียนวันนี้เขียนด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง ซึ่งก็คงเหมือนกับผู้อ่านทุกท่านและคิดว่าในโอกาสนี้คงไม่มีอะไรดีกว่าการขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีต่อวงการมวยเสมอมา
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสนพระทัยในกีฬามวยมาตลอด แฟนๆ หลายท่านคงเคยได้ยินการกล่าวขานถึงไฟต์ประวัติศาสตร์เมื่อสุดยอดนักชกไทย “โผน กิ่งเพชร” ขึ้นทำศึกใหญ่ที่สุดในชีวิต ชิงตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นฟลายเวทพบกับแชมป์โลกจากอาร์เจนตินา “ยักษ์แคระ” ปาสกาล เปเรซ ที่เวทีมวยลุมพินี เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2503
ไฟต์นั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรถึงเวที สร้างกำลังใจล้นหลามให้กับ โผน กิ่งเพชร จนคว้าตำแหน่งมาได้ในที่สุด จากนั้น ในวันที่ 11 มกราคม 2506 ที่ยิมเนเซียม 1 สนามกีฬาแห่งชาติ หรืออาคารกีฬานิมิบุตรในปัจจุบัน โผน มีคิวขึ้นทวงเข็มขัดแชมป์โลกจากนักชกญี่ปุ่น ไฟติง ฮาราดา ที่ต่อย โผน น็อกแย่งตำแหน่งไปครองในการชกที่ประเทศญี่ปุ่นก่อนหน้านี้
ไฟต์นี้ โผน ที่อ่อนซ้อมโชว์ฟอร์มสวยดักต่อย ฮาราดา ได้ไม่กี่ยก ก็โดนแชมป์โลกชาวญี่ปุ่นเดินบดไม่ให้หายใจจนเริ่มหมดแรง ถึงตอนนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินมาถึงพอดี นายทองทศ อินทรทัต ผู้จัดการของ โผน หาจังหวะกระซิบบอกตอนพักยก ทำให้ โผน มีกำลังใจฮึดสู้ออกไปโชว์ฟอร์มเอาชนะคะแนนคว้าตำแหน่งกลับมาครองได้สำเร็จ
ชาติชาย เชี่ยวน้อย แชมป์โลกคนที่ 2 ของไทย ก็เคยมีโอกาสได้ขึ้นชกต่อหน้าพระพักตร์ ในการทำศึกกับ แอฟแฟรน ตอร์เรส นักชกชาวเม็กซิกัน ที่เป็นแชมป์โลกอยู่ในขณะนั้น ที่สนามกีฬากิติขจร หรืออินดอร์สเตเดียมหัวหมากในปัจจุบัน ในวันที่ 20 มีนาคม 2513 ซึ่งเป็นการชิงแชมป์โลกสมัยที่ 2 ของ ชาติชาย ซึ่งนักชกไทยก็โชว์ฟอร์มเอาชนะคะแนนไปได้งดงาม
มายุคหลังๆ ที่แฟนมวยจะจำได้ ก็คงเป็นตอนที่ “ฮีโร่โอลิมปิก” สมรักษ์ คำสิงห์ คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทย เมื่อชกจบ “ฮีโร่บาส” ก็มีโอกาสได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายเหรียญทอง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในปีกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้
นอกจากนั้นไฟต์การชกของนักมวยแชมป์โลกอีกหลายๆ คนของเรา แม้ว่าพระองค์จะไม่ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตร แต่ก็จะมีข่าวตามมาว่าพระองค์ทรงติดตามทอดพระเนตรการชกทางโทรทัศน์อยู่ตลอด และเมื่อการชกจบลง ก็จะมีพระราชกระแสรับสั่งแสดงความยินดีกับนักชกไทย สร้างความปลื้มปิติและเป็นกำลังใจแก่นักชกไทยที่ขึ้นสังเวียนเสมอมา
สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นความทรงจำของพวกเราชาว “ไฟต์คลับ” ที่จะน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ไปตลอด พระองค์จะทรงเป็นพระมหากษัตริย์ในดวงใจของคนไทยทุกคนตลอดไป
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *