xs
xsm
sm
md
lg

“เฮนริก สเตนสัน” ชีวิตรีสตาร์ทได้ทุกวัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สเตนสัน ชูถ้วย “คลาเร็ต จัก”
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - มีหลายชนิดกีฬาเมื่อผู้เล่นผ่านจุดที่ดีที่สุดของอาชีพไปแล้ว หรือเมื่ออายุอานามมากขึ้นก็ยากที่จะประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์สำคัญ ๆ

แต่กีฬากอล์ฟคือข้อยกเว้น เช่นตัวอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นหมาด ๆ เฮนริก สเตนสัน จากสวีเดน ที่ตอนนี้ถอนชื่อตนเองออกจากสมาคม “ก้านเหล็กที่ดีที่สุดที่ไม่เคยได้แชมป์ระดับเมเจอร์” จากการที่ก้าวไปคว้าแชมป์ “ดิ โอเพน” เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

การขับเคี่ยวรอบสุดท้ายที่ รอยัล ทรูน กอล์ฟ คลับ ใน สกอตแลนด์ สเตนสัน ระเบิดฟอร์มทำเพิ่ม 8 อันเดอร์พาร์จาก 10 เบอร์ดี 2 โบกี รวมมี 20 อันเดอร์พาร์ 264 ถือเป็นสกอร์ต่ำสุดทำลายของเดิมที่ เกร็ก นอร์แมน เจ้าของฉายา “ฉลามขาว” จากออสเตรเลีย ทำไว้ 13 อันเดอร์พาร์ 267 เมื่อปี 1993 ที่ รอยัล เซนต์ จอร์จ

สเตนสัน เฉือน ฟิล มิคเคลสัน 3 สโตรก โดยถือเป็นการล้างแค้น เพราะแชมป์สุดท้ายของ “บิ๊กฟิล” โปรจอมเก๋าชาวอเมริกัน ก็คือ “ดิ โอเพน” เมื่อปี 2013 ที่เฉือนกันไปด้วยความห่างเท่ากัน

สเตนสัน รับเงินรางวัลกลับบ้าน 1,175,000 ปอนด์ (ประมาณ 58.7 ล้านบาท) แต่เหนืออื่นใดสิ่งสำคัญที่สุดคือเจ้าตัวหวังว่าแชมป์เมเจอร์แรกนี้จะเป็นแรงกระตุ้นให้ “รีสตาร์ท” กอบโกยความสำเร็จในวัย 40 ปี โดยเผยว่า “จะเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นอีกครั้งหรือไม่? ก็บอกไม่ได้ แต่คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าประตูจะเปิดขึ้นเมื่อไหร่”

เหตุที่บอกว่า สเตนสัน คือ หนึ่งในโปรที่ดีที่สุดที่ไม่เคยได้แชมป์เมเจอร์ ก็มาจากผลงานก่อนหน้านี้ที่จบท็อป 4 ถึง 7 ครั้งในการลงเล่นอีเวนต์ใหญ่รวมที่ 2 ศึก “ดิ โอเพน” เมื่อปี 2013 ที่ เมอร์ฟิลด์

ปีนี้เหลืออีก 1 เมเจอร์ คือ ศึก “พีจีเอ แชมเปียนชิป” ซึ่ง สเตนสัน เคยจบที่ 3 ถึง 2 ครั้งปี 2013 กับ 2014 แต่ต้องแข่งกับ “บิ๊กโฟร์” ที่อายุอ่อนกว่าไล่ตั้งแต่ เจสัน เดย์ (ออสเตรเลีย) 28 ปี, ดัสติน จอห์นสัน (สหรัฐอเมริกา) 32 ปี, จอร์แดน สปีธ (สหรัฐอเมริกา) 22 ปี และ รอรีย์ แม็คอิลรอย (ไอร์แลนด์เหนือ) 27 ปี แต่เจ้าตัวกล่าวสั้น ๆ แบบไม่เกรงความสดรุ่นน้องว่า “ผมคิดว่าการเล่นกีฬากอล์ฟนั้นมีความเชื่อมโยงกับเรื่องประสบการณ์พอสมควรนะ”

ก่อนหน้านี้ ในศึก “ดิ โอเพน” ที่ เทิร์นเบอร์รี เมื่อปี 2009 ทอม วัตสัน จอมเก๋าชาวอเมริกันเกือบสร้างความฮือฮาด้วยวัย 59 ปี ก่อนจะเพลย์ออฟแพ้ สจ๊วร์ต ซิงก์ รุ่นน้องร่วมชาติ

สเตนสัน ไม่ใช่นักกอล์ฟสวีเดนคนแรกที่รอคอยปลดล็อกคว้าแชมป์เมเจอร์แรก ก่อนหน้านี้ มี เจสเปอร์ พาร์เนวิก ที่ปัจจุบันวัย 51 ปีแล้ว ก็ยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสแชมป์รายการใหญ่ ใกล้เคียงที่สุด คือ ปี 1994 กับ 1997 ที่จบอันดับ 2 รายการ “ดิ โอเพน”

ดังนั้น งานนี้ พาร์เนวิก จึงไม่พลาดที่จะร่วมดีใจผ่านทาง “ทวิตเตอร์” สังคมออนไลน์ส่วนตัวว่า “น่าประทับใจมากและขอแสดงความยินดีด้วย @henrikstenson สวีเดนสิ้นสุดการรอคอยเสียที”

สเตนสัน สร้างความภาคภูมิใจให้คนทั้งประเทศ เพราะธงได้ไปโบกสะบัดที่ รอยัล ทรูน ในฐานะโปรสวีเดนคนแรกที่คว้าแชมป์ “ดิ โอเพน” เจ้าตัวเผยว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้เป็นคนหนึ่งที่ได้ถือถ้วยรางวัลนี้ มีผู้เล่นฝีมือเยี่ยมจากหลายชาติที่พยายามอย่างหนักช่วงหลายปีที่ผ่านมา หรือจะนับเป็นทศวรรษก็ว่าได้เพื่อคว้าแชมป์ เจสเปอร์ ก็ 2 หนเห็นจะได้ เขาได้ส่งข้อความมาให้ออกไปจบภารกิจนี้ซะ จึงถือเป็นความสำเร็จยิ่งใหญ่ของชาติก็ว่าได้”

สเตนสัน เพิ่มถ้วยรางวัลใส่ตู้โชว์เป็นแชมป์ ยูโรเปียน ทัวร์ 11 รายการ และแชมป์ พีจีเอ ทัวร์ 5 รายการ พร้อมขยับรั้งมือ 5 ของโลกและระหว่างวันที่ 5 - 21 สิงหาคม นี้ จะไปล่าเหรียญทองที่กรุง ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล เรียกได้ว่าไม่มีเวลาให้หายใจหายคอกันเลย

กระนั้นก็ตาม สเตนสัน รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งและไม่มีความคิดเรื่องถอนตัวอยู่ในหัว “ผมมีความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน โอลิมปิก ซึ่งสิ่งที่จะได้รับอย่างแน่นอนก็คือประสบการณ์ เหนืออื่นใดหวังว่าจะทำผลงานได้ดีมีสักเหรียญติดไม้ติดมือกลับบ้าน จากนั้นก็คงจะเยี่ยมไม่น้อยหากคว้าแชมป์ได้อีก”

ทั้งหมดคือ เสน่ห์ของกีฬากอล์ฟที่ไม่เกี่ยงว่าอายุเท่าไหร่ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ ชีวิตจึงเหมือนมีวันใหม่ได้เสมอ เพียงแต่ถ้าวันไหนเล่นไม่ดีก็กลับไปพัก เพราะทุกคนย่อมเคยผ่านความรู้สึกอยากหักก้านเหล็กให้แหลกคามือ แต่พอใจเย็นลงได้ทบทวนความผิดพลาดก็แทบอยากจะมาออกรอบอีกครั้งให้เร็วพลัน

เรื่อง สรเดช เพชรแสงใสกุล
วินาทีสะใจของ สเตนสัน
สเตนสัน ดีใจกับ เอ็มมา ผู้เป็นภรรยา
เข้าไปกอดกับ มิคเคลสัน
สร้างชื่อให้สวีเดนที่ “ดิ โอเพน”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น