กุส ฮิดดิงค์ กุนซือขัดตาทัพ เชลซี ยืนยันศักยภาพลูกทีมไม่ได้เป็นรอง แมนเชสเตอร์ ซิตี ตามผลการแข่งขันที่พ่ายไป 0-3 ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ คืนวันเสาร์ที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา แต่กลับพังเพราะเจอเกมโต้กลับเล่นงาน
แฮตทริกของ เซร์คิโอ อกูเอโร ดาวยิงอาร์เจนไตน์ ทำให้ ฮิดดิงค์ ปราชัยย่อยยับสุด ในฐานะผู้จัดการทีมชั่วคราว “สิงโตน้ำเงินคราม” ตลอด 2 ฤดูกาล และสถานการณ์กำลังย่ำแย่ ชนะ 1 จาก 7 เกมล่าสุด รวมทุกรายการ
“เอล กุน” ปิดสกอร์ 2 ลูก จากเกมโต้กลับที่มี เควิน เดอ บรุยน์ เพลย์เมกเกอร์ชาวเบลเยียม เป็นจุดเริ่มต้น แถมยังโดดเด่นเกมที่กลับมาเยือน “สิงห์บลูส์” ครั้งแรก นับตั้งแต่ถูกปล่อยตัวให้ โวล์ฟสบวร์ก ค่าตัว 18 ล้านปอนด์ (ประมาณ 990 ล้านบาท) เดือนมกราคม ปี 2014
ซ้ำร้าย ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน ยังเสีย ธิโบต์ คูร์ตัวส์ นายทวารหมายเลข 1 ที่โดนใบแดงข้อหาทำฟาวล์ แฟร์นันดินโญ เสียจุดโทษ และเป็น อดีตนักเตะ แอตเลติโก มาดริด สังหารประตูที่ 3 ของเกม
อดีตนายใหญ่ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ กล่าว “เราเล่นพลาดกันเอง เราคุมเกมได้ครึ่งแรก เราถูกเตือน 2 ครั้งว่า พวกเขามีเกมโต้กลับที่อันตราย และเราเสียประตูจากจังหวะที่เราเล่นลูกเตะมุม”
“ประตูที่ 2 ก็คล้ายๆ กัน ซึ่งหมายถึงเราคุมเกมได้ถึงแม้เราไม่มีความเฉียบขาดที่จะปิดบัญชี หากคุณตามหลังทีมที่มีประสบการณ์สูงอยู่ 0-2 ยากเหลือเกินที่จะกลับสู่เกม เหนือสิ่งอื่นใด เรามีผู้เล่นโดนใบแดง มันยิ่งเลวร้ายหนักขึ้นอีก”
“มันเป็นความพ่ายแพ้ที่แสนสาหัส เพราะอย่างแรกเราเจอกับทีมที่แข็งแกร่ง พวกเขาพิสูจน์แล้วว่า พวกเขาไปถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายของ ฟุตบอลสโมสรยุโรป สกอร์ 0-3 ดูเหมือนจะขาดลอย แต่เราไม่ได้แพ้ที่รูปเกม แต่เป็นการโต้กลับที่เฉียบขาด 3 ครั้ง”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
