สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยืนยันอย่างเป็นทางการเชิญ จอร์แดน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมอนเตเนโกร มาร่วมบู๊กับทัพ “ช้างศึก” ในรายการ คิงส์ คัพ ครั้งที่ 44 พร้อมตอบตกลงลัดฟ้าอุ่นเครื่องกับ กาตาร์ ก่อนประเดิมคัดบอลโลก
เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย เข้าประชุมกับคณะบริหารของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ณ ที่ทำการชั่วคราวของสมาคมฯ (อาคารชาญอิสระ 1) เพื่อหาข้อสรุปทีมที่จะเชิญมาร่วมแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ คัพ” ครั้งที่ 44 วันที่ 3 และ 5 มิถุนายน 2559 ตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์
ภายหลังการหารือ พล.ตท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เผยว่า ทางสมาคมฯได้มีข้อสรุปที่จะเชิญทีมชาติ จอร์แดน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และมอนเตเนโกร มาร่วมแข่งขันศึก คิงส์ คัพ ในรูปแบบน็อกเอาต์ โดย 2 ทีมแรกตอบรับแล้ว ส่วน มอนเตเนโกร อยู่ระหว่างส่งหนังสือตอบรับกลับไป โดยจะมาแทนทีมชาติโครเอเชีย ชุดบี เนื่องจากเราต้องการได้คะแนนฟีฟ่าเมื่อลงแข่งขันด้วย
พร้อมกันนี้ “บิ๊กเจี๊ยบ” กล่าวต่อว่า ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้ตอบรับคำเชิญจาก ทีมชาติกาตาร์ ที่ทาบทามทัพ “ช้างศึก” ไปอุ่นเครื่องถึงถิ่นแล้ว ในวันที่ 24 สิงหาคม นี้ โดยจะออกเดินทางวันที่ 20 สิงหาคม ซึ่งจะได้เป็นการเตรียมทีมก่อนประเดิมศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีม นัดแรก เยือน ซาอุดีอาระเบีย วันที่ 1 กันยายนต่อไป
ด้าน “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือช้างศึก กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่ได้ 3 ทีมดังกล่าวมาเล่นใน คิงส์ คัพ “ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะทั้ง 3 ทีมที่มามีคะแนนอันดับโลกมากกว่าไทยหมด ด้าน ยูเออี แม้จะอยู่ร่วมสายเดียวกับไทยในการคัดฟุตบอลโลก แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ซึ่งถือเป็นประโยชน์ของทั้ง 2 ทีมในการได้เจอกันก่อน ส่วน มอนเตเนโกร นั้นเป็นทีมสไตล์ยุโรป จะทำให้เราได้ลองใช้เกมนี้จำลองในการเจอกับ ออสเตรเลีย”
ขณะเดียวกัน กุนซือวัย 42 ปี ได้ทิ้งท้ายถึงสัญญาของตนเองว่า ตอนนี้ได้รับรายละเอียดสัญญาจากทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แล้ว โดยได้ให้ฝ่ายกฎหมายของตนตรวจสอบอยู่ คาดว่าไม่เกิน 2-3 วันน่าจะเรียบร้อย
สำหรับศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ คัพ” ครั้งที่ 44 ประจำปี 2559 จะฟาดแข้งนัดแรกวันที่ 3 มิถุนายน โดยผู้ชนะจะผ่านเข้าไปเล่นรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 5 มิถุนายน ซึ่งเบื้องต้น ทางสมาคมฯ ได้จองสนามราชมังคลากีฬาสถานไว้เป็นสังเวียนแล้ว
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *