“เรือใบ” ในวันคลื่นแรง ตอบจบที่ยากจะคาดเดา

เอเยนซี - ดังที่ได้ทราบไปแล้วจากการประโคมข่าวใหญ่ของสื่อทุกสำนักว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะโยกมาคุมถิ่น เอติฮัด สเตเดียม ฤดูกาลหน้า แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ดูเหมือนว่าภารกิจที่จะมารับนั้นหนักหนาไม่น้อย

ศึกดาร์บีแมตช์ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา แมนฯซิตี ภายใต้การคุมทัพของ มานูเอล เปเยกรินี แพ้คาถิ่นแก่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1 จากการยิงของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำให้ "เรือใบสีฟ้า" เริ่มระส่ำกับการรักษาตั๋ว ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก โดยเวลานี้รั้งอันดับ 4 มี 51 แต้มจาก 30 นัดถูก เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด กับ "ผีแดง" หายใจรดต้นคอเหลือตามหลังแต้มเดียวเมื่อเหลือโปรแกรม 8 นัด ส่วนแชมป์นั้นยากแล้วตามจ่าฝูง เลสเตอร์ ซิตี 15 แต้มแม้แข่งน้อยกว่า 1 นัดก็ตาม

ดังนั้นดูไม่จืดแน่นอนสำหรับ เป๊ป ที่คว้าแชมป์มานับไม่ถ้วนกับ บาร์เซโลนา และ บาเยิร์น มิวนิค ถ้าต้องมาคุม แมนฯซิตี ลุยศึก ยูโรปา ลีก ฤดูกาลหน้า

อลัน เชียเรอร์ ตำนานดาวยิงทีมชาติอังกฤษกับของสโมสร นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด กล่าวกับรายการ "แมตช์ ออฟ เดอะ เดย์" ว่า "คุณคิดว่าเขาระบุเอาไว้ในสัญญาหรือไม่ เพราะผมแน่ใจว่าคงไม่อยากเซ็นมาคุมทีมลุยศึก ยูโรปา ลีก กุนซือระดับ เป๊ป ต้องได้เล่น แชมเปียนส์ ลีก เท่านั้น ดังนั้นถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับ แมนฯซิตี"

กระนั้นก็ตาม เป๊ป คงไม่คืนคำด้วยการปัดมารับงานคุม แมนฯซิตี แต่คงจะต้องปรับทัพขนานใหญ่ โดย แดนนี เมอร์ฟีย์ อดีตมิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล ที่ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ เชียเรอร์ เสริมว่า "ทีมมีผู้เล่นฝีเท้าดีรวมถึงประสบการณ์ แต่กลับทำออกมาได้ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็น 2 กองกลาง ดาบิด ซิลบา กับ ยายา ตูเร รวมถึง แวงซองต์ กอมปานี กองหลังกัปตันทีม ส่วน เซร์คิโอ อกูเอโร กองหน้าคนสำคัญก็เจ็บไปช่วงกลางซีซัน แถมการเสริมทัพช่วง 2 ปีหลังนั้นไม่เข้าตาเลยด้วย"

หลังเกมสื่อถาม เปเยกรินี ถึงการที่ เป๊ป จะมาคุมทีมต่อในฤดูกาลหน้าเป็นเหตุให้นักเตะสูญเสียแรงกระตุ้นหรือไม่ ซึ่งอดีตนายใหญ่ บียาร์ริล, รีล มาดริด และ มาลากา กล่าวว่า "ผมไม่คิดเช่นนั้น ทัศนคติและความมุ่งมั่นของผู้เล่นในวันนี้สะท้อนสิ่งที่ต้องการจะทำ แน่นอนไม่ได้เป็นแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับการปิดซีซันนี้ แต่ผมภูมิใจในตัวทุกคน ทุกฤดูกาลนั้นย่อมแตกต่างกันอยู่แล้ว ดังนั้นคุณควรถามถึงเกมกับ แมนฯยูไนเต็ด มากกว่า"

ก่อนหน้านี้ แมนฯซิตี เสีย เควิน เดอ บรุยน์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียมเจ็บเข่าตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา รวมถึง 2 กองกลางคือ ซาเมียร์ นาสรี กับ ฟาเบียน เดลฟ์ เกมแพ้ แมนฯยู ก็ไม่มี กอมปานี กับ นิโคลัส โอตาเมนดี (แนวรับ) ที่เจ็บ ล่าสุดยังเสีย โจ ฮาร์ท (ผู้รักษาประตู) กับ ราฮีม สเตอร์ลิง (แนวรุก) ที่เจ็บน่องกับกล้ามเนื้อตามลำดับต้องพักยาว 1 เดือน

ลองไปดูโปรแกรม พรีเมียร์ ลีก 8 นัดที่เหลือของ แมนฯซิตี ไล่ตามนี้หลังกลับจากเบรกโปรแกรม ฟีฟา เดย์ คือพบ บอร์นมัธ, เวสต์ บรอมวิช อัลเบียน, เชลซี, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, สโต๊ค ซิตี, เซาแธมป์ตัน, อาร์เซนอล และ สวอนซี ซิตี ฤดูกาลนี้ เปเยกรินี นำ "เรือใบ" คว้าแชมป์มาแล้ว 1 ถ้วยคือ ลีก คัพ ถ้ามองตามเนื้อผ้าตอนนี้เหลือลุ้นอีกถ้วยคือ แชมเปียนส์ ลีก ที่ถูกจับสลากให้พบกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แชมป์ ลีก เอิง ฝรั่งเศส 4 ปีติดต่อกัน

แมนฯซิตี เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย แชมเปียนส์ ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ การจะหวังผ่าน เปแอสเช ก็พอมีความเป็นไปได้ แต่ต้องให้ผู้เล่นคีย์แมนท็อปฟอร์ม นำโดย อกูเอโร กองหน้าไซส์เอสทีมชาติอาร์เจนตินา ที่มีสถิติยิง 16 ประตูจากการสตาร์ท 18 นัดหลังสุด ถือว่าตัวเลขโดดเด่นพอๆ กับ MSN 3 ประสานแดนหน้าของ บาร์เซโลนา รวมถึง คริสเตียโน โรนัลโด แนวรุก รีล มาดริด รวมถึงภาวนาให้ เดอ บรุยน์ กับ กอมปานี หายเจ็บโดยเร็ว

แต่ เปแอสเช เหมือนมีกระตุ้นมากกว่า เพราะผลจับสลากคือเลี่ยง บาร์เซโลนา ได้สำเร็จ ดังนั้นย่อมหวังลิ่วรอบรองชนะเลิศครั้งแรกต่อจากปี 1994-95 ที่ผ่านมาเจอกับ แมนฯซิตี ครั้งเดียวคือเตะที่ แมนเชสเตอร์ สเตเดียม ฤดูกาล 2008-09 ศึก ยูฟา คัพ รอบแบ่งกลุ่มปรากฎว่าเสมอกัน 0-0 นักเตะชุดปัจจุบันที่ผ่านเกมดังกล่าวคือ ฮาร์ท, กอมปานี และ พาโบล ซาบาเลตา

ถ้า แมนฯซิตี จับพลัดจับผลูได้แชมป์ยุโรปจะถือว่ายิ่งกว่าฝันสำหรับตอนจบอำลาของ เปเยกรินี ซึ่งโลกลูกหนังก็มีเรื่องราวแบบนี้ให้เห็นมานักต่อนักแล้วและจะถือเป็นแรงกดดันสำหรับ เป๊ป ที่จะมารับงานต่อ หรือคว้าท็อปโฟร์ไปเล่น แชมเปียนส์ ลีก ก็เป็นของขวัญที่น่าพอใจสำหรับฤดูกาลที่ตะกุกตะกักเช่นนี้ หรือสุดท้ายอาจจะไม่ได้อะไรเลยต้องไปเริ่มต้นกัดใหม่ปีหน้า เรียกได้ว่ายังออกได้ทุกหน้าสำหรับที่กล่าวไปแล้ว