“บิ๊กเจี๊ยบ” เชื่อไม่กระทบท่องเที่ยวพบซากสัตว์วัดหลวงตามหาบัว รับงบหนุนกีฬาอาจไม่พอ

“ธนะศักดิ์” เชื่อไม่กระทบการท่องเที่ยว หลังพบซากสัตว์ที่วัดป่าหลวงตามหาบัว รับวัดเก่งเลี้ยงเสือมากขนาดนี้ เตือนเป็นสัตว์ป่าอย่าชะล่าใจไม่ทำร้าย ชี้ความจริงควรให้รัฐดูแล มองสมาคมฟุตบอลเปิดบริจาคหนุนไทยไปบอลโลก คงอยากให้ ปชช.มีส่วนร่วม รับงบรัฐอาจไม่พอ ชี้หากยังไม่มีร้องเรียนยังถือเป็นเรื่องภายใน

วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่ทำเนียบฯ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลกระทบด้านการท่องเที่ยว จ.กาญจนบุรี หลังพบซากเสือ 40 ตัว และซากสัตว์อื่นๆ เมื่อเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าตรวจค้นวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน และมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ตามหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ มค.432/2559 ลงวันที่ 30 พ.ค.ว่า เชื่อว่าไม่กระทบด้านท่องเที่ยว เพราะเราบริหารจัดการในภาพใหญ่ และรัฐบาลได้ทำหน้าที่เป็นอย่างดีคือนำเสือมาดูแลให้ถูกที่ถูกทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานได้ไปดูแลอยู่แล้ว โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้รับดูแลเสือทั้งหมด

“ต้องยอมรับว่าทางวัดเก่งมากที่เลี้ยงเสือจำนวนมากขนาดนี้ และคงจะเลี้ยงมานานแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม หลายคนบอกว่าเสือในวัดไม่ทำอันตรายคน แต่อย่าชะล่าใจ เพราะเสือเป็นสัตว์ป่า มันมีสัญชาตญาณนักล่าตามธรรมชาติอยู่แล้ว” รองนายกฯ กล่าว

พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวด้วยว่า สำหรับการจัดระเบียบเสือที่เอกชนหรือวัดดูแลอยู่นั้น ความจริงควรนำมาให้รัฐดูแล แต่หลายแห่งเราปล่อยให้เอกชนดูแลมานานแล้วก็ต้องค่อยๆ บริหารจัดการไป เมื่อถามว่าจะมีการนำไปทำประโยชน์เพื่อการท่องเที่ยวหรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ความจริงที่ จ.เชียงใหม่ มีสวนเสืออยู่แล้ว และปัจจุบันก็มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมถึงให้คณะนักศึกษาสัตวแพทย์ได้เข้าดูแลและศึกษาด้วย

พล.อ.ธนะศักดิ์ยังกล่าวถึงกระแสต่อต้านกรณีสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยเปิดให้คนไทยร่วมบริจาคสนับสนุนโครงการฟุตบอลไทยไปบอลโลก ซึ่งมียอดบริจาคกว่า 30 ล้านบาทว่า เพิ่งทราบข่าวจากสื่อเหมือนกัน และยังไม่ได้มีการพูดคุย ส่วนตัวมองว่าสมาคมอาจต้องการให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม ความจริงกองทุนกีฬามีนโยบายให้เงินสนับสนุนสมาคมกีฬาทุกๆ สมาคมอยู่แล้วแต่อาจไม่เพียงพอ และจากนโยบายนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนนักกีฬาอาชีพที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศนอกเหนือจากนักกีฬาสมัครเล่นอยู่แล้วโดยการปรับระเบียบให้ถูกต้อง

เมื่อถามถึงปัญหาความไม่โปร่งใสของสมาคมกีฬา ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยจะเข้าไปดูแลอย่างไร พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ความจริงตัวการกีฬาฯเหมือนนายทะเบียนที่ดูเรื่องการเลือกตั้งนายกสมาคมและจดทะเบียนของสมาคมต่างๆ ให้ถูกต้อง และไม่เข้าไปแทรกแซงสมาคมต่างๆ ส่วนเงินของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้นั้นเป็นเรื่องของสมาคมที่ต้องพิจารณาตรวจสอบ แต่หากไม่มีการส่งเรื่องมาร้องเรียนก็ถือเป็นเรื่องภายใน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีรายงานการร้องเรียนมาแต่อย่างใด