ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - วิทยา เลาหกุล หรือที่คนในวงการเรียกว่า “โค้ชเฮง” หรือ “เฮงซัง” ปัจจุบันรั้งตำแหน่งประธานเทคนิคให้กับ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย
บทบาทดังกล่าวยังถือว่าใหม่สำหรับฟุตบอลเมืองไทย โดยบางสโมสรศึก โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก นั้น ยังไม่มีคนรับหน้าที่นี้ด้วยซ้ำ ส่วนสิ่งที่ “โค้ชเฮง” ต้องทำ ก็คือ คอยให้ข้อมูลต่าง ๆ กับเฮดโค้ชทีมชาติไทยทุกชุด เพื่อมาปรับปรุงการซ้อม ซึ่งดูแล้วก็เหมาะสม เพราะเคยมีประสบการณ์ค้าแข้งบนเวที บุนเดสลีกา ประเทศเยอรมนี มาแล้ว
ดังนั้น ถือเป็นเรื่องปกติที่ “โค้ชเฮง” จะต้องวิจารณ์การเล่นของทีมชาติไทยชุดใหญ่ภายใต้การนำของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ไม่ว่าที่ผ่านมานั้นจะมีผลงานยอดเยี่ยมแค่ไหน ทวงคืนแชมป์กลับมาได้หลายรายการ จนปลุกกระแสลูกหนังไทยกลับมาติดลมบน ณ ขณะนี้
อย่างไรก็ตาม มีแฟนบอลไทยบางส่วนรับไม่ได้กับคำวิจารณ์ของ “โค้ชเฮง” ที่ถูกเผยแพร่ตามสื่อช่องทางต่าง ๆ ที่ล่าสุดอัดแหลกถึงผลงานแพ้ 2 นัดรวดของทัพ “ช้างศึก” ศึก เวิลด์ คัพ 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 3 หรือ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี บุกไปโดน ซาอุดีอาระเบีย อัด 0-1 และแพ้คา ราชมังคลากีฬาสถาน แก่ ญี่ปุ่น 0-2
แต่กลับกลายเป็นว่า “โค้ชเฮง” ถูกด่ายับเยินผ่านทางโลกออนไลน์ โดยเกรียนคีย์บอร์ดเข้าไปถล่มผ่านทางข่าวต่าง ๆ ที่สื่อหลายสำนักขอสัมภาษณ์หลังเกมแพ้ ญี่ปุ่น
ทั้งที่ต้องขอบคุณมากกว่า เพราะ “โค้ชเฮง” นั้นตอบคำถามแบบตรงไปตรงมา และยินดีที่จะตอบ ไม่เหมือนกูรูหลายคนที่เอาแต่พูดถนอมน้ำใจผ่านทางทีวีที่ถูกเชิญมาเป็นคอมเมนเตเตอร์ครบ 90 นาที รับเงินเสร็จกลับบ้าน สุดท้ายกลายเป็นว่าประธานเทคนิคถูกตำหนิว่า “ไม่ให้กำลังใจ” จนบานปลายไปถึงสื่อว่าเป็นพวก “เสี้ยม”
เรื่องนี้ “โค้ชเฮง” เผยว่า “ผมไม่มีปัญหาเลยที่ใครจะว่า เหมือนสมัยก่อนจะโจมตีใคร ก็เอาไปเขียนในห้องน้ำ เวลาเข้าห้องน้ำเราก็อ่าน ๆ คือ มันเป็นสิ่งที่ควบคู่ไปกับการพัฒนาอยู่แล้วกับการวิจารณ์ ซึ่งเราก็รับฟัง แต่จริง ๆ แล้วอย่างที่บอกประธานเทคนิคมันเป็นของใหม่สำหรับเมืองไทย เราต้องไปสร้างตั้งแต่เด็ก ๆ รวมทั้งโค้ช ผู้ฝึกสอน ให้มีมาตรฐานมากขึ้นกว่านี้ ตรงนี้มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วพัฒนาเยาวชน ผู้ฝึกสอน ซึ่งถ้าพัฒนาสองอันนี้ควบคู่กันไปได้พร้อม ๆ กัน แน่นอนต้องไม่มีใครด่า”
แถมแฟนบอลบางกลุ่มก็ยังหาว่าเข้าไปวุ่นวายการทำงานของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ ที่รุนแรงก็คือ กล่าวหาว่า “โค้ชเฮง” อยากจะเข้ามาคุมแทนและเคยประสบความสำเร็จไรบ้างถึงมีสิทธิ์มาตำหนิ ก่อนหน้านี้ ฟุตบอลไทยยังไม่บูมไปอยู่ไหนแล้วตอนนี้โผล่มายังไง
บางคนคิดว่าทั้งสองคนอาจซัดเกาเหลากันชามจัมโบ้ ทั้งที่จริง ๆ แล้วเราต้องรู้หลักในการทำงาน รู้หน้าที่ของทั้งสองฝ่าย เพราะสองตำแหน่งนี้ต้องทำงานร่วมกันอยู่แล้ว
“โค้ชเฮง” ยังตอกกลับเกรียนคีย์บอร์ดด้วยประโยคที่ว่า “เราต้องรู้ว่าขอบข่ายหน้าที่ของแต่ละคน และความเข้าใจว่ามันทำงานอย่างไร ไม่ใช่ไม่เข้าใจอะไรเลย คอยแต่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเดียว ส่วนตัวผมก็รู้สึกเฉย ๆ ไม่ได้เข้าไปอ่านคอมเมนต์พวกนี้อยู่แล้ว”
หน้าที่ของ “โค้ชเฮง” ยังไม่ใช่แค่ที่กล่าวมา แต่ยังต้องวางรากฐานเยาวชนให้แกร่งขึ้น ซึ่งตอนนี้ฟุตบอลไทย ยู-16 กับ ยู-19 ก็ถือว่าไม่ธรรมดามีทรัพยากรพร้อมขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ รวมไปถึงโครงสร้างฟุตบอลระยะยาว 10 ปีที่ เริ่มกันตั้งแต่นักเตะ ระบบการจัดการ รวมไปถึงหัวหน้าผู้ฝึกสอนทุกลีก เพื่อพัฒนาทีมชาติไทยสามารถสู้กับทีมยักษ์ใหญ่ในเอเชียได้อนาคต ไม่ใช่พอใจกันแค่แถบอาเซียน
จากนี้ “ช้างศึก” มีโปรแกรมเตะคัดบอลโลกอีก 2 นัดที่สำคัญ ยิ่งต้องออกไปเยือนทั้งหมด คือ พบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันที่ 6 ตุลาคมนี้ ตามด้วยพบ อิรัก อีก 5 วันให้หลังก็ต้องมาลุ้นกันว่าจะได้ 4 แต้มตามเป้าหรือไม่ เพื่อให้ลมหายใจไปเล่นรอบสุดท้ายยังไม่แผ่วไปมากกว่านี้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *