คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
ด้วยผลงานของทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ในฐานะเฮดโค้ช สามารถเรียกพลังศรัทธา และความสนใจกลับสู่หัวใจแฟนลูกหนัง “ช้างศึก” อีกครั้ง หลังซบเซาสิ้นกระแสความนิยมไปพักใหญ่ เดี๋ยวนี้รายการไหน ๆ ที่นักเตะเลือดสยามลงแข่งขัน ก็มีแฟนแห่แหนไปให้กำลังใจ เพื่อผู้เล่นจะได้มีกำลังแขน กำลังขา วิ่งสู้ฟัดกับคู่ต่อกรชนิดไม่มีหมด ความนิยมไม่ได้มีแต่เฉพาะทีมชุดใหญ่ ส่งเผื่อแผ่ไปสู่ทีมชุดอื่น ๆ ด้วย โดยเฉพาะทีมระดับเยาวชนที่สมาคมลูกหนังแห่งประเทศไทย ก็มีนโยบายสนับสนุนและส่งเสริมให้มีการพัฒนาฝีเท้าอย่างเป็นระบบด้วยความเชื่อว่า หากทีมระดับเยาวชนสามารถไปแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายระดับต่าง ๆ ได้ ทีมชุดนั้นต่อไปก็จะมีฝีเท้าดีเพียงพอต่อการไปโลดแล่นทัวร์นาเมนต์ “เวิลด์คัพ” อย่างที่เฝ้าใฝ่ฝันและรอคอยกัน
ดังนั้น ทีมฟุตบอล ยู 19 จึงได้รับความสนใจมากจากแฟนลูกหนัง ซึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สมาคมฟุตบอลฯ จึงมีคำสั่งแต่งตั้งให้ “โค้ชหนุ่ย” เฉลิมวุฒิ สง่าพล ชายผู้มากประสบการณ์ในการเป็นทั้งนักฟุตบอลฝีเท้าดี และแม้จะมาเปลี่ยนบทบาทการเป็นโค้ชก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกกุนซือชั้นดี สำหรับภารกิจที่อดีตมิดฟิลด์เท้าชั่งทองได้รับนั้น คือ การลงป้องกันแชมป์อาเซียน ที่ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 11 - 24 กันยายนนี้ และรายการชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศบาห์เรน ระหว่างวันที่ 13 - 30 ตุลาคมนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนศึกใหญ่ ก็ต้องมีการเตรียมทีมเป็นธรรมสากลแห่งโลกลูกหนัง โดยประเทศเพื่อนบ้านด้านทิศตะวันตกของเรา เมียนมา จัดทัวร์นาเมนต์ 4 เส้า ให้ทีมระดับ อายุไม่เกิน 19 ปี ได้ประลองฝีเท้า อาทิ คอนซาโดโล ซัปโปโร (ใช้ชุด ยู 18 จากญี่ปุ่น), เวียดนาม, เมียนมา และ ไทย ผลปรากฏว่า จบรายการนักเตะพลังหนุ่มของ “โค้ชหนุ่ย” จบอันดับ 3 ด้วยผลงานที่เรียกว่าดูไม่จืด แถมยังมีประเด็นที่สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอลตามมามากมาย ไม่ว่าจะฟอร์มการเล่นที่ไม่สวยงาม สะเปะสะปะ ต่างคนต่างเล่น แถมยังมีปัญหาเรื่องความประพฤติของผู้เล่นระดับสตาร์ของทีมบางคนที่ดูแล้วเหมือนไม่ให้ความเคารพยำเกรงต่อผู้ฝึกสอน โดยเฉพาะในเรื่องมารยาทนี่ถึงกับได้รับคำติติงมาจากสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอฟซี ว่า เดินลากรองเท้าแตะกันให้ว่อน รวมถึงดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองในระดับสโมสรกลับไม่ได้ฉายแววเก่งให้เห็น เล่นเหมือนไม่อยากชนะกัน
เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย กลายเป็นว่า “โค้ชหนุ่ย” ตกเป็นเครื่องเซ่นสังเวยด้วยการชี้แจงจากสมาคมฟุตบอลฯว่า เจ้าตัวโดนเด้งจากตำแหน่ง พร้อมกับส่งมอบหน้าที่ต่อให้ “โค้ชจุ่น” อนุรักษ์ ศรีเกิด อีกหนึ่งกุนซือที่เข้า ๆ ออก ๆ ทีมชุดนี้อยู่เหมือนกัน ซึ่งดูเหมือนว่า “โค้ชหนุ่ย” ผู้ยังรักษาทรงผมจากยุค 80 ไว้อย่างเหนียวแน่นเป็นเอกลักษณ์ จะผิดหวังกับเรื่องนี้พอสมควร ว่ากันตามตรงแล้วน่าเห็นใจเหมือนกัน เพราะทีมชุดนี้มีเวลาเตรียมทีมเพียงไม่กี่วันเท่านั้น แถมยังเป็นรายการอุ่นเครื่องที่ไม่น่าจะมีความสำคัญ แต่กระแสในโลกโซเชียลมันแรง มีดรามากันทุกวัน เหล่าบรรดาขาใหญ่แต่หัวใจอ่อนไหวในสมาคมฯ จึงต้องทำอะไรสักอย่างในเรื่องนี้ หวยก็เลยมาลงที่โค้ชอย่างที่เห็น
ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ว่า แม้แต่ตัว “โค้ชหนุ่ย” แกถึงกับออกมาเปรยว่า สงสัยในความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้เล่นบางรายเหมือนกันว่างานนี้อาจมีเตะไล่โค้ชหรือไม่ ก็ได้แต่ภาวนาว่า “โค้ชจุ่น” ที่มารับงานต่อจะมีโอกาสทำทีมกันยาว ๆ ไม่โดนทีเด็ดนักเตะ ลูกเทพ เลื่อยขาเก้าอี้กันอีก...
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ด้วยผลงานของทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ในฐานะเฮดโค้ช สามารถเรียกพลังศรัทธา และความสนใจกลับสู่หัวใจแฟนลูกหนัง “ช้างศึก” อีกครั้ง หลังซบเซาสิ้นกระแสความนิยมไปพักใหญ่ เดี๋ยวนี้รายการไหน ๆ ที่นักเตะเลือดสยามลงแข่งขัน ก็มีแฟนแห่แหนไปให้กำลังใจ เพื่อผู้เล่นจะได้มีกำลังแขน กำลังขา วิ่งสู้ฟัดกับคู่ต่อกรชนิดไม่มีหมด ความนิยมไม่ได้มีแต่เฉพาะทีมชุดใหญ่ ส่งเผื่อแผ่ไปสู่ทีมชุดอื่น ๆ ด้วย โดยเฉพาะทีมระดับเยาวชนที่สมาคมลูกหนังแห่งประเทศไทย ก็มีนโยบายสนับสนุนและส่งเสริมให้มีการพัฒนาฝีเท้าอย่างเป็นระบบด้วยความเชื่อว่า หากทีมระดับเยาวชนสามารถไปแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายระดับต่าง ๆ ได้ ทีมชุดนั้นต่อไปก็จะมีฝีเท้าดีเพียงพอต่อการไปโลดแล่นทัวร์นาเมนต์ “เวิลด์คัพ” อย่างที่เฝ้าใฝ่ฝันและรอคอยกัน
ดังนั้น ทีมฟุตบอล ยู 19 จึงได้รับความสนใจมากจากแฟนลูกหนัง ซึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สมาคมฟุตบอลฯ จึงมีคำสั่งแต่งตั้งให้ “โค้ชหนุ่ย” เฉลิมวุฒิ สง่าพล ชายผู้มากประสบการณ์ในการเป็นทั้งนักฟุตบอลฝีเท้าดี และแม้จะมาเปลี่ยนบทบาทการเป็นโค้ชก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกกุนซือชั้นดี สำหรับภารกิจที่อดีตมิดฟิลด์เท้าชั่งทองได้รับนั้น คือ การลงป้องกันแชมป์อาเซียน ที่ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 11 - 24 กันยายนนี้ และรายการชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศบาห์เรน ระหว่างวันที่ 13 - 30 ตุลาคมนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนศึกใหญ่ ก็ต้องมีการเตรียมทีมเป็นธรรมสากลแห่งโลกลูกหนัง โดยประเทศเพื่อนบ้านด้านทิศตะวันตกของเรา เมียนมา จัดทัวร์นาเมนต์ 4 เส้า ให้ทีมระดับ อายุไม่เกิน 19 ปี ได้ประลองฝีเท้า อาทิ คอนซาโดโล ซัปโปโร (ใช้ชุด ยู 18 จากญี่ปุ่น), เวียดนาม, เมียนมา และ ไทย ผลปรากฏว่า จบรายการนักเตะพลังหนุ่มของ “โค้ชหนุ่ย” จบอันดับ 3 ด้วยผลงานที่เรียกว่าดูไม่จืด แถมยังมีประเด็นที่สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอลตามมามากมาย ไม่ว่าจะฟอร์มการเล่นที่ไม่สวยงาม สะเปะสะปะ ต่างคนต่างเล่น แถมยังมีปัญหาเรื่องความประพฤติของผู้เล่นระดับสตาร์ของทีมบางคนที่ดูแล้วเหมือนไม่ให้ความเคารพยำเกรงต่อผู้ฝึกสอน โดยเฉพาะในเรื่องมารยาทนี่ถึงกับได้รับคำติติงมาจากสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอฟซี ว่า เดินลากรองเท้าแตะกันให้ว่อน รวมถึงดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองในระดับสโมสรกลับไม่ได้ฉายแววเก่งให้เห็น เล่นเหมือนไม่อยากชนะกัน
เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย กลายเป็นว่า “โค้ชหนุ่ย” ตกเป็นเครื่องเซ่นสังเวยด้วยการชี้แจงจากสมาคมฟุตบอลฯว่า เจ้าตัวโดนเด้งจากตำแหน่ง พร้อมกับส่งมอบหน้าที่ต่อให้ “โค้ชจุ่น” อนุรักษ์ ศรีเกิด อีกหนึ่งกุนซือที่เข้า ๆ ออก ๆ ทีมชุดนี้อยู่เหมือนกัน ซึ่งดูเหมือนว่า “โค้ชหนุ่ย” ผู้ยังรักษาทรงผมจากยุค 80 ไว้อย่างเหนียวแน่นเป็นเอกลักษณ์ จะผิดหวังกับเรื่องนี้พอสมควร ว่ากันตามตรงแล้วน่าเห็นใจเหมือนกัน เพราะทีมชุดนี้มีเวลาเตรียมทีมเพียงไม่กี่วันเท่านั้น แถมยังเป็นรายการอุ่นเครื่องที่ไม่น่าจะมีความสำคัญ แต่กระแสในโลกโซเชียลมันแรง มีดรามากันทุกวัน เหล่าบรรดาขาใหญ่แต่หัวใจอ่อนไหวในสมาคมฯ จึงต้องทำอะไรสักอย่างในเรื่องนี้ หวยก็เลยมาลงที่โค้ชอย่างที่เห็น
ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ว่า แม้แต่ตัว “โค้ชหนุ่ย” แกถึงกับออกมาเปรยว่า สงสัยในความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้เล่นบางรายเหมือนกันว่างานนี้อาจมีเตะไล่โค้ชหรือไม่ ก็ได้แต่ภาวนาว่า “โค้ชจุ่น” ที่มารับงานต่อจะมีโอกาสทำทีมกันยาว ๆ ไม่โดนทีเด็ดนักเตะ ลูกเทพ เลื่อยขาเก้าอี้กันอีก...
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *