ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - คงต้องเขียนถึงอย่างต่อเนื่อง สำหรับ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล เพราะฟอร์มกำลังร้อนแรงเหลือเกินหลังคว้าแชมป์ แอลพีจีเอ ทัวร์ มาครอง 2 รายการติดต่อกัน
เอรียา ปลดล็อคแชมป์แรกในชีวิตจากศึก “โยโกฮาม่า ไทร์ แอลพีจีเอ คลาสสิก” ซึ่งถือเป็นคนไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สร้างเกียรติยศระดับนี้ ไม่แค่นั้นสาวน้อยวัย 20 ปียังสอยแชมป์ที่ 2 ติดต่อกันทันทีจากรายการ “คิงส์มิลล์ แชมเปียนชิป” เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ทำให้ระยะเวลาแค่ 2 สัปดาห์นั้นโกยเงินไปแล้วเกือบ 14 ล้านบาท
เอรียา เผยว่าแชมป์ “คิงส์มิลล์ แชมเปียนชิป” ที่เฉือน ซู โอห์ จากออสเตรเลีย ไม่มีอาการตื่นเต้นจนกระทั่งพัตต์สุดท้าย คงเป็นเพราะประสบการณ์ผิดพลาดที่สั่งสมมาจนเป็นบทเรียน
ซึ่งถือเป็นเรื่องดีเพิ่มพูนความมั่นใจ เนื่องจากระหว่างวันที่ 9-12 มิถุนายนนี้เมเจอร์ที่ 2 ของปีคือ “เคพีเอ็มจี วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปียนชิป” กำลังจะมาเยือน โดยเมเจอร์แรก “เอเอ็นเอ อินสไปเรชัน” เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา “โปรเม” ก็เกือบชนะ แต่ดันพลาดเสียโบกี 3 หลุมสุดท้ายเสียแชมป์ให้ ลิเดีย โค จากนิว ซีแลนด์
แต่ก่อนหน้านั้นมีให้อุ่นเครื่องจับจังหวะอีก 2 รายการเริ่มตั้งแต่ “วอลวิก แชมเปียนชิป” ระหว่างวันที่ 26-29 พฤษภาคมนี้ ตามด้วย “ช็อปไรท์ แอลพีจีเอ คลาสสิก” ระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายน
ศึก “วอลวิก แชมเปียนชิป” ถือว่าน่าติดตามอย่างยิ่ง โดยชิงเงินรางวัลรวม 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 45.5 ล้านบาท) เพราะถือเป็นการลุ้นแชมป์ 3 รายการติดของ “โปรเม” ซึ่งหากทำได้สำเร็จจะต่อจาก ปาร์ค อินบี สาวโสมอดีตมือ 1 ของโลกที่ทำเอาไว้เมื่อปี 2013
จาก 2 แชมป์ดังกล่าวทำให้ เอรียา พุ่งขึ้นมารั้งมือ 13 ของโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นอีกแชมป์เดียวก็น่าจะทำให้เข้าไปติดท็อปเท็นเหมือนที่เคยตั้งเป้าเอาไว้ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามไม่ง่ายเลยสำหรับรายการ “วอลวิก แชมเปียนชิป” เพราะว่ามือระดับพระกาฬที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงลงครบครัน โดยทั้งหมดปีนี้ได้มาแล้ว 2 แชมป์ นำโดย ลิเดีย โค สาวน้อยจากนิว ซีแลนด์ มือ 1 ของโลก 2 แชมป์ติดต่อกันเหมือน เอรียา, จาง ฮา-นา จากเกาหลีใต้และ ฮารุ โนมูระ จากญี่ปุ่น
นอกจากนี้ยังมีบรรดาคนที่ได้แชมป์ในปี 2016 อีกเพียบทั้ง คิม ฮโย-จู จากเกาหลีใต้ ที่ซิวแชมป์แรกของฤดูกาล, คิม เซ ยอง จากแดนโสมเจ้าของ “รุคกี ออฟ เดอะ เยียร์” เมื่อปี 2015, เล็กซี ธอมป์สัน มือ 3 ของโลกจากสหรัฐอเมริกาและ มินจี ลี จากออสเตรเลีย
ที่เหลือก็ ชุน อิน จี, พอลลา ครีมเมอร์, มิเชล วี, ซูซานน์ เพ็ตเตอร์เซน, เรียว โซ ยอน, อซาฮารา มูยอซ, เอมี หยาง, บรู๊ก เฮนเดอร์สัน, เจิ้ง หยาหนี, ลอรา เดวีส์ และปัก เซ รี
รวมถึง ปาร์ค อินบี ที่กลับมาลงเล่นรายการนี้ หลังจากออกสตาร์ทปี 2016 ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บ ล่าสุดศึก “คิงส์มิลล์ แชมเปียนชิป” ก็ไม่ได้ลงเล่น กระนั้นก็ตามยังคงเจ็บที่หัวแม่มือซ้ายอยู่ ถือเป็นการทดสอบร่างกายก่อนกลับไปปรึกษาทีมแพทย์ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าอาจถอนตัวจากเมเจอร์ที่ 2 ของปี
อีกสิ่งที่น่าสนใจคือบรรดาโปรสาวแถวหน้าของโลกจะเล่นกันที่ ทราวิส พอยท์ คันทรี คลับ ระยะ 6,709 หลาพาร์ 72 สร้างเมื่อปี 1977 โดย บิลล์ นิวคอมบ์ สถาปนิกออกแบบสนามกอล์ฟชื่อก้องโลกตั้งอยู่ใน แอนน์ อาร์บอร์ เมืองในรัฐมิชิแกน
ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกที่อีเวนต์ “วอลวิก แชมเปียนชิป” ได้บรรจุอยู่ในปฎิทินของ แอลพีจีเอ ทัวร์ โดย “วอลวิก” เป็นบริษัทผลิตลูกกอล์ฟที่ตั้งอยู่ในเกาหลีใต้เซ็นสัญญาหนุนกันจนถึงปี 2018
ถือเป็นเรื่องดีของ เอรียา ที่จะได้ทดสอบตัวเองทั้งสภาพร่างกายและจิตใจปะทะกับบรรดานักกอล์ฟสาวมือพระกาฬของโลกบนสนามแห่งใหม่เพื่อเตรียมพร้อมล่าแชมป์เมเจอร์ที่ 2 ของปีอย่าง “เคพีเอ็มจี วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปียนชิป” รวมถึงเหรียญรางวัล โอลิมปิก เกมส์ 2016 ที่ ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล
เรื่อง สรเดช เพชรแสงใสกุล