วันนี้เฮียแกมาแปลก!....เพราะทันทีที่แกพัตต์ลูกลงหลุมสุดท้าย…ก็นั่งลงถอดรองเท้า เดินเท้าเปล่าลงกรีน….มุ่งตรงไปขึ้นคลับเฮาส์ โดยมีไอ้เก่งของเราเดินตามไปอย่างงงๆ
“ก็ไม่มีอะไรหรอกหมอ” เฮียชูแก้ข้อสงสัย “หมอจีนเค้าเชื่อว่าคนเราควรเดินเท้าเปล่าบนพื้นดินพื้นหญ้าบ้าง จะได้อายุยืนไม่เจ็บไข้ง่าย” เฮียขยายความในห้องอาหาร
ตำราแพทย์แผนจีนแนะนำให้ลองเดินเท้าเปล่าแบบพระดูบ้าง เพื่อปล่อยไฟฟ้าสถิตในร่างกายลงดินเพื่อสุขภาพที่ดี…ทั้งนี้เพราะบรรดาเครื่องใช้ต่างๆในบ้าน เช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ทีวี ตู้เย็น กระติกน้ำร้อน เป็นสาเหตุของไฟฟ้าสถิตในตัวเรา
เคยไหม! บางครั้งเวลาเราไปแตะอะไรที่เป็นโลหะ เช่น รั้วบ้าน ประตูรถ รถเข็นซุปเปอร์มาร์เก็ต แล้วรู้สึกเหมือนโดนไฟฟ้าช็อต…นั่นเป็นเพราะร่างกายของเราสะสมไฟฟ้าสถิตไว้มากเกินไปนั่นเอง ดังนั้นเรามาปล่อยไฟฟ้าสถิตจากตัวเราลงดินกันเถอะ
หมอจีนผู้หนึ่งซึ่งอพยพไปอยู่อเมริกา เล่าว่า “ประธานบริษัทข้ามชาติผู้หนึ่งเป็นโรคนอนไม่หลับมานานหลายปี ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปหาหมอที่ว่าเก่งปีละหลายล้านเหรียญ แต่ก็ไม่หาย ต้องนอนลืมตาทรมานในห้องนอนอันแสนสวยทุกคืน
บัญเอิญลูกชายเขามีโอกาสไปฟังบรรยายของ Dr.Christopher เกี่ยวกับธรรมชาติบำบัด ซึ่งเน้นให้คนเราต้องสัมผัสพื้นดินเพื่อปลดปล่อยประจุไฟฟ้าสถิตออกจากร่างกาย
ลูกชายจึงพาคุณพ่อเดินเท้าเปล่าบนสนามหญ้าที่นิ่มและชื้นวันละ 10 นาที ปรากฏว่าไม่นาน ท่านประธานก็นอนหลับสบายตลอดคืน ตื่นขึ้นมาจึงมีอารมณ์สดชื่น เพราะร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่
ร่างกายคนเรานั้นประกอบด้วยธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งทุกอย่างต้องได้สมดุลจึงจะมีสุขภาพดี แข็งแรง
แต่เมืองที่ทันสมัยนั้นเต็มไปด้วยถนนลาดยาง ถนนคอนกรีต พื้นกระเบื้อง ซึ่งล้วนเป็นวัตถุฉนวน ประกอบกับยางล้อรถยนต์ที่เรานั่ง รองเท้ายางเทียมที่สวมใส่ คนสมัยใหม่จึงใช้ชีวิตโดยไม่ได้สัมผัสกับพื้นดินเลยตลอดทั้งวันก็ว่าได้ ดังนั้นในแต่ละวันถ้าเราได้ลงเดินเท้าเปล่าบนสนามหญ้านุ่มๆ พื้นดิน ผิวลุกรัง หรือทรายบนชายหาด ที่เป็นพื้นธรรมชาติแท้ๆจะดีที่สุด โดยเฉพาะผู้ป่วย ยิ่งต้องสัมผัสกับธรรมชาติให้มากๆ
“เก่งจะลองไปถอดรองเท้าเดินดูบ้างนะครับ…เผื่อพุงจะได้ลดลงบ้าง!?
“เออ…ลองดูก็ได้นี่เก่ง ไม่เสียหลาย เผื่อจะได้ผล ตำราแพทย์จีนนี่อธิบายยากแต่ดูถูกไม่ได้นะ อย่างฝังเข็มนี่ก็ได้ผลดีหลายโรค แต่เดินถอดรองเท้านี่ต้องดูตาม้าตาเรือให้ดีนะ อย่าไปเหยียบเศษแก้ว ตะปู หรือขี้หมาเข้าล่ะ!...ขอเตือนไว้ก่อนนะ…เดินในกทม.เนี่ย!”