คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ใกล้เข้ามาทุกขณะกับการแข่งขัน “กีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ” โอลิมปิก 2016 โดยปีนี้บราซิลรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ในรายการ ริโอ 2016 วงการกีฬาต่างๆ ก็จัดการแข่งขันรอบคัดเลือกกันจ้าละหวั่นเพื่อเฟ้นผู้ที่จะได้ไปแสดงฝีมือ รวมทั้งมวยสากลสมัครเล่นที่เป็นความหวังเหรียญทองของไทยมาทุกสมัยด้วย
โดยทีมมวยไทยก่อนหน้านี้ได้โควตาไปแล้ว 1 ใบจาก “เจ้าเอ็ม” วุฒิชัย มาสุข จากรายการชิงแชมป์โลก มารายการคัดเลือกโอลิมปิกโซนเอเชีย-โอเชียเนีย ซึ่งจัดที่เมืองเฉียงอัน สาธารณรัฐประชาชนจีน ทัพมวยไทยส่งนักกีฬาชุดใหญ่ไป 8 คน เป็นชาย 6 รุ่น หญิง 2 รุ่น ตั้งความหวังว่าน่าจะได้ตั๋วไปซัก 3-4 ใบ ปรากฏว่าพอเริ่มรายการ นักชกไทยก็พลาดท่าร่วงไปตั้งแต่รอบ 16 คนสุดท้ายซะหลายรุ่น เริ่มจาก ธเนศ องค์จันต๊ะ พ่ายให้กับนักชกเติร์กเมนิสถานร่วงไปก่อนในรุ่นฟลายเวท
ตามมาติดๆ ในรุ่นไลท์เวท ปชัญญะ หลงชิน หรือ “ซูเปอร์แบงค์ ม.รัตนบัณฑิต” นักมวยไทยค่าตัวเรือนแสนที่ยอมทิ้งรายได้จากมวยไทยมาไต่ฝันโอลิมปิก พลาดท่าให้กับนักชกเมืองโรตีอินเดียในรอบ 16 คนสุดท้ายเหมือนกัน ใหญ่ขึ้นมารุ่นมิดเดิลเวท อภิสิทธิ์ ขันโคกเครือ ก็เสร็จนักชกมองโกเลียไปในรอบ 16 คนสุดท้าย แถมนักชกรุ่นใหญ่เราอย่าง อนวัช ทองกระโทก ในรุ่นไลท์เฮฟวีเวทน้ำหนัก 81 กิโลกรัม ก็พ่ายนักชกคีร์กิซถานไปตามคาดในรอบ 16 คน ต้องไปลุ้นในสนามที่ 3 ในรายการคัดเลือกโอลิมปิกโดยเฉพาะช่วงกลางปีนี้ที่เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจันกันต่อไป
นักมวยสาว เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยมในรุ่นฟลายเวท รอบ 16 คนสุดท้ายอุตส่าห์เอาชนะนักชกสาวออสเตรเลียไปได้ แต่พอรอบ 8 คนก็พลาดท่าพ่ายนักชกไต้หวันร่วงไปอีก ขยับมารุ่นไลท์เวท ทัศมาลี ทองจันทร์ รอบ 16 คนโชว์ฟอร์มสวยงามเอาชนะคะแนนมือวางอันดับ 2 ในรายการจากเกาหลีใต้ไปได้ชนิดคะแนนไปคนละทาง กรรมการ 2 คนให้เสมอ 38-38 แต่ให้เราชนะคะแนนดิบ ส่วนอีกคนให้เราพ่ายขาดลอย 36-40 สุดท้ายเราชนะไป 2-1 เสียง แต่พอมารอบรองชนะเลิศกลับพ่ายนักชกออสเตรเลีย ชวดตั๋วไปริโออย่างน่าเสียดาย เพราะสำหรับประเภทหญิงนี่เขามีโควตาแค่ 2 ที่สำหรับคู่ชิงชนะเลิศเท่านั้น
แต่กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี นักชกไทย 2 รายกู้หน้าสร้างชื่อคว้าโควตาโอลิมปิกมาให้แฟนๆ ได้เฮกันจนได้ โดยในรุ่นแบนตัมเวทชาย “เจ้าสด” ฉัตรชัย บุตรดี นักชกอันดับ 7 ของโลกในรุ่นนี้ และเป็นมือวางอันดับ 2 ของรายการ ฝ่าฟันคู่ชกจากนิวซีแลนด์, คีร์กิซถาน และฟิลิปปินส์ เข้าชิงชนะเลิศกับนักชกจากอินเดียอันดับ 6 ของโลกและมือวางอันดับ 1 ของรายการ ซึ่ง “เจ้าสด” ก็โชว์ฟอร์มสดสมชื่อเอาชนะพี่บังคว้าแชมป์มาได้สำเร็จได้ไปโอลิมปิกอย่างยิ่งใหญ่
ตามมาติดๆ ด้วยจอมเก๋า สายลม อาดี ในรุ่นเวลเตอร์เวท ไล่ทุบคู่ชกจากอินเดียและซีเรีย เข้าตัดเชือกกับนักชกจากมองโกเลีย ซึ่งเป็นมือวางอันดับ 2 ในรายการ อันดับ 13 ของโลก ปรากฏว่า สายลม ดีกรีอันดับ 47 ของโลกพลิกเอาชนะไป ได้เข้าชิงชนะเลิศพร้อมคว้าตั๋วโอลิมปิกใบที่ 2 ในรายการนี้ของทัพไทยทันที แม้ว่าในรอบชิงจะพ่ายนักชกนักชกจากอุซเบกิสถาน แต่สายลมก็เตรียมไปโอลิมปิกครั้งที่ 3 ของตัวเองได้แล้ว แฟนๆ ก็รอเชียร์นักชกไทยในรายการคัดเลือกโอลิมปิกสนามต่อไปช่วงกลางปีอย่างที่ว่า แล้วปลายปีมาลุ้นกันต่อว่าใครจะเป็น “ฮีโร่” ไปลุยโอลิมปิกคนถัดไปของเรา
ใกล้เข้ามาทุกขณะกับการแข่งขัน “กีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ” โอลิมปิก 2016 โดยปีนี้บราซิลรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ในรายการ ริโอ 2016 วงการกีฬาต่างๆ ก็จัดการแข่งขันรอบคัดเลือกกันจ้าละหวั่นเพื่อเฟ้นผู้ที่จะได้ไปแสดงฝีมือ รวมทั้งมวยสากลสมัครเล่นที่เป็นความหวังเหรียญทองของไทยมาทุกสมัยด้วย
โดยทีมมวยไทยก่อนหน้านี้ได้โควตาไปแล้ว 1 ใบจาก “เจ้าเอ็ม” วุฒิชัย มาสุข จากรายการชิงแชมป์โลก มารายการคัดเลือกโอลิมปิกโซนเอเชีย-โอเชียเนีย ซึ่งจัดที่เมืองเฉียงอัน สาธารณรัฐประชาชนจีน ทัพมวยไทยส่งนักกีฬาชุดใหญ่ไป 8 คน เป็นชาย 6 รุ่น หญิง 2 รุ่น ตั้งความหวังว่าน่าจะได้ตั๋วไปซัก 3-4 ใบ ปรากฏว่าพอเริ่มรายการ นักชกไทยก็พลาดท่าร่วงไปตั้งแต่รอบ 16 คนสุดท้ายซะหลายรุ่น เริ่มจาก ธเนศ องค์จันต๊ะ พ่ายให้กับนักชกเติร์กเมนิสถานร่วงไปก่อนในรุ่นฟลายเวท
ตามมาติดๆ ในรุ่นไลท์เวท ปชัญญะ หลงชิน หรือ “ซูเปอร์แบงค์ ม.รัตนบัณฑิต” นักมวยไทยค่าตัวเรือนแสนที่ยอมทิ้งรายได้จากมวยไทยมาไต่ฝันโอลิมปิก พลาดท่าให้กับนักชกเมืองโรตีอินเดียในรอบ 16 คนสุดท้ายเหมือนกัน ใหญ่ขึ้นมารุ่นมิดเดิลเวท อภิสิทธิ์ ขันโคกเครือ ก็เสร็จนักชกมองโกเลียไปในรอบ 16 คนสุดท้าย แถมนักชกรุ่นใหญ่เราอย่าง อนวัช ทองกระโทก ในรุ่นไลท์เฮฟวีเวทน้ำหนัก 81 กิโลกรัม ก็พ่ายนักชกคีร์กิซถานไปตามคาดในรอบ 16 คน ต้องไปลุ้นในสนามที่ 3 ในรายการคัดเลือกโอลิมปิกโดยเฉพาะช่วงกลางปีนี้ที่เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจันกันต่อไป
นักมวยสาว เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยมในรุ่นฟลายเวท รอบ 16 คนสุดท้ายอุตส่าห์เอาชนะนักชกสาวออสเตรเลียไปได้ แต่พอรอบ 8 คนก็พลาดท่าพ่ายนักชกไต้หวันร่วงไปอีก ขยับมารุ่นไลท์เวท ทัศมาลี ทองจันทร์ รอบ 16 คนโชว์ฟอร์มสวยงามเอาชนะคะแนนมือวางอันดับ 2 ในรายการจากเกาหลีใต้ไปได้ชนิดคะแนนไปคนละทาง กรรมการ 2 คนให้เสมอ 38-38 แต่ให้เราชนะคะแนนดิบ ส่วนอีกคนให้เราพ่ายขาดลอย 36-40 สุดท้ายเราชนะไป 2-1 เสียง แต่พอมารอบรองชนะเลิศกลับพ่ายนักชกออสเตรเลีย ชวดตั๋วไปริโออย่างน่าเสียดาย เพราะสำหรับประเภทหญิงนี่เขามีโควตาแค่ 2 ที่สำหรับคู่ชิงชนะเลิศเท่านั้น
แต่กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี นักชกไทย 2 รายกู้หน้าสร้างชื่อคว้าโควตาโอลิมปิกมาให้แฟนๆ ได้เฮกันจนได้ โดยในรุ่นแบนตัมเวทชาย “เจ้าสด” ฉัตรชัย บุตรดี นักชกอันดับ 7 ของโลกในรุ่นนี้ และเป็นมือวางอันดับ 2 ของรายการ ฝ่าฟันคู่ชกจากนิวซีแลนด์, คีร์กิซถาน และฟิลิปปินส์ เข้าชิงชนะเลิศกับนักชกจากอินเดียอันดับ 6 ของโลกและมือวางอันดับ 1 ของรายการ ซึ่ง “เจ้าสด” ก็โชว์ฟอร์มสดสมชื่อเอาชนะพี่บังคว้าแชมป์มาได้สำเร็จได้ไปโอลิมปิกอย่างยิ่งใหญ่
ตามมาติดๆ ด้วยจอมเก๋า สายลม อาดี ในรุ่นเวลเตอร์เวท ไล่ทุบคู่ชกจากอินเดียและซีเรีย เข้าตัดเชือกกับนักชกจากมองโกเลีย ซึ่งเป็นมือวางอันดับ 2 ในรายการ อันดับ 13 ของโลก ปรากฏว่า สายลม ดีกรีอันดับ 47 ของโลกพลิกเอาชนะไป ได้เข้าชิงชนะเลิศพร้อมคว้าตั๋วโอลิมปิกใบที่ 2 ในรายการนี้ของทัพไทยทันที แม้ว่าในรอบชิงจะพ่ายนักชกนักชกจากอุซเบกิสถาน แต่สายลมก็เตรียมไปโอลิมปิกครั้งที่ 3 ของตัวเองได้แล้ว แฟนๆ ก็รอเชียร์นักชกไทยในรายการคัดเลือกโอลิมปิกสนามต่อไปช่วงกลางปีอย่างที่ว่า แล้วปลายปีมาลุ้นกันต่อว่าใครจะเป็น “ฮีโร่” ไปลุยโอลิมปิกคนถัดไปของเรา