พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ชี้แจงกรณีประเด็นร้อนเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของสมาคมฯ โดยเฉพาะการ “เปิดรับบริจาค” ที่มีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย
โดย พล.ต.อ.สมยศ ยอมรับว่า ขณะนี้ทางสมาคมฯไม่มีเงินมาใช้หมุนเวียนการดำเนินการกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงเงินค่าจ้างผู้ตัดสิน เนื่องจากหลังเข้ามารับตำแหน่งไม่ได้รับการส่งมอบบัญชีจากผู้บริหารสมาคมฯชุดเก่า ตนจึงได้ยืมเงินลูกสาวเป็นจำนวน 10 ล้านบาท โดยมีสัญญาอย่างเป็นทางการ ดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี แต่ยืนยันว่า จะไม่หาประโยชน์จากส่วนนี้แน่นอน แม้ขณะนี้จะล่วงเลยกำหนดการใช้คืนแล้วก็ตาม และการที่ต้องกู้ยืมเงินจากลูกสาวนั้น เนื่องจากสมาคมฯไม่มีเครดิต ยากที่จะไปขอกู้จากสถาบันการเงิน ที่สำคัญ ต้องใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะทราบผล
พร้อมกันนี้ “บิ๊กอ๊อด” เผยต่อว่า ส่วนเงินจากสปอนเซอร์รายใหม่ที่ทำสัญญาในสมัยตนนั้น แม้จำนวนเงินจะเยอะ แต่ทั้งหมดเป็นการแบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ ไม่มีที่ไหนให้เงินก้อนเดียวจนครบ และหลายรายสัญญาจะเริ่มในปี 2017
ขณะที่กรณีเงินอัดฉีดให้กับทีมชาติไทย ในการผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย จำนวน 30 ล้านบาท นั้น พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า แม้เรื่องนี้ตนจะไม่ได้เป็นผู้ประกาศไว้ แต่ได้หารือกับหลายฝ่ายแล้ว รับรู้ว่านักฟุตบอลมีความหวังกับเงินจำนวนนี้ จึงยืนยันที่จะหามาให้ตามเดิม ซึ่งขณะนี้มีเงินสนับสนุนจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จำนวน 10 ล้านบาท และ ไทยรัฐทีวี 5 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 15 ล้านบาท มีเจ้าภาพแล้ว รอมอบเงินอย่างเป็นทางการเท่านั้น
นอกจากนี้ พล.ต.อ.สมยศ ได้เผยถึงการเปิดรับบริจาคจากประชาชนทั่วไปในโครงการ “เพื่อฟุตบอลไทยไปบอลโลก” ว่า เงินจำนวนนี้จะถูกนำไปใช้ในการดูแลทีมชาติไทยทุกชุด ทั้งทีมชาติชุดใหญ่ชายและหญิง รวมถึงทีมเยาวชนทุกชุด ตลอดจนทีมฟุตซอล และทีมฟุตบอลชายหาด จึงต้องใช้งบประมาณมาก ดังนั้น ตนจึงเปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนมีส่วนร่วม และผู้บริจาคยังสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
ที่สำคัญ นโยบายของตนคือ ทางสมาคมฯจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้หมด สามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้ทุกอย่าง ไม่ใช่ว่าให้ผู้จัดการทีมชาติของแต่ละชุดเป็นคนออก ซึ่งผู้จัดการทีมชาติในยุคตนไม่จำเป็นที่จะต้องควักกระเป๋าในเรื่องการบริหารจัดการเหมือนที่แล้วมา แต่ใครจะให้เงินสนับสนุนนักฟุตบอลเป็นขวัญกำลังใจตามธรรมเนียมไทยก็แล้วแต่
พล.ต.อ.สมยศ ทิ้งท้ายว่า ทางสมาคมฯจะมีบัญชีธนาคารในแต่ละเรื่องไว้โดยเฉพาะ ทั้งบัญชีสำหรับรับบริจาค บัญชีรายรับจากสปอนเซอร์ บัญชีเงินที่ได้จากการสนับสนุนของฟีฟ่า ซึ่งทุกอย่างแยกกันชัดเจน และมีการแจกแจงอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งต่างจากสมัยก่อนที่เงินจะโอนเข้าบัญชีส่วนบุคคล
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *