คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
อย่าเพิ่งเบื่อกันเสียก่อนที่ต้องจัดเรื่องราวของ บาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) บ่อยสักหน่อย แม้เพิ่งจะปิดซีซันไปใม่นาน ด้วยบรรยากาศสุดชื่นมื่นของ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ที่รอคอยความสำเร็จมานาน 52 ปี แฟน ๆ ชิคาโก บูลล์ส (รวมถึงตัวผมเอง) อาจจะตกใจกันพอสมควร ถึงข่าวคราวการเทรด เดอร์ริค โรส การ์ดจ่ายตัวเก่ง ไป นิวยอร์ก นิกส์
ขอย้อนความสักหน่อยว่า ยุคที่ผมเริ่มติดตามเชียร์ บูลล์ส เป็น 2 ซีซันสุดท้ายของ ไมเคิล จอร์แดน ที่นั่งเก้าอี้เจ้าของ ชาร์ล็อตต์ ฮอร์เน็ตส์ ไฮไลต์ที่พอจำได้ คือ “ฟลู เกม (Flu Game)” รอบชิงชนะเลิศ เกม 5 ซึ่งบุกปล้น ยูทาห์ แจซซ์ ถึง เดลตา เซ็นเตอร์ ก่อนมาปิดซีรีส์ที่ ยูไนเต็ด เซ็นเตอร์ และ “เดอะ ลาสต์ ช็อต (The Last Shot)” ที่ทำให้ครองแชมป์สมัยที่ 6
สิ้นสุดยุคของความเกรียงไกร บูลล์ส กลับมาเป็นทีมระดับเพลย์ออฟ ภายใต้การนำของ เคิร์ก ไฮน์ริช , ลูโอล เดง และ เบน กอร์ดอน แต่ยุคที่พอจะคัมแบ็กสู่การลุ้นแชมป์ ก็ต้องรอใช้สิทธิ์ดราฟต์อันดับ 1 เลือก โรส จาก มหาวิทยาลัยเมมฟิส เมื่อปี 2008 ก่อนจะพีกสุดขีดถึงขั้นคว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ปี 2011 นับจากนั้น พระเอกของชาวเมืองชิคาโก ก็ต้องผ่าเข่าซ้ำซาก และนำไปสู่การแยกทาง
เริ่มแรกพอเห็นสื่อค่ายยักษ์อย่าง อีเอสพีเอ็น (ESPN) ตีข่าวว่า นิกส์ สนใจ “ดี-โรส” มีบ้างที่แอบขำอยู่ในใจ เพราะถ้าไม่ได้ระดับ คริสแต็ปส์ พอร์ซินกิส ดีกรีอันดับ 2 รุกกี ออฟ เดอะ เยียร์ ก็ไม่เห็นต้องคุยด้วย หรือจะเอา คาร์เมโล แอนโธนี ล่ะ ? คริคริ ไร้สาระ สุดท้ายพอเห็นความคืบหน้าว่าลงเอยกันเรียบร้อย ก็ สตั๊นไปราว ๆ 5 วินาทีเลย
อารมณ์คงคล้าย ๆ กับคุณเชียร์ ลิเวอร์พูล แล้วรู้ว่า ร็อบบี ฟาวเลอร์ ถูกขายให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด หรือ สตีเวน เจอร์ราร์ด ไม่ต่อสัญญา เพราะ โรส เป็นเด็กเมือง ชิคาโก คู่ควรกับการยกขึ้นหิ้ง “แฟรนไชส์ เพลเยอร์” แต่อีกมุมหนึ่ง ก็ต้องยอมรับว่า ด้วยวัย 27 ปี แถม 2 ซีซันที่กลับมาลงเล่นหลังผ่าเข่า แบบเจ็บออด ๆ แอด ๆ รับค่าเหนื่อยหลัก 20 ล้านเหรียญเศษ ๆ ผลงานระดับ MVP คงกลายเป็นอดีตไปแล้ว
เทรดครั้งนี้ นิกส์ ดูเหมือนจะไม่เสียหายสักเท่าไร ตำแหน่ง พอยน์ต การ์ด คือ จุดบอดที่ ฟิล แจ็คสัน ประธาน ต้องการอุด แบกค่าจ้าง โรส ไว้สัก 1 ปี ฟอร์มดีก็ค่อยว่ากัน หรือไม่ดี ก็ไม่ต้องเสียเวลานั่งถกสัญญาระยะยาวกันอีก หรือถ้าอ่อย เควิน ดูแรนท์ ฟรีเอเยนต์เนื้อหอม มาร่วมทีมอีกคน คงยิ่งกว่าโชค 2 ชั้น แปรสภาพเป็นทีมระดับท้าชิงบัลลังก์ฝั่งตะวันออกได้เลย
นับจากนี้ บูลล์ส น่าจะทรุดหนัก ทั้ง เพา กาซอล กับ โยอาคิม โนอาห์ ก็น่าจะเข้าตลาดฟรีเอเยนต์กันหมด เหลือแค่ จิมมี บัตเลอร์ เป็นเสาหลัก ไม่น่าแปลกใจที่จะไปลุ้นสิทธิ์ดราฟต์เบอร์ 1 แทน ส่วน นิกส์ น่ะเหรอ หุหุ ยิ่ง ดูแรนท์ กับ เมโล ติดธงลุย โอลิมปิก ด้วยกันแบบนี้ ตีซี้กันไว้ เสร็จงานเพื่อชาติเมื่อไร มีสิทธิ์เปลี่ยนเสื้อสีฟ้าของ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ เป็น น้ำเงิน-ส้ม แทน ก็เป็นไปได้
ชีวิตของกองเชียร์ ชิคาโก บูลล์ส ต้องก้าวข้ามความเจ็บปวดที่สูญเสีย เดอร์ริค โรส เฝ้ารอซูเปอร์สตาร์คนใหม่ ฉุดพ้นความตกต่ำ เปรียบคนอกหักที่หวังจะเจอรักแท้เสียที
อย่าเพิ่งเบื่อกันเสียก่อนที่ต้องจัดเรื่องราวของ บาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) บ่อยสักหน่อย แม้เพิ่งจะปิดซีซันไปใม่นาน ด้วยบรรยากาศสุดชื่นมื่นของ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ที่รอคอยความสำเร็จมานาน 52 ปี แฟน ๆ ชิคาโก บูลล์ส (รวมถึงตัวผมเอง) อาจจะตกใจกันพอสมควร ถึงข่าวคราวการเทรด เดอร์ริค โรส การ์ดจ่ายตัวเก่ง ไป นิวยอร์ก นิกส์
ขอย้อนความสักหน่อยว่า ยุคที่ผมเริ่มติดตามเชียร์ บูลล์ส เป็น 2 ซีซันสุดท้ายของ ไมเคิล จอร์แดน ที่นั่งเก้าอี้เจ้าของ ชาร์ล็อตต์ ฮอร์เน็ตส์ ไฮไลต์ที่พอจำได้ คือ “ฟลู เกม (Flu Game)” รอบชิงชนะเลิศ เกม 5 ซึ่งบุกปล้น ยูทาห์ แจซซ์ ถึง เดลตา เซ็นเตอร์ ก่อนมาปิดซีรีส์ที่ ยูไนเต็ด เซ็นเตอร์ และ “เดอะ ลาสต์ ช็อต (The Last Shot)” ที่ทำให้ครองแชมป์สมัยที่ 6
สิ้นสุดยุคของความเกรียงไกร บูลล์ส กลับมาเป็นทีมระดับเพลย์ออฟ ภายใต้การนำของ เคิร์ก ไฮน์ริช , ลูโอล เดง และ เบน กอร์ดอน แต่ยุคที่พอจะคัมแบ็กสู่การลุ้นแชมป์ ก็ต้องรอใช้สิทธิ์ดราฟต์อันดับ 1 เลือก โรส จาก มหาวิทยาลัยเมมฟิส เมื่อปี 2008 ก่อนจะพีกสุดขีดถึงขั้นคว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ปี 2011 นับจากนั้น พระเอกของชาวเมืองชิคาโก ก็ต้องผ่าเข่าซ้ำซาก และนำไปสู่การแยกทาง
เริ่มแรกพอเห็นสื่อค่ายยักษ์อย่าง อีเอสพีเอ็น (ESPN) ตีข่าวว่า นิกส์ สนใจ “ดี-โรส” มีบ้างที่แอบขำอยู่ในใจ เพราะถ้าไม่ได้ระดับ คริสแต็ปส์ พอร์ซินกิส ดีกรีอันดับ 2 รุกกี ออฟ เดอะ เยียร์ ก็ไม่เห็นต้องคุยด้วย หรือจะเอา คาร์เมโล แอนโธนี ล่ะ ? คริคริ ไร้สาระ สุดท้ายพอเห็นความคืบหน้าว่าลงเอยกันเรียบร้อย ก็ สตั๊นไปราว ๆ 5 วินาทีเลย
อารมณ์คงคล้าย ๆ กับคุณเชียร์ ลิเวอร์พูล แล้วรู้ว่า ร็อบบี ฟาวเลอร์ ถูกขายให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด หรือ สตีเวน เจอร์ราร์ด ไม่ต่อสัญญา เพราะ โรส เป็นเด็กเมือง ชิคาโก คู่ควรกับการยกขึ้นหิ้ง “แฟรนไชส์ เพลเยอร์” แต่อีกมุมหนึ่ง ก็ต้องยอมรับว่า ด้วยวัย 27 ปี แถม 2 ซีซันที่กลับมาลงเล่นหลังผ่าเข่า แบบเจ็บออด ๆ แอด ๆ รับค่าเหนื่อยหลัก 20 ล้านเหรียญเศษ ๆ ผลงานระดับ MVP คงกลายเป็นอดีตไปแล้ว
เทรดครั้งนี้ นิกส์ ดูเหมือนจะไม่เสียหายสักเท่าไร ตำแหน่ง พอยน์ต การ์ด คือ จุดบอดที่ ฟิล แจ็คสัน ประธาน ต้องการอุด แบกค่าจ้าง โรส ไว้สัก 1 ปี ฟอร์มดีก็ค่อยว่ากัน หรือไม่ดี ก็ไม่ต้องเสียเวลานั่งถกสัญญาระยะยาวกันอีก หรือถ้าอ่อย เควิน ดูแรนท์ ฟรีเอเยนต์เนื้อหอม มาร่วมทีมอีกคน คงยิ่งกว่าโชค 2 ชั้น แปรสภาพเป็นทีมระดับท้าชิงบัลลังก์ฝั่งตะวันออกได้เลย
นับจากนี้ บูลล์ส น่าจะทรุดหนัก ทั้ง เพา กาซอล กับ โยอาคิม โนอาห์ ก็น่าจะเข้าตลาดฟรีเอเยนต์กันหมด เหลือแค่ จิมมี บัตเลอร์ เป็นเสาหลัก ไม่น่าแปลกใจที่จะไปลุ้นสิทธิ์ดราฟต์เบอร์ 1 แทน ส่วน นิกส์ น่ะเหรอ หุหุ ยิ่ง ดูแรนท์ กับ เมโล ติดธงลุย โอลิมปิก ด้วยกันแบบนี้ ตีซี้กันไว้ เสร็จงานเพื่อชาติเมื่อไร มีสิทธิ์เปลี่ยนเสื้อสีฟ้าของ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ เป็น น้ำเงิน-ส้ม แทน ก็เป็นไปได้
ชีวิตของกองเชียร์ ชิคาโก บูลล์ส ต้องก้าวข้ามความเจ็บปวดที่สูญเสีย เดอร์ริค โรส เฝ้ารอซูเปอร์สตาร์คนใหม่ ฉุดพ้นความตกต่ำ เปรียบคนอกหักที่หวังจะเจอรักแท้เสียที