ภูเบศ ศุภพิพัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม ขอนแก่นยูไนเต็ด ออกมาปฏิเสธว่า ผู้ต้องหาที่ทำร้ายผู้ตัดสินในเกมที่พบกับ อ่างทอง เอฟซี ไม่ได้เป็นการ์ดประจำสโมสรอย่างที่เข้าใจกัน และไม่มีการสนับสนุนการใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด
จากกรณีที่ นายสรพงษ์ ไกรเนตร อายุ 32 ปี กรรมการผู้ตัดสินฟุตบอลคู่ ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบกับอ่างทอง เอฟซี เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ถูกทำร้ายจาก นายสาโรจน์ รัตนคำมูล อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวก่อนหน้านี้ คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีคำสั่งลงโทษปรับ 8 หมื่นบาท และแบนนายสาโรจน์เป็นเวลา 6 เดือน พร้อมกันนี้ ยังมีการกล่าวอ้างว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำสโมสรนั้น
ล่าสุด เมื่อวันพุธที่ 3 สิงหาคม 2559 สโมสร ขอนแก่น ยูไนเต็ด โดย นายภูเบศ ศุภพิพัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม ออกมาเผยแพร่แถลงการณ์ ยืนยันว่า ผู้ต้องหารายนี้ไม่ได้เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำสโมสรอย่างที่เข้าใจ เนื่องจากสโมสรได้จ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยจากภายนอกทั้งหมด และได้รวบรวมข้อมูลเพื่อชี้แจงคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย อีกทั้งยืนยันไม่ได้ส่งเสริมหรือสนับสนุนการใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด
“ตามที่ปรากฏเป็นข่าวจากการนำเสนอของสื่อมวลชน ว่า คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้รับการยืนยันจาก พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ รองประธานผู้ตัดสิน สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า จากการสอบสวน ปรากฏว่า นายสาโรจน์ รัตนคำมูล ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุคดีทำร้ายผู้ตัดสิน ที่ร้านอาหารร้านหนึ่งภายในจังหวัดขอนแก่น หลังจากการแข่งขันฟุตบอลยามาฮ่าลีกวัน ระหว่างสโมสร ขอนแก่นยูไนเต็ด กับ สโมสรอ่างทองเอฟซี ในวันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำสโมสร ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ถือว่าผิดในข้อหาทำร้ายผู้ตัดสินตามข้อ 2.9 มีโทษปรับ 8 หมื่นบาท และแบนนายสาโรจน์เป็นเวลา 6 เดือน นั้น”
“สโมสรฟุตบอลขอนแก่นยูไนเต็ด ขอเรียนให้ทราบว่า นายสาโรจน์ รัตนคำมูล ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุคดีดังกล่าวนั้น ไม่ได้เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำสโมสรแต่อย่างใด และไม่มีความเกี่ยวข้องกับ สโมสรฟุตบอลขอนแก่นยูไนเต็ดแต่ประการใดทั้งสิ้น ทางสโมสรขอยืนยันว่า เราไม่เคยมีการ์ดประจำสโมสรเลย ทั้งนี้ ในการรักษาความปลอดภัยในสนามแข่งขันในแต่ละแมตช์นั้น ทางสโมสรได้ว่าจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยจากภายนอกทั้งหมด โดยมี เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองขอนแก่น อาสาสมัครตำรวจ และ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ภายในท้องถิ่นเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ โดยในขณะนี้สโมสรฟุตบอลขอนแก่นยูไนเต็ด ได้เตรียมรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพนักงานรักษาความปลอดภัยจากภายนอก และ รายชื่อของพนักงานประจำของสโมสร เพื่อชี้แจงต่อ คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ไว้พร้อมแล้ว”
“สโมสรฟุตบอลขอนแก่นยูไนเต็ด ขอยืนยันว่า ไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหาที่เกิดขึ้นจากเกมกีฬา ตลอดจนสนับสนุนให้เกิดการกระทำผิดในกรณีดังกล่าว และจะดำเนินการทุกวิถีทางอันชอบธรรม เพื่อปกป้องชื่อเสียง เกียรติยศของสโมสร และ แฟนคลับของสโมสรเป็นสำคัญต่อไป” ภูเบศ ศุภพิพัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม ขอนแก่นยูไนเต็ด กล่าว
จากกรณีที่ นายสรพงษ์ ไกรเนตร อายุ 32 ปี กรรมการผู้ตัดสินฟุตบอลคู่ ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบกับอ่างทอง เอฟซี เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ถูกทำร้ายจาก นายสาโรจน์ รัตนคำมูล อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวก่อนหน้านี้ คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีคำสั่งลงโทษปรับ 8 หมื่นบาท และแบนนายสาโรจน์เป็นเวลา 6 เดือน พร้อมกันนี้ ยังมีการกล่าวอ้างว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำสโมสรนั้น
ล่าสุด เมื่อวันพุธที่ 3 สิงหาคม 2559 สโมสร ขอนแก่น ยูไนเต็ด โดย นายภูเบศ ศุภพิพัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม ออกมาเผยแพร่แถลงการณ์ ยืนยันว่า ผู้ต้องหารายนี้ไม่ได้เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำสโมสรอย่างที่เข้าใจ เนื่องจากสโมสรได้จ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยจากภายนอกทั้งหมด และได้รวบรวมข้อมูลเพื่อชี้แจงคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย อีกทั้งยืนยันไม่ได้ส่งเสริมหรือสนับสนุนการใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด
“ตามที่ปรากฏเป็นข่าวจากการนำเสนอของสื่อมวลชน ว่า คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้รับการยืนยันจาก พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ รองประธานผู้ตัดสิน สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า จากการสอบสวน ปรากฏว่า นายสาโรจน์ รัตนคำมูล ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุคดีทำร้ายผู้ตัดสิน ที่ร้านอาหารร้านหนึ่งภายในจังหวัดขอนแก่น หลังจากการแข่งขันฟุตบอลยามาฮ่าลีกวัน ระหว่างสโมสร ขอนแก่นยูไนเต็ด กับ สโมสรอ่างทองเอฟซี ในวันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำสโมสร ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ถือว่าผิดในข้อหาทำร้ายผู้ตัดสินตามข้อ 2.9 มีโทษปรับ 8 หมื่นบาท และแบนนายสาโรจน์เป็นเวลา 6 เดือน นั้น”
“สโมสรฟุตบอลขอนแก่นยูไนเต็ด ขอเรียนให้ทราบว่า นายสาโรจน์ รัตนคำมูล ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุคดีดังกล่าวนั้น ไม่ได้เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำสโมสรแต่อย่างใด และไม่มีความเกี่ยวข้องกับ สโมสรฟุตบอลขอนแก่นยูไนเต็ดแต่ประการใดทั้งสิ้น ทางสโมสรขอยืนยันว่า เราไม่เคยมีการ์ดประจำสโมสรเลย ทั้งนี้ ในการรักษาความปลอดภัยในสนามแข่งขันในแต่ละแมตช์นั้น ทางสโมสรได้ว่าจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยจากภายนอกทั้งหมด โดยมี เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองขอนแก่น อาสาสมัครตำรวจ และ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ภายในท้องถิ่นเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ โดยในขณะนี้สโมสรฟุตบอลขอนแก่นยูไนเต็ด ได้เตรียมรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพนักงานรักษาความปลอดภัยจากภายนอก และ รายชื่อของพนักงานประจำของสโมสร เพื่อชี้แจงต่อ คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ไว้พร้อมแล้ว”
“สโมสรฟุตบอลขอนแก่นยูไนเต็ด ขอยืนยันว่า ไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหาที่เกิดขึ้นจากเกมกีฬา ตลอดจนสนับสนุนให้เกิดการกระทำผิดในกรณีดังกล่าว และจะดำเนินการทุกวิถีทางอันชอบธรรม เพื่อปกป้องชื่อเสียง เกียรติยศของสโมสร และ แฟนคลับของสโมสรเป็นสำคัญต่อไป” ภูเบศ ศุภพิพัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม ขอนแก่นยูไนเต็ด กล่าว