ผู้จัดการรายวัน 360 - เกมฟาดแข้งช่วงนี้เป็นโปรแกรม ฟีฟา เดย์ ทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่เตะกันทั่วโลก ซึ่งหนึ่งในนั้นมีรายการที่น่าสนใจคือ AFC U-16 Women’s Championship 2017 Qualifiers มีขึ้น ณ ชลบุรี สเตเดียม ผ่านพ้นไปแล้วตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคม
แน่นอนว่า แข้งเยาวชนคือกำลังสำคัญในอนาคต ซึ่งทัพ “ชบาแก้วจูเนียร์” ชุดนี้มีหลายคนที่ฝีเท้าเตะตา หนึ่งในนั้นก็คือ ทรินนิตี้ พาราสแคนโดลา กองหน้าวัย 13 ปี ลูกครึ่งไทย - อเมริกา เคยลงเล่นสโมสรแคลิฟอร์เนีย ก่อนที่จะลัดฟ้ามาคัดทีมชาติชุดอายุไม่เกิน 16 ปี และมีชื่อติดได้ลงวาดลวดลายไปแล้ว 2 นัด โดยแมตช์แรกนั้นช่วยทีมชนะ จอร์แดน 2-1 แม้ว่าจะทำประตูไม่ได้ แต่ก็ได้รับการจับตามองขึ้นมาทันที
ก่อนที่ ทรินนิตี้ จะเดินทางกลับไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา วันจันทร์ที่ 5 กันยายนนี้ MGR Sport ได้จับเข่าคุยกับสาวน้อยรายนี้มาฝากกัน โดยเชื่อว่า เธอจะกลับมายังประเทศไทยอีกครั้งแน่นอนเมื่อมีทัวร์นาเมนต์หรือต้องเก็บตัวหรือพูดง่าย ๆ ก็คือ เมื่อชาติต้องการ เพราะเธอเทใจให้หมดแล้ว
ทรินนิตี้ ที่เกิดและเติบโตที่สหรัฐอเมริกา เริ่มพูดคุยด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสว่า "พ่อหนูเป็นคนอเมริกันเกิดที่อิลินอย ส่วนแม่เป็นคนไทย ทั้งคู่เจอกันตอนที่แม่ไปเรียน ส่วนหนูเกิดที่แคลิฟอร์เนีย ก่อนจะเริ่มเล่นฟุตบอลตอนอายุ 6 ขวบ โดยมีพ่อเป็นโค้ชคนแรก อันที่จริงพ่อชอบบาสเกตบอลมากกว่า ซึ่งตอนเด็ก ๆ หนูลองเล่นหลายกีฬา แต่ชอบฟุตบอลที่สุด เพราะเป็นกีฬาที่เล่นเป็นทีมได้เล่นกับเพื่อน แต่คุณก็สามารถที่จะโดดเด่นขึ้นมาได้ด้วย”
แต่สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ ทำไมเธอถึงเลือกเล่นให้ทีมชาติไทย “พ่อของหนูมีความฝันที่อยากจะเห็นหนูได้เล่นในระดับสูงสุด และมันก็เป็นฝันของหนูเหมือนกันที่จะได้เล่นฟุตบอลโดยที่มีธงไตรรงค์ติดอยู่ที่หน้าอก แต่มันก็เป็นเรื่องยากเหมือนกันกับการมาทดสอบกับทีมชุดนี้ เพราะหนูเพิ่งจะอายุ 13 ปีเท่านั้น แต่ก็ได้ทดสอบฝีเท้าและโค้ชก็เรียกมาติดทีม แม้ว่าพ่อของหนูจะเป็นคนอเมริกา และแม่เป็นคนไทย แต่ทั้งคู่ก็ผลักดันอยากจะให้หนูเล่นให้กับทีมชาติไทย”
แน่นอนว่า ไม่ง่ายเลย เพราะ ทรินนิตี้ ต้องแบกอายุมาเล่นชุดยู 16 ปี จึงเรียกได้ว่าต้องทำงานหนักมากกว่าคนอื่น ๆ “การเล่นกับคนที่อายุเยอะกว่า ไม่เป็นปัญหา ที่อเมริกาเราฝึกซ้อมกัน 2 อาทิตย์ครั้ง แต่กลับทีมชาติไทยเราฝึกซ้อมวันละ 2 ครั้ง ซึ่งมันทำให้หนูต้องปรับตัว ซึ่งตอนแรกก็มีอาการเหนื่อยเร็วอยู่ แต่คิดว่าตอนนี้สามารถปรับตัวได้แล้ว แต่มันไม่ได้เป็นปัญหา แต่ก็ยังต้องทำงานหนักเพื่อความแข็งแกร่งต่อไป ในอเมริกาผู้เล่นจะสื่อสารกับมาก และจะจ่ายบอลเยอะ เกมก็จะช้ากว่าที่ไทย บางคนก็เลี้ยงบอลเยอะ ในประเทศไทยมีการเล่นที่เร็วกว่าและมีการเคลื่อนที่เยอะกว่าและต้องใช้พลังมากกว่า”
แน่นอนว่า อุปสรรคสำคัญคือ เรื่องการสื่อสาร เพราะ ทรินนิตี้ ยังพูดไทยไม่คล่อง อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เนื่องจากยังมีเวลาเหลือเฟือในการศึกษาจากคุณแม่ นอกจากนี้ ได้รับการช่วยเหลือจากบรรดาเพื่อนร่วมทีม
ด้าน “โค้ชแดง” หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 16 ปี เผยถึงการดึงทรินนิตี้มาร่วมทีม ว่า “ทรินนิตี้เพิ่งอายุจะ 13 ปี เรามีโอกาสปั้นแกได้ เหมือนกับระบบที่ผมเคยสร้างมา ทั้งอายุและสรีระ นี่คือ จุดเริ่มต้นของเราที่เราจะดึงเด็กอเมริกันลูกครึ่งไทยมาร่วมทีม แถมเขายังมีทัศนคติที่เป็นสากล ซึ่งดูแตกต่างจากเด็กไทยและในอนาคตก็คาดหวังว่าจะเป็นกำลังหลักสำคัญในชุดใหญ่แน่นอน”
ทิ้งท้ายกันด้วยเรื่องเป้าหมายสูงสุดในชีวิต แน่นอนว่า ทรินนิตี้ ก็ไม่แตกต่างจากนักฟุตบอลทุกคนและมีความเป็นไปได้ เพราะแม่เนื้ออ่อนไทยก็เคยไปลุยศึก เวิลด์ คัพ มาแล้วเมื่อปี 2015 ส่วนไอดอลของเธอ คือ คริสเตียโน โรนัลโด แนวรุกซุปตาร์ทีมชาติโปรตุเกส ของ รีล มาดริด รวมถึงเป็นแฟนคลับ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี อีกด้วย
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *