เอเยนซี - คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ครองแชมป์ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ครั้งประวัติศาสตร์ เอาชนะ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส 93-89 เกมชี้ชะตา ที่สนาม โอราเคิล อารีนา ปิดซีรีส์ 4-3 เกม เช้าวันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย ขณะที่ สตีเฟน เคอร์รี การ์ดจ่ายผู้อกหัก ประกาศจะขอนำความเจ็บปวด เป็นแรงกระตุ้นกลับมาทวงบัลลังก์ ฤดูกาล 2016-17
เลอบรอน เจมส์ วัย 31 ปี ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับแฟน ๆ หลังย้ายจาก ไมอามี ฮีต กลับสู่แฟรนไชส์ประจำบ้านเกิด เมิ่อปี 2014 พา คาวาเลียร์ส กลายเป็นทีมแรกที่คัมแบ็กจากตามอยู่ 1-3 เกม ยุติการรอคอยความสำเร็จอันยาวนานของชาวเมือง คลีฟแลนด์ ลีกกีฬาอาชีพหลัก ๆ ของประเทศสหรัฐอเมริกา นับตั้งแต่ บราวน์ส คว้าแชมป์ อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เมื่อปี 1964 และเป็นทีมที่ 4 ของ NBA ที่ฉลองชัยเกม 7 นอกบ้าน
เลอบรอน ซึ่งเกิดที่เมืองอักรอน มลรัฐโอไฮโอ กล่าว “ผมกลับบ้านเพราะสิ่งที่ผมบอกว่า ผมอยากทำอะไร ผมทนรอไม่ไหวที่จะลงจากเครี่องบิน ถือถ้วยแชมป์ให้แฟน ๆ ของเราทุกคนเห็นตรงทางเข้าผู้โดยสาร”
“คิงเจมส์” ลงเล่นรอบชิงชนะเลิศ ครั้งที่ 6 ติดต่อกัน และครั้งที่ 7 ตลอดอาชีพ แทบจะแบก “แคฟส์” ด้วยมือเพียงข้างเดียว จบเกมส่องไป 27 แต้ม 11 แอสซิสต์ 11 รีบาวน์ด และ 3 บล็อก รวมเพลย์ตัดสินเกม หยุด อังเดร อิกัวดาลา ปิดสกอร์จากการเล่น ฟาสต์ เบรก (โต้กลับเร็ว) และปะทะ เดรย์มอนด์ กรีน ขณะพยายามขึ้นดังก์ ล้มแขนขวากระแทกพื้น กัดฟันลุกมายิงลูกโทษ 1 จาก 2 ครั้ง ตอกฝาโลง 10.6 วินาทีสุดท้าย
ทำให้ เลอบรอน นัมเบอร์วันดราฟต์ ปี 2003 ซิวตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) รอบชิงฯ สมัยที่ 3 นับตั้งแต่ทำไว้กับ ไมอามี ฮีต ปี 2012 กับ2013 กดค่าเฉลี่ย 29.7 แต้ม 11.3 รีบาวน์ด 8.9 แอสซิสต์ ยิงฟิลด์โกลแม่นยำ 53.3 เปอร์เซ็นต์ ตลอดซีรีส์ และกลายเป็นผู้เล่นคนที่ 3 ของลีก ที่ทำ “ทริปเปิล ดับเบิล” เกม 7 ต่อจาก เจอร์รี เวสต์ กับ เจมส์ เวอร์ธีย์ ตำนาน แอลเอ เลเกอร์ส เมื่อปี 1969 และ 1969 ตามลำดับ
คายรี เออร์วิง การ์ดจ่ายคู่หู ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคีย์แมน ส่อง 3 คะแนน ข้ามบล็อก เคอร์รี ก่อนหมดเวลา 53 วินาที ขึ้นนำ 92-89 ช่วยไป 26 แต้ม 6 รีบาวน์ด ชื่นชม ฟอร์เวิร์ดรุ่นพี่ “เขาคือสุดยอดผู้เล่นบนโลกนี้ ผมโชคดีเหลือเกินที่มีคนอย่างเขาเป็นผู้นำทีม และผมยังคงเรียนรู้จากเขาหากเวลาของผมมาถึง เปรียบเสมือนผมดู บีโธเฟน คุมวงดนตรี เวลาเห็น เลอบรอน ปั้นเกม เขาทำ ทริปเปิล-ดับเบิล เกม 7 ย่อมเป็นที่พูดถึงไปอีกนาน แต่มันไม่สำคัญสำหรับเขาและผม สิ่งที่เราต้องการ คือ แชมป์”
น่าเสียดายสำหรับฝั่ง วอร์ริเออร์ส ที่สามารถสร้างสถิติชนะสูงสุด 73-9 ช่วงเรกูลาร์ ซีซัน ทว่าไม่สามารถคว้าแชมป์เหมือนกับ ชิคาโก บูลล์ส ยุค ไมเคิล จอร์แดน กับ สก็อตตี พิพเพน ที่ทำไว้ 72-10 ฤดูกาล 1995-96 ปิดฉากเกม 7 ยิงฟิลด์โกล 9 ลูกสุดท้าย พลาดเป้า แถมปล่อยโอกาสเช็กบิล ตั้งแต่เกม 5 ณ สนามแห่งเดียวกันนี้ หลุดลอย อันเป็นผลกระทบจากการขาด เดรย์มอนด์ กรีน ฟอร์เวิร์ดสารพัดประโยชน์ ที่ถูกแบนข้อหาฟาดแขนใส่บริเวณเขตปลอดอาวุธของ เลอบรอน
กรีน ผู้ปิดสกอร์สูงสุด “นักรบ” 32 แต้ม 15 รีบาวน์ด 9 แอสซิสต์ เผยว่า “เส้นทางรอบเพลย์ออฟ มีช่วงเวลาที่น่าจดจำมากมาย และเวลาที่เลวร้ายนิดหน่อย ซึ่งมันน่าอึดอัด มีตัวแปรบางอย่างที่เกิดจากการลงโทษด้านพฤติกรรม ผมเคยบอกแล้วว่า การถูกแบย 1 เกม และไม่ได้ลงเล่นกับเพื่อนๆ คุณรู้ไหม มันเป็นสิ่งที่ทำใจยาก”
ส่วน เคอร์รี ซึ่งซัดไปเพียง 17 แต้ม 5 รีบาวน์ด 5 แอสซิสต์ กล่าว “มันน่าเจ็บปวด สุดท้ายเราต้องการเก็บความทรงจำเหล่านี้ให้มากสุดจนกระทั่งมันกลายเป็นแรงผลักดัน ทำให้เรากลมเกลียวกัน นี่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เราจะมายืนอยู่ตรงจุดนี้”
ทั้งนี้ จอมแม่นวัย 28 ปี ยังเผยถึงอาการเจ็บเอ็นเข่า ที่ติดตัวมาตั้งแต่รอบแรก กับ ฮูสตัน ร็อคเก็ตส์ “ไม่มีปัญหาอะไร ผมยังมีเวลาอีก 3 เดือน ที่จะเตรียมตัวให้พร้อมก่อนถึงฤดูกาลหน้า ผมสามารถบอกคุณ (สื่อมวลชน) ได้เท่านี้”
สำหรับซีซันหน้า “เวสต์เกต ซูเปอร์ บุก” บริษัทรับพนันถูกกฎหมาย คลอดอัตราแชมป์ไว้ล่วงหน้า และยังคงให้ ทีมของ สตีฟ เคอร์ เป็นอันดับ 1 ราคา 7-4 (แทง 4 จ่าย 7) ตามด้วยอันดับ 2 คาวาเลียร์ส 5-2 อันดับ 3 ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส 6-1 อันดับ 4 โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ 8-1 และอันดับ 5 แอลเอ คลิปเปอร์ส 16-1
