คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ตามธรรมเนียมเมื่อใกล้ช่วงสิ้นปีก็จะต้องย้อนรำลึกถึงปีที่ผ่านมาว่าวงการ “ไฟต์คลับ” ของเรามีอะไรที่น่าจดจำบ้าง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นมุมมองส่วนตัวของผมนะครับ แฟนๆ อาจจะช่วยกันนึกตามไปด้วยก็ได้ว่าแต่ละท่านประทับใจอะไรในวงการศิลปะการต่อสู้ในปีที่ผ่านมากันบ้าง
สะใจที่สุด - วงการต่อสู้ก็ต้องว่ากันที่ความสะใจที่สุดในปีที่ผ่านมากันก่อน มี 2 ไฟต์ที่ติดอันดับ จากไฟต์ที่ “ดำดอทคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ กลับมาโชว์ฟอร์มเทพในรายการ “คุนหลุนไฟต์” แจกหมัดเท้าเข่าศอกอุตลุดจนนักชกจีนจอมซ่า “กูฮุย” ที่ออกลีลายียวนกวนประสาทมาตลอดกระเด็นกระดอนไปมา ก่อนเอาชนะไปแบบสะใจคอซาดิสม์ แต่ถ้าดูความยิ่งใหญ่แล้วต้องยกให้ไฟต์เมื่อต้นปีเมื่อแชมป์โลกจอมฝีมือของเรา “เจ้าเพชร” อำนาจ เกษตรพัฒนา ระเบิดศึกใหญ่กับมวยสร้างตัวความหวังของค่ายท็อปแรงค์ของลุงบ็อบ อารัม ที่หวังเปิดตลาดจีนฟันเงินกันให้บันเทิงอย่าง “ไอ้มังกรหมัดสิงโต” ซู ซิหมิง ก่อนชกหน้าเสื่อเราเป็นรองเยอะ แถมต้องไปชกถึงมาเก๊าที่ถือเป็นถิ่นของเขา ปรากฏว่าแชมป์โลกชาวไทยทำการบ้านไปดี วางเกมการชกสร้างความอึดอัดให้กับตี๋หนุ่มตลอดเวลาจนทำอะไรไม่ถนัด แถมถูก อำนาจ ชิงออกหมัดเก็บคะแนนไปไกลสุดกู่เอาชนะคะแนนไปแบบสะใจแฟนมวยชาวไทยที่สุด
ลุ้นที่สุด - ความตื่นเต้นของกีฬาศิลปะการต่อสู้ก็ต้องมาจากการลุ้น และลุ้นที่สุดแห่งปีก็ต้องยกให้โควตาโอลิมปิก “ริโอ 2016” โควตาแรกที่ “เจ้าเอ็ม” วุฒิชัย มาสุข ไปคว้ามาได้จากรายการชิงแชมป์โลกที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ก่อนไปสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยก็รู้ว่ารายการนี้เสือสิงห์กระทิงแรดทั้งสิ้น เพราะรวมนักชกมือดีจากทั่วโลก แต่ก็แอบหวังไว้ว่าน่าจะคว้าตั๋วไปบราซิลมาได้ซัก 1-2 ใบ พอเริ่มรายการนักชกไทยก็ทยอยร่วงไปทีละคนๆ สุดท้ายเหลือ “เจ้าเอ็ม” ฝ่าฟันไปถึงรอบรองชนะเลิศ ถ้าชนะเข้าชิงก็คว้าตั๋วในมือทันที ถ้าแพ้ต้องชิงที่ 3 เพราะโควตาในรุ่นไลท์เวลเตอร์เวทนี้มี 3 ที่ ปรากฏว่านักชกไทยแพ้ในรอบรองต้องมาลุ้นกันอีกไฟต์ในรอบชิงที่ 3 เจอกระดูกชิ้นโตจากคิวบา แต่ก่อนชกนักชกคิวบามีอาการอาหารเป็นพิษ ต้องถอนตัวยกสิทธิ์ให้นักชกไทยแบบผู้สื่อข่าวและแฟนมวยต้องตามเช็คข่าวอุตลุดว่า “มีอย่างนี้ด้วยหรือ” ก็ต้องถือว่าลุ้นที่สุด
รวยที่สุด - อันนี้ไม่เกี่ยวกับนักมวยไทย แต่แฟนมวยที่ติดตามก็คงพอเดาได้ว่าตำแหน่งนี้ต้องยกให้ “นักชกไร้พ่าย” ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ ที่ขึ้นสังเวียนไฟต์ที่ 49 ตามที่ประกาศไว้ว่าจะเป็นไฟต์สุดท้าย และหลังการเจรจาต่อรองกันอยู่นานก็ยอมระเบิดศึกหมื่นล้านกับยอดมวยเอเชียอย่าง “แพ็คแมน” แมนนี ปาเกียว ที่แคล้วคลาดกันมาหลายปีจนเกือบจะไม่ได้เจอกัน โดยไฟต์นี้ ฟลอยด์ อาศัยบารมีและอำนาจต่อรองที่เหนือกว่าเรียกค่าตัวมหาศาล ทั้งส่วนแบ่งค่าตัวที่สูงกว่า ส่วนแบ่งค่าขาย เพย์-เพอร์-วิว ที่สูงกว่า รวมๆ แล้วฟันเงินไฟต์เดียวกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนขึ้นสังเวียนไปวิ่งวนหลอกล่อให้ ปาเกียว ที่สภาพไม่เหมือนเดิมแล้ว และมีอาการเจ็บไหล่ด้วย เดินไล่ชกลมวืดวาดไปมา สุดท้าย ฟลอยด์ ก็ชนะคะแนนไปในไฟต์นี้แบบน่าได้รางวัล “น่าเบื่อที่สุด” แถมไปอีกรายการด้วย แต่รวยสะดือปลิ้น
สัปดาห์นี้ว่ากัน 3 ที่สุดก่อน สัปดาห์หน้าส่งท้ายปีเก่าจริงๆ ค่อยมาต่อกันอีกรอบนะครับ แฟนๆ ก็นึกกันไปพลางๆ ก่อนก็ได้ว่าจะมีอะไรที่สุดอีก
ตามธรรมเนียมเมื่อใกล้ช่วงสิ้นปีก็จะต้องย้อนรำลึกถึงปีที่ผ่านมาว่าวงการ “ไฟต์คลับ” ของเรามีอะไรที่น่าจดจำบ้าง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นมุมมองส่วนตัวของผมนะครับ แฟนๆ อาจจะช่วยกันนึกตามไปด้วยก็ได้ว่าแต่ละท่านประทับใจอะไรในวงการศิลปะการต่อสู้ในปีที่ผ่านมากันบ้าง
สะใจที่สุด - วงการต่อสู้ก็ต้องว่ากันที่ความสะใจที่สุดในปีที่ผ่านมากันก่อน มี 2 ไฟต์ที่ติดอันดับ จากไฟต์ที่ “ดำดอทคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ กลับมาโชว์ฟอร์มเทพในรายการ “คุนหลุนไฟต์” แจกหมัดเท้าเข่าศอกอุตลุดจนนักชกจีนจอมซ่า “กูฮุย” ที่ออกลีลายียวนกวนประสาทมาตลอดกระเด็นกระดอนไปมา ก่อนเอาชนะไปแบบสะใจคอซาดิสม์ แต่ถ้าดูความยิ่งใหญ่แล้วต้องยกให้ไฟต์เมื่อต้นปีเมื่อแชมป์โลกจอมฝีมือของเรา “เจ้าเพชร” อำนาจ เกษตรพัฒนา ระเบิดศึกใหญ่กับมวยสร้างตัวความหวังของค่ายท็อปแรงค์ของลุงบ็อบ อารัม ที่หวังเปิดตลาดจีนฟันเงินกันให้บันเทิงอย่าง “ไอ้มังกรหมัดสิงโต” ซู ซิหมิง ก่อนชกหน้าเสื่อเราเป็นรองเยอะ แถมต้องไปชกถึงมาเก๊าที่ถือเป็นถิ่นของเขา ปรากฏว่าแชมป์โลกชาวไทยทำการบ้านไปดี วางเกมการชกสร้างความอึดอัดให้กับตี๋หนุ่มตลอดเวลาจนทำอะไรไม่ถนัด แถมถูก อำนาจ ชิงออกหมัดเก็บคะแนนไปไกลสุดกู่เอาชนะคะแนนไปแบบสะใจแฟนมวยชาวไทยที่สุด
ลุ้นที่สุด - ความตื่นเต้นของกีฬาศิลปะการต่อสู้ก็ต้องมาจากการลุ้น และลุ้นที่สุดแห่งปีก็ต้องยกให้โควตาโอลิมปิก “ริโอ 2016” โควตาแรกที่ “เจ้าเอ็ม” วุฒิชัย มาสุข ไปคว้ามาได้จากรายการชิงแชมป์โลกที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ก่อนไปสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยก็รู้ว่ารายการนี้เสือสิงห์กระทิงแรดทั้งสิ้น เพราะรวมนักชกมือดีจากทั่วโลก แต่ก็แอบหวังไว้ว่าน่าจะคว้าตั๋วไปบราซิลมาได้ซัก 1-2 ใบ พอเริ่มรายการนักชกไทยก็ทยอยร่วงไปทีละคนๆ สุดท้ายเหลือ “เจ้าเอ็ม” ฝ่าฟันไปถึงรอบรองชนะเลิศ ถ้าชนะเข้าชิงก็คว้าตั๋วในมือทันที ถ้าแพ้ต้องชิงที่ 3 เพราะโควตาในรุ่นไลท์เวลเตอร์เวทนี้มี 3 ที่ ปรากฏว่านักชกไทยแพ้ในรอบรองต้องมาลุ้นกันอีกไฟต์ในรอบชิงที่ 3 เจอกระดูกชิ้นโตจากคิวบา แต่ก่อนชกนักชกคิวบามีอาการอาหารเป็นพิษ ต้องถอนตัวยกสิทธิ์ให้นักชกไทยแบบผู้สื่อข่าวและแฟนมวยต้องตามเช็คข่าวอุตลุดว่า “มีอย่างนี้ด้วยหรือ” ก็ต้องถือว่าลุ้นที่สุด
รวยที่สุด - อันนี้ไม่เกี่ยวกับนักมวยไทย แต่แฟนมวยที่ติดตามก็คงพอเดาได้ว่าตำแหน่งนี้ต้องยกให้ “นักชกไร้พ่าย” ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์ จูเนียร์ ที่ขึ้นสังเวียนไฟต์ที่ 49 ตามที่ประกาศไว้ว่าจะเป็นไฟต์สุดท้าย และหลังการเจรจาต่อรองกันอยู่นานก็ยอมระเบิดศึกหมื่นล้านกับยอดมวยเอเชียอย่าง “แพ็คแมน” แมนนี ปาเกียว ที่แคล้วคลาดกันมาหลายปีจนเกือบจะไม่ได้เจอกัน โดยไฟต์นี้ ฟลอยด์ อาศัยบารมีและอำนาจต่อรองที่เหนือกว่าเรียกค่าตัวมหาศาล ทั้งส่วนแบ่งค่าตัวที่สูงกว่า ส่วนแบ่งค่าขาย เพย์-เพอร์-วิว ที่สูงกว่า รวมๆ แล้วฟันเงินไฟต์เดียวกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนขึ้นสังเวียนไปวิ่งวนหลอกล่อให้ ปาเกียว ที่สภาพไม่เหมือนเดิมแล้ว และมีอาการเจ็บไหล่ด้วย เดินไล่ชกลมวืดวาดไปมา สุดท้าย ฟลอยด์ ก็ชนะคะแนนไปในไฟต์นี้แบบน่าได้รางวัล “น่าเบื่อที่สุด” แถมไปอีกรายการด้วย แต่รวยสะดือปลิ้น
สัปดาห์นี้ว่ากัน 3 ที่สุดก่อน สัปดาห์หน้าส่งท้ายปีเก่าจริงๆ ค่อยมาต่อกันอีกรอบนะครับ แฟนๆ ก็นึกกันไปพลางๆ ก่อนก็ได้ว่าจะมีอะไรที่สุดอีก