สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) เพิ่มเงินสนับสนุนให้กับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จากเดิมในระยะเวลา 4 ปี เป็นเงินรวม 2.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 80.5 ล้านบาท) เพิ่มเป็น 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 175 ล้านบาท) ขณะที่สหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) หนุน 250,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 8.75 ล้านบาท) ต่อปี
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ร่วมประชุมกับ ตัวแทนจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) และ ตัวแทนจากสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ที่โรงแรม พลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ โดยมี พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมฯ เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ประธานกรรมการผู้ตัดสินฯ, นายวิทยา เหาหกุล อุปนายกฯ ฝ่ายพัฒนาเทคนิค, นายศุภสิน ลีลาฤทธ์ อุปนายกฯ ฝ่ายจัดการแข่งขัน, นางลัขณานันท์ ลักษมีธนานันต์ อุปนายกฯ ฝ่ายการเงิน, นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการ ฝ่ายต่างประเทศ เข้าร่วม
ด้านตัวแทนของฟีฟา ประกอบด้วย อเล็กซานเดอร์ กรอส และ โดเมกา การาเมนดิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาของฟีฟา และ เอเอฟซี มี สจวร์ต ลาร์มาน หัวหน้าฝ่ายพัฒนาประเทศสมาชิกเอเอฟซี, เดวิด บอร์ฆา ที่ปรึกษาเลขาธิการเอเอฟซี และ นูไรยม อลิมคูโลวา เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาประเทศสมาชิกเอเอฟซี โดยหัวข้อของการประชุมเป็นการลงลึกในรายละเอียดของการวางตัวบุคลากรให้เหมาะสมกับเนื้องาน และสิ่งที่สมาคมกีฬาฟุตบอลไทยต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วน ร่วมทั้งงบประมาณต่าง ๆ ที่จะได้รับการสนับสนุนจากฟีฟาและเอเอฟซี
โดเมกา การาเมนดิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาของฟีฟา กล่าวถึงโครงการใหม่ของประธานฟีฟาหลังจากที่ได้รับเลือกเข้ามาดำรงตำแหน่ง ก็คือ การเพิ่มงบประมาณสนับสนุนประเทศสมาชิกเพื่อนำไปพัฒนาศักยภาพของวงการฟุตบอล โดยฟีฟาอยากเห็นสมาคมฟุตบอลของประเทศสมาชิกมีความเข้มแข็ง และมั่นคง ในทุก ๆ ด้าน เช่น ขณะนี้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ของไทยยังไม่มีที่ทำการ และต้องการสร้างศูนย์ฝึกนักกีฬา ที่มีความพร้อม ซึ่งฟีฟาเองพร้อมที่จะสนับสนุนงบประมาณจากเดิมเคยสนับสนุนประเทศสมาชิก 2.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ใน 4 ปี แต่นโยบายใหม่จะเพิ่มงบสนับสนุนเป็น 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ใน 4 ปี ซึ่งการนำงบประมาณไปใช้จะต้องมีการลงนามในสัญญา และมีแผนการดำเนินงานอย่างเป็นระบบและสามารถตรวจสอบได้ ดังนั้น สมาคมกีฬาฟุตบอลไทยต้องเร่งดำเนินการทำแผนว่าจะนำงบประมาณไปใช้พัฒนาในด้านไหนบ้าง เพื่อนำเงินมาใช้ให้เกิดประโยชน์โดยเร็ว
ด้าน สจวร์ต ลาร์มาน หัวหน้าฝ่ายพัฒนาประเทศสมาชิกเอเอฟซี กล่าวว่า นอกจากการวางระบบโครงสร้างของสมาคมฯ จะสำคัญแล้ว ทางเอเอฟซีพร้อมที่จะให้คำปรึกษาในเรื่องของการหารายได้เข้าสู่สมาคมฯ เพื่อนำงบไปพัฒนาในด้านต่าง ๆ นอกจากงบประมาณที่ได้จากการสนับสนุนจากเอเอฟซีประมาณ 250,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี
ซึ่งปีนี้สำหรับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ของไทยจะได้รับการยกเว้นในเรื่องของการตรวจสอบการเงินย้อนหลัง เพราะทางเอเอฟซีทราบดีว่า คณะผู้บริหารชุดนี้เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ และก็กำลังประสบปัญหาทางด้านการเงินสำหรับการบริหารจัดการอย่างหนัก แต่สำหรับการสนับสนุนในปีถัดไป จะต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ว่า สมาคมฯ นำงบประมาณไปใช้พัฒนาในด้านใดบ้าง มีแผนงานและระบบการใช้จ่ายอย่างไร
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *